คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน

กลายเป็นภาพเปรียบเทียบอย่างเห็นได้ชัด สำหรับบทบาทของ
ฝ่ายทหารในยุค 2 รัฐบาล นั่นคือ บทบาทของทหารในสมัย
รัฐบาลอภิสิทธิ์ ซึ่งมีการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อให้ทหารเข้าไป
ปะทะกับม็อบ

แถมเป็นม็อบที่ชุมนุมเรียกร้องตามวิถีทางประชาธิปไตย
ลงเอยมีผู้เสียชีวิต 91 ศพ

เป็นประวัติศาสตร์เลือดทางการเมือง ที่ไม่อาจลบล้างหรือลืม
เลือนได้ง่ายๆ

ทั้งยังกลายเป็นคดีความที่มีความคืบหน้าไปเป็นลำดับ

กับบทบาทต่อมาในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ซึ่งประเทศชาติ
เผชิญวิกฤตน้ำท่วมใหญ่

รัฐบาลมอบหมายให้ทหารเข้ามามีบทบาทในการต่อสู้กับน้ำ
ช่วยคลี่คลายความทุกข์ร้อนของประชาชน

แถมรัฐบาลยืนยันไม่ใช้อำนาจพิเศษ หากแต่เน้นการทำความ
เข้าใจกับประชาชน

ทหารจึงเข้ามามีบทบาทในวิกฤตนี้โดยไม่ต้องประกาศ
ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นการทำงานด้วยจิตใจ

ผลสุดท้าย ทหารได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม

ฝ่ายทหารถึงกับมองว่า นี่คือเหตุการณ์ที่ช่วยเรียกภาพพจน์ดีๆ
กลับคืนมา หลังจากติดลบหนักในช่วงรัฐบาลอภิสิทธิ์

ในเมื่อทหารเป็นกลไกส่วนหนึ่งของรัฐบาล

รัฐบาลสามารถสั่งกองทัพให้เข้ามามีบทบาทเรื่องอะไรก็ได้ตามกฎหมาย!

รัฐบาลยิ่งลักษณ์ให้ทหารเข้ามาช่วยกอบกู้บ้านเมืองพ้นภัยน้ำ

ทหารก็ลงมาทำกันเต็มกำลัง เพราะเป็นงานด้านบวก ไม่ต้องไปสู้รบเข่นฆ่าใคร

ย้อนไปยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ ถึงกับต้องงัดกฎหมายพิเศษออกมาใช้
เพื่อให้ทหารเข้ามาควบคุมการชุมนุมทางการเมือง

ทหารจะทำด้วยความเต็มใจหรือไม่ ใช้วิจารณญาณไตร่ตรองดูได้ไม่ยาก!?

แต่วันหนึ่ง เมื่อมีพนักงานสอบสวนเชิญตัวแทนของกองทัพไปให้การ

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกของศอฉ.ขณะเกิดเหตุ
ก็ต้องเข้าให้การตามข้อเท็จจริง

ทั้งอาจจะได้จังหวะชะล้างความรู้สึกของทหาร

จึงนำมาสู่คำให้การที่ยืนยันได้ว่า ทหารจะไม่สามารถปฏิบัติการ
ในเมืองเช่นนั้นด้วยอำนาจของทหารเองได้เลย

ทุกอย่างมาจากอำนาจของฝ่ายการเมือง ซึ่งนายกฯ
ขณะนั้นเป็นผู้เซ็นตั้งศอฉ.ขึ้นมากับมือ

คำสั่งทุกอย่างมาจากนักการเมืองที่กำกับสั่งการศอฉ.ทั้งสิ้น!

 http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dPVEU1TVRFMU5BPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1TMHhNUzB4T1E9PQ==

"ไก่อู" เฉลย

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
สมิงสามผลัด

ค้างเติ่งอยู่เกือบ 2 ปีสำหรับคดีสลายม็อบแดง 91 ศพ

ถึงตอนนี้ก็ถือได้ว่าคดีมีความคืบหน้าขึ้นเยอะ

หลังรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ติดตามทวงความยุติธรรมมาอย่างต่อเนื่อง

โดยให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โอนสำนวนคดี 13 ศพ ซึ่งเคยสรุปไว้ว่าน่าจะเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ กับอีก 3 ศพที่วัดปทุมวนาราม

รวม 16 ศพส่งกลับไปให้ตำรวจนครบาลรับผิดชอบ

ตำรวจก็ขึงขังจริงจัง เดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม

จนกระทั่งวันที่ 15 พ.ย. ได้สอบปากคำ "เสธ.ไก่อู" พ.อ.สรรเสริญ
แก้วกำเนิด ในฐานะโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)

การสอบครั้งนี้ มีความสำคัญยิ่ง

เพราะเสธ.ไก่อูเป็นพยานปากสำคัญที่อยู่ใน "ศอฉ." มาตั้งแต่ต้นยันจบ

รู้เห็นทุกขั้นตอนกระบวนการทำงานของศอฉ.

คำให้การของเสธ.ไก่อูระบุว่า ภารกิจของทหาร จะดูแลความ
มั่นคงของชาติ ปกป้องอธิปไตยตามแนวชายแดน ปกติทหาร
ไม่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ภายในเขตเมือง หรือ
ในเขตกทม.เลย

ฉะนั้น การเข้ากระชับพื้นที่ม็อบเสื้อแดงเมื่อปี"53
จึงไม่ใช่การทำตามภารกิจของทหาร

แต่มาจากคำสั่งของศอฉ. !

ที่สำคัญ "ศอฉ." ไม่ใช่องค์กรที่เกิดขึ้นเอง แต่มีขึ้นโดยคำสั่ง
ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ขณะนั้น และมีนายสุเทพ
 เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในขณะนั้น เป็นผอ.ศอฉ.

สรุปแบบเข้าใจง่ายๆ ก็คือ ทหารจะไม่สามารถนำกำลัง
เข้าสลายม็อบแดงได้เลย

หากไม่มีคำสั่งพิเศษจาก "ศอฉ." !?

ถึงตอนนี้ก็เริ่มเห็นเค้าลางของรูปคดี 91 ศพชัดเจนขึ้น

ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ใครเป็นผู้สั่งการ ก็อยู่ในสำนวนการ
สอบสวนของตำรวจหมดแล้ว

และดูจากคำให้การของเสธ.ไก่อู ก็เริ่มเข้าใจความ
"จำเป็นและจำใจ"ของทหาร

เห็นใจแม่ทัพนายกองทั้งหลายอยู่เหมือนกัน

เข้าใจได้ว่าเหตุการณ์ 91 ศพนั้น บทบาททหารถูกกำกับ
โดยรัฐบาลชุดก่อนและศอฉ.

แตกต่างไปจากบทบาททหารในปัจจุบันที่กำลังช่วยเหลือ
ประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งกำกับโดยรัฐบาลชุดนี้และศปภ.

ต่างกันราวฟ้ากับดินจริงๆ

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd2Iyd3dNVEU1TVRFMU5BPT0=&sectionid=TURNd05BPT0=&day=TWpBeE1TMHhNUzB4T1E9PQ==

หึ หึ  ถามคุณ  NijDoi  ถ้าไม่มี  ศอฉ.  จะมีภาระกิจเหล่านี้ไหม ?
ถูกต้อง  ศอฉ.  ก็ทำไปตามกระบวนการทางทหาร   แต่ "ข่าวสด"
จับแค่ประเด็นเดียว  คือการตั้ง ศอฉ.  และการทำงานของ ศอฉ.
และใครคือ  ผู้อำนวยการศอฉ.  "ไก่อู"  ให้การตามความเป็นจริง
และก็ไม่มีใครบิดเบือน

แต่คนที่ถูกยิงที่ "หัว"  นี่กระสุนมาจากไหน  หรือ  6  ศพที่วัดปทุมฯ
ก็ยังไม่จบ