ปู เผยญี่ปุ่นร่วมวางแผนป้องกันน้ำท่วมระยะยาว
เมื่อ 18 พ.ย. ที่ประเทศอินโดนีเซีย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือทวิภาคี กับนายโยชิฮิโกะ โนดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระหว่างเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 19 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ว่าได้ใช้โอกาสนี้เล่าถึงการแก้ไขปัญหาในการฟื้นฟูอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับญี่ปุ่น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าโดยรวมนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นพึงพอใจ และพร้อมให้การสนับสนุนในการฟื้นฟู และป้องกันอุทกภัย ตนเสนอให้ตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างไทยและญี่ปุ่น และขอให้ญี่ปุ่นส่งผู้เชี่ยวชาญของญี่ปุ่นมาทำงานร่วมกับไทย ในการวางแผนและป้องกันความปลอดภัยจากน้ำท่วม โดยไทยพร้อมอำนวยความสะดวกเรื่องวีซ่า และการนำเข้าอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการฟื้นฟู และเกิดความมั่นใจโดยเร็ว
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่าส่วนตัวเชื่อว่า นักลงทุนญี่ปุ่นยังมั่นใจในประเทศไทย เห็นได้จากการที่ญี่ปุ่นให้ความร่วมมือตามที่ไทยได้ร้องขอไป และสำหรับการลงทุนในอนาคต ญี่ปุ่นจะยังมีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศไทย และในอาเซียน อาทิ การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และยังต้องการเห็นความร่วมมือกันของประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง ที่จะเชื่อมโยงกัน และจะร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ
และสุดท้ายจะเน้นย้ำในเรื่องที่ไทยก้าวสู่ความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ซึ่งสหรัฐอเมริกาจะให้ความสำคัญทางด้านความมั่นคงทางการเมือง และให้ความสำคัญในการเป็นประชาธิปไตยและใช้กฎหมายแบบหลักนิติธรรมอย่างสมบูรณ์
ที่มา กด
ก่อนหน้านี้ก็เชิญผู้เชี่ยวชาญจากเนเธอร์แลนด์ มาเก็บข้อมูลต่างๆในขณะที่น้ำกำลังท่วมหนัก และจะจ้างให้อยู่ในทีมฟื้นฟู-แก้ไขปัญหาน้ำท่วมในประเทศไทย เพราะประเทศนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นชาติที่แก้ปัญหาน้ำท่วมได้อย่างที่เรียกกันว่า
แก้ปัญหาน้ำท่วมได้ดีและเก่งที่สุดในโลก
และมีผู้เชี่ยวชาญจาก"จีน"มาให้คำปรึกษา เพราะประเทศจีนถือได้ว่า มีปัญหาน้ำท่วมขนาดใหญ่และเป็นวงกว้าง อันดับต้นๆของโลก มีสารพัดวิธีในการแก้ปัญหา
และในการประชุมอาเซี่ยนซัมมิทครั้งนี้ นายกฯปู ได้เชิญญี่ปุ่นซึ่งมีทั้งเทคโนโลยีชั้นนำของโลก และมีทั้งทรัพย์สิน-โรงงานที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ให้มาร่วมกันแก้ปัญหาให้ประเทศไทยและยังได้มั่นใจว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้มาร่วมกันปกป้องทรัพย์สินของคนในชาติชาติตัวเองได้ด้วย เพื่อเรียกความมั่นใจจากนักลงทุนไม่ให้หนีไปใหน รวมทั้งที่จะมาลงทุนใหม่ๆอีกด้วย
นายกฯโง่คิดได้แค่นี้หละครับ
ไม่เหมือนนายกฯฉลาด ที่ไปปรึกษาการแก้ปัญหาน้ำท่วมกับประเทศ "มันดริฟท์"โน่น ทั้งที่ประเทศนั้นไม่เคยมีปัญหาน้ำท่วมขังซักหน่อย 