ชาวกรุงเทพฯโปรดอดทนรออีก 2 วัน
รอให้ช่วงน้ำทะเลหนุนสูงรอบเซมิไฟนัลผ่านพ้นไป แม่น้ำเจ้าพระยาก็จะผอมลง

เป็นโอกาสดีที่จะเร่งระบายมวลน้ำใน กทม.ออกสู่อ่าวไทยได้อย่างสะดวกโยธิน
ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำที่ท่วม กทม.ลดลงอย่างชัดเจน

ถนนหลายสายที่ยังจมบาดาลก็จะเริ่มเปิดบริการให้รถเล็กวิ่งผ่านได้ซะที

นี่คือสิ่งที่ กทม. และ ศปภ.ฉายหนังโฆษณา

แต่ทว่าในสถานการณ์จริง การระบายน้ำท่วมใน กทม.มันไม่สะดวกโยธินอย่างที่คุย

ถึงแม้ว่า กทม.จะมีสถานีสูบน้ำขนาดใหญ่ในฝั่งกรุงเทพฯ 10 สถานี
มีศักยภาพสูบน้ำออกไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำบางปะกง และอ่าวไทย รวม 257 ล้าน ลบ. เมตรต่อวินาที

มีสถานีสูบน้ำฝั่งธนบุรีอีก 8 สถานี มีศักยภาพสูบน้ำออกทั้งแม่น้ำเจ้าพระยา
แม่น้ำท่าจีน และอ่าวไทย อีก 300 ลบ.เมตรต่อวินาที

รวมกำลังสูบมหึมามหาศาลถึง 523 ล้าน ลบ.เมตรต่อวินาที

แถมยังมีอุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำอีก 2 อุโมงค์คือ อุโมงค์พระรามเก้า
อุโมงค์พระโขนงช่วยระบายน้ำใต้ดิน

แค่นั้นยังไม่สะใจ ศปภ.ยังประเคนเครื่องสูบน้ำเพิ่มให้ กทม. ตามที่คุณขอมา

อีกไม่ต่ำกว่า 80 ตัว

“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าถ้า กทม.สามารถเดินเครื่องสูบน้ำเต็มอัตราศึก 100
เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำท่วมที่ยังแช่เบ้าอยู่ในพื้นที่ 29 เขตของ
กทม.จะแห้งแกร๊กภายในไม่เกิน 10 วัน

หรือช้าที่สุดไม่เกิน 15 วัน!!

ไม่ยืดเยื้อไปถึงเดือนครึ่ง หรือก่อนสิ้นเดือนธันวาคมอย่างที่ผู้ว่าฯ กทม.
“ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร” ฟันธง

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า อุปสรรคใหญ่ที่ทำให้การระบายน้ำใน กทม.ต้องลากยาวนานขึ้น 3
เท่าตัว เพราะการจะสูบน้ำออกจาก กทม.ไม่รูดปื๊ดๆๆอย่างที่คาดการณ์

เพราะ กทม.ระบายน้ำไม่ถึง 1 ใน 3 ของศักยภาพเครื่องสูบน้ำที่ กทม.มีอยู่จริง

หลักฐานที่ยืนยันได้คือ สถานีสูบน้ำใหญ่ชายทะเล ทั้งด้านตะวันออก (คลองด่าน)
และด้านตะวันตก (สนามชัย บางขุนเทียน)
มีน้ำไปให้สูบน้อยกว่ากำลังเครื่องสูบน้ำที่มีอยู่ในมือ

ปัญหานี้ไม่ใช่เพิ่งเกิด แต่เกิดมาพร้อมกับน้ำท่วม กทม.

“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่า อุปสรรคที่ทำให้ระบบระบายน้ำของ
กทม.ต้องยักแย่ยักยันไปถึงสิ้นปีเกิดจากปัจจัย 4 ประการ

1, เพราะ กทม.เป็นพื้นที่ราบ ระบายน้ำได้ช้ากว่าพื้นที่ลาดชัน

2, ปัญหาผังเมือง กทม. ที่มีตรอกซอกซอยยุ่บยั่บ น้ำท่วมขังเป็นหย่อมๆ
การระบายน้ำไม่คล่องตัว

3, ปัญหาขยะใน กทม.ไปอุดตันการทำงานของเครื่องสูบน้ำ
ทำให้ประสิทธิภาพการระบายน้ำลดลง

4, ปัญหาลำคลองตื้นเขินเต็มไปด้วยผักตบชวา และมีสิ่งก่อสร้างรุกล้ำเข้าไปในลำคลอง
ทำให้การระบายน้ำติดขัด น้ำเอ่อล้นจากคลองไหลทะลักไปท่วมบ้านเรือนประชาชน

นี่คืออุปสรรค 4 ประการ ที่ทำให้การ ระบายน้ำต้องใช้เวลานานขึ้น 3 เท่าตัว

“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่าปัญหาขยะมหาศาล ซึ่งคาดว่ามีมากกว่า 3 ล้านตัน
เป็นเรื่องที่ต้องทำใจ เพราะมีทั้งขยะที่มากับน้ำท่วม
และขยะจากบ้านเรือนประชาชนที่ถูกน้ำท่วม 2 เด้งซ้อนกัน

แต่ปัญหาลำคลองตื้นเขินเต็มไปด้วยผักตบชวา
แถมปล่อยให้มีการก่อสร้างรุกล้ำเส้นทางระบายน้ำตามธรรมชาติที่มีอยู่เดิม
เป็นความบกพร่อง ไร้ประสิทธิภาพของ กทม.โดยตรง

เพราะ กทม.รู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าน้ำจะท่วม กทม. แต่กลับไม่เร่งขุดลอกคลอง
เปิดทางน้ำไหลให้รวดเร็ว

กทม.ไม่ได้เร่งกำจัดผักตบชวาจำนวนมหาศาลที่ปิดกั้นทางน้ำทุกลำคลอง

กทม.ปล่อยปละละเลยให้ชาวบ้านปลูกสร้างบ้านเรือนรุกล้ำลำคลอง ลำราง
ทำให้เส้นทางน้ำผ่านอุดตัน

ความผิดนี้ โบ้ยใครไม่ได้ กทม. ต้องรับไปเต็มๆ.

"แม่ลูกจันทร์"

http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/216730

ไม่ได้แปะ  ไทยรัฐ  หลายวัน  มีคนถามถึง เอาใจแฟน "ไทยรัฐ"
วันนี้เจอ "แม่ลูกจันทร์"  จี้เรื่องขยะ  กับบ้านเรือน  รุกล้ำ ลำคลอง
ถูกใจมาก  เลยต้องเอามาให้อ่านกัน  ถูกใจ  คนแปะ  แต่คนที่ถาม
หา "ไทยรัฐ" จะถูกใจไหม ?  สำหรับคอลัมน์นี้  ....หึ หึ

หน้าไหน  จะออกมาแก้ตัวแทน  เชิญเลย  .........