"สุริยะใส"ทวิตวิพากษ์จดหมาย"แม้ว" 3 ปมสำคัญ ซัดเดินเกมนิรโทษกรรมให้ตัวเองตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 พฤศจิากายน นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ ทวิตข้อความในชื่อ @Suriyasai ถึงกรณีจดหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า ลับลวงพราง ทักษิณร่อน จม.บอกเสียสละเพื่อปรองดอง ผมอ่าน จม.คุณทักษิณที่เขียนด้วยลายมือล่าสุดกรณี พ.ร.ฎ.อภัยโทษว่าตนพร้อมเสียสละ นั้น มี 3 ปม ที่ต้องตีความ ปมแรก ใน จม.ไม่มีบรรทัดไหนประกันว่าคุณทักษิณจะไม่เป็น 1 ในจำนวน 26,000 นักโทษที่ได้อภัยโทษในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ ถ้ามีชื่อโผล่มา ก็คงมีคำอธิบายว่าเป็นเรื่องของรัฐบาลและเป็นพระราชอำนาจ ตนไม่เกี่ยว ทุกฝ่ายควรหยุดเคลื่อนไหวเพราะมีพระราชวินิจฉัยแล้ว
ปมสอง ใน จม.บอกว่า ตนพร้อมเสียสละ แม้ไม่ได้รับความเป็นธรรมมา 5 ปี พี่น้องที่สนับสนุนผมก็อย่าผิดหวัง แสงแห่งธรรมปรากฏทุกอย่างจะจบเอง ข้อความนี้ย้ำยืนยันว่า คุณทักษิณยังไม่ยอมรับผิดตามคำพิพากษาศาล และแน่นอนย่อมไม่มีวันรับโทษใดๆ แต่ให้ผู้สนับสนุนรอ วันแสงแห่งธรรม นัยยะหนึ่งก็ประกันว่าคุณทักษิณไม่ได้อยู่เฉย แต่เดินเกมนิรโทษกรรมให้ตัวเองตลอดเวลา หาช่องหาจังหวะรุกบ้างถอยบ้าง เฉกเช่น พ.ร.ฎ.นี้ ถ้าสุดท้ายต้องถอยเพราะแรงต้านมากกว่าที่คิด ไม่ได้จมไปกับมวลน้ำ อีกไม่เกิน 3 วัน นายกฯ จะแถลงด้วยตัวเองว่า รัฐบาลนี้จะไม่ทำเพื่อคนๆ เดียว
ปมสาม วาทกรรม รู้จักให้อภัย หรือ Forgive and Forget ลืมเรื่องเก่าเข้าสู่มิติใหม่ๆ... เอาเข้าจริงๆ คนที่ยังลืมไม่ได้และยังจมปรักอยู่ อยู่กับอดีตที่รุ่งโรจน์ ปล่อยวางไม่ลงก้าวสู่มิติใหม่ๆ ไม่ได้ก็คือ คุณทักษิน นึกถึงช่วงวอดีโอลิงก์ปลุกม็อบราชประสงค์ ก็คงจะเห็นภาพชัด ประเทศนี้ยังต้องการความเสียสละอีกมาก เพื่อก้าวสู่มิติใหม่ๆ ผมว่าเริ่มต้นที่ผู้นำอย่างคุณทักษิณกลับมารับโทษตามคำพิพากษาของศาลนี่ต่างหากเป็น แสงธรรม ของทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบคุณทักษิณ ซึ่งเป็นคนไทยด้วยกันครับ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1321778776&grpid=00&catid=&subcatid=
คนพวกนี้ผมขอเรียกได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า "พวกหากินกับทักษิณ" ที่ผ่านมา ทักษิณทำตัวเงียบ พวกนี้เลยไม่มี"วัตถุดิบ" อะไรที่จะมาเล่นกับม็อบและแฟนๆทาง ASTV เลยมีข่าวฉาวโฉ่ฟ้องร้องกล่าวหาว่า"โกงเงิน"กันเอง
คราวนี้มีข่าวเรื่องการออก พรฎ. คนพวกนี้ได้ยินว่า มีการเอื้อให้"ทักษิณ" ทีแรกหูผึ่ง กะว่า "งานเข้าแล้ว ซึ่งแน่นอนว่า ที่ใหนมีงาน ที่นั่นย่อมมีเงิน" ต่างรีบพยายามออกมาทำงานของตัวเอง(ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เห็นคนพวกนี้ทำการทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย)
แต่พอ ท่านประชา ออกมาเฉลยว่า แก้อะไรไปบ้าง นี่คืออาการ "ผิดหวังและหน้าแตกอย่างถึงที่สุด"เลยออกมาแก้เก้อแบบนี้หละครับ
สุดท้ายนี้อยากฝากบอกนายสุริยะใสว่า
คนเราถ้าจะเป็นคนดี เราต้องทำที่ตัวเราเองคือ คิดดีและทำดีครับ ถึงจะเป็นคนดี
ถ้าทำเพียงแค่ กล่าวหาผู้อื่นว่าเป็นคนไม่ดีไปวันๆแบบนี้ ไม่ช่วยให้ตัวเองเป็นคนดีขึ้นมาได้แย่นอนครับ