แต่อำนาจนอกระบบคิดผิด เพราะผ่านไป 1 ปี มีการเลือกตั้งใหม่ พรรคพรรคพลังประชาชน(พรรคนายกทักษิณ) ก็ยังคงได้รับเลือกกลับมาเป็นรัฐบาลเหมือนเดิม

อำนาจนอกระบบจึงใช้ศาลเข้ามาจัดการกับรัฐบาลพรรคพลังประชาชน  จนได้พรรคการเมืองที่อำนาจนอกระบบพอใจ ปีใหม่มีการเข้าไปอวยพร ถ่ายรูปร่วมกัน เพราะคิดว่าทุกอย่างอยู่ในกำมือของตัวเองแล้ว

แต่กลับไมเป็นอย่างที่คิด เมื่อมาร์คมาเป็นนายก ทำให้เกิดการฆาตกรรมหมู่กลางเมืองคนตายไป 91 ศพ บาดเจ็บไปร่วม 3,000 คน

จนมาเลือกตั้งเมื่อ 3 ภกค.2554 อำนาจนอกระบบกลับพ่ายแพ้นายกปูอย่างเละเทะย่อยยับอีกครั้ง ตอนนั้นใครจะรู้ว่านายมาร์คผู้ที่มีภาพลักษณ์จะที่ใสซื่อ จะรู้ทุกอย่างล่วงหน้าจากการวางแผนกันกับอำนาจนอกระบบ

จนกระทั่งเมื่อนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ออกมาแฉ จึงได้รู้ว่าที่ดูหน้าตาใสๆ ไม่ได้ใสตามหน้าที่เห็นกันอยู่ มีสีงที่ซ้อนอยู่ข้างหลังหน้าใสๆแบบนั้น

แผนการรัฐประหารครั้งนั้น ได้เกิดเหตุการณ์ที่เลยเถิดจนบ้านเมืองเกิดความแตกแยกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

และในวันนี้กลับทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนกับ เหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 กย.2549 กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง คือวิกฤตน้ำท่วมที่เป็นอยู่ขณะนี้ มันเหมือนกับว่ามีการเขียนบทไว้ล่วงหน้า เมื่อนายมาร์คแสดงอาการกระตือรือร้นในการออกไปช่วยประชาชนที่ถูกน้ำท่วม ทำตัวเหมือนพระเอก ทำให้ตัวเองดูโดดเด่น ทำให้ตัวเองอยู่หน้าสื่อ ซึ่งต่างจากตอนที่ตัวเองยังเป็นรัฐบาลอยู่  แต่มันต่างกันที่ตอนนี้น้ำมันท่วมมากมายจนเกินคาด เกินกว่าการควบคุมใดๆได้

ใครจะคิดว่าเมื่อทำรัฐประหารวันที่ 19 กย.2549 แล้วเสร็จจะเกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชนได้มากมายขนาดนี้ และใครคงจะนึกไม่ถึงว่าการสร้างวิกฤตน้ำท่วมเพื่อให้มาร์ค มีบทบาทโดดเด่นในการช่วยเหลือประชาชนในภาวะน้ำท่วมครั้งนี้ มันจะเลยเถิดไปจนเอาไม่อยู่ บ้านเมืองจมอยู่ใต้บาดาล ประเทศชาติเละเทะ วุ่นวายได้ขนาดนี้ เมื่อมีกรณีการที่นายเรื่องไกร ไปยื่นเรื่องฟ้องนายมาร์ค กรณีบริหารน้ำผิดพลาด ทำให้อดคิดไม่ได้ว่านี่คือการวางน้ำ ไม่ใช่วางยาอย่างที่มีคนกล่าวอ้างกันไว้