ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดคุณคนชายน่าจะเริ่มต้นประเดิมการตั้งกระทู้โดยแตกประเด็นจากกระทู้ P10303202 [รักคนเสื้อแดง] พิสูจน์ บิ๊กตู่ vs ตู่ ด้วยข่าวเก่า 10 เมษา ชิ้นสำคัญ เดิมพันความเป็นคนไทย บลาๆๆๆ
และพุ่งเป้าไปที่ประเด็นหัวข้อข่าว "ประยุทธ์" ฮึ่มยอมไม่ได้ลูกน้องถูกแดงทำร้าย หลังจากนั้นคุณคนชายก็ตั้งกระทู้ต่อเนื่องอีก 2 กระทู้ ซึ่งคุณคนชายได้ให้เครดิตสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศและน่าจะรวมถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)ว่า มีความน่าเชื่อถือมากกว่าผม
มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร สำหรับคนที่มีการเลือกข้างเลือกที่จะเชื่อข้อมูลจากองค์กรที่ตนเองให้การยอมรับอยู่ฝ่ายเดียว (ย้ำฝ่ายเดียว) ชุดข้อมูลขององค์กรสื่อ องค์กรสิทธิฯ ที่คุณคนชายยกมาอ้างอิง สำหรับคนที่ติดตามการเมืองมา ถ้าไม่ใช่พวกอนุบาลทางการเมืองก็ย่อมที่จะรู้อยู่แก่ใจว่า องค์กรเหล่านั้นได้คัดเลือกแต่งตั้งบุคคลที่ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับทักษิณและคนเสื้อแดงเข้าไปดำรงตำแหน่งกันเกือบทั้งสิ้น
อดีตคณบดีจุฬาคณาจารย์ตัวแม่ที่ออกมาร่วมไล่ร่วมล้มระบอบทักษิณได้รับเลือกเป็นประธานกสม. นายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ อดีตผู้ต้องหาบุก NBT ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการสิทธิฯ เอาแค่ชี้หัวและหาง 2 คนนี้ ก็ไม่ไหวจะเคลียร์แล้วครับ แล้วคุณคนชายจะมาให้ผมทำการยอมรับผลงานของคนที่ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างนั้นหรือครับ
เวลาบุคคลในองค์กรเหล่านี้โผล่หน้าออกมาแต่ละครั้ง เพียงแค่ผมได้ยินชื่อองค์กร หรือชื่อบุคคลพวกนี้ ผมก็รู้ผลลัพธ์ล่วงหน้าแล้วว่าบุคคลพวกนี้จะพูดเป็นคุณแก่ใคร องค์กรพวกนี้จะกล่าวโทษแก่ใคร แค่อ้าปากเห็นลิ้นไก่ มองทะลุ ตับ ไต ไส้ พุง อะไรที่ชั่วเสื้อแดงทำ อะไรที่ดีรัฐบาลกับกองทัพทำ กลายเป็นองค์กรแอนตี้เสื้อแดง ทำตนเป็นองครักษ์พิทักษ์คนถือปืน ปกป้องรัฐบาลอภิสิทธิ์แอนด์เดอะแก๊ง
ผมขอวกกลับเข้าประเด็นกระทู้ "ประยุทธ์" ฮึ่มยอมไม่ได้ลูกน้องถูกแดงทำร้าย โดยผมจะขอยกเอาข้อความของคุณคนชายมาตั้งเป็นโจทย์ที่ละข้อ เพื่อที่ผมจะทำการชี้แจงไล่กันทีละประเด็น แต่ก่อนที่จะเข้าเรื่องผมขอเท้าความถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 10 เมษายน แบบรวบรัดโดยย่อๆ ดังนี้
ก่อนที่จะมีการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงที่กรุงเทพ ต้นปี 2553 ในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ นปช.แดงทั้งแผ่นดินได้จัดชุมนุมสัญจรเปิดเวทีปราศรัยตามจังหวัดต่างๆ ต่างกรรมต่างวาระ และการปราศรัยในบางครั้ง แกนนำบางคนก็ได้มีคำพูดปราศรัยที่ส่อไปในแนวทางใช้ความรุนแรง โดยตั้งอยู่บนสมมติฐานเงื่อนไขสองประการ คือ
- หนึ่ง คนเสื้อแดงจะใช้ความรุนแรงตอบโต้ ถ้ารัฐมีการใช้กำลังเข้าจัดการกับคนเสื้อแดง
- สอง คนเสื้อแดงจะใช้ความรุนแรงตอบโต้ ถ้าทหารมีการทำรัฐประหารยึดอำนาจเกิดขึ้น*
*นี่จึงเป็นที่มาและที่ไปที่ศอฉ.ได้หยิบ นำคำปราศรัยที่เกิดก่อนที่จะมีการช่วงชุมนุมใหญ่ มาใช้ตัดต่อ ตัดแต่ง เพื่อทำการกล่าวร้ายป้ายสีว่า นี่เป็นคำสั่งให้คนเสื้อแดงทำการเผาเมืองในวันที่ 19 พฤษภาคมในภายหลัง
เมื่อถึงกำหนดเวลาชุมนุมใหญ่ ทางรัฐบาลจึงได้ใช้กำลังพลทหารและตำรวจครึ่งแสนเข้ามารับมือ ตลอดเส้นทางที่คนเสื้อแดงใช้สัญจรเดินทางเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพ จึงเต็มไปด้วยด่านของทหารและตำรวจที่ตั้งขึ้นมาเพื่อทำการสะกัดกั้นมวลชน พร้อมทั้งทำการตรวจหาอาวุธ ตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งก็ไม่ได้พบสิ่งผิดกฎหมายใด และการชุมนุมโดยสงบ สันติ อหิงสา ปราศจากอาวุธก็ได้เริ่มขึ้น โดยปราศจากความรุนแรงที่เกิดจากกลุ่มผู้ชุมนุมไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม
3 เม.ย. 2553 จากเดิมที่คนเสื้อแดงตั้งเวทีปราศรัยหลักที่เวทีผ่านฟ้า คนเสื้อแดงได้เคลื่อนขบวนมาตั้งเวทีปราศรัยตรงสี่แยกราชประสงค์เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเวที ซึ่งในเวลาต่อมา วันที่ 4 เม.ย. 2553 นายอภิสิทธิ์ได้ออกมาแถลงเรียกร้องให้คนเสื้อแดง "...
ให้กลับไปใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ชุมนุมที่ผ่านฟ้า..."
จิ้มดูคลิปคำพูดของนายอภิสิทธิ์ 9 เม.ย. 2553 หลังจากที่คนเสื้อแดงสามารถเข้าไปผลักดันให้ทหารถอนกำลังออกจากไทยคมลาดหลุมแก้ว ในช่วงหัวค่ำนายอภิสิทธิ์ได้ออกมาแถลงแสดงความรู้สึกเจ็บปวด "...วันนี้อาจจะเป็นวันที่เราผิดหวัง แต่เหตุการณ์ยังไม่จบครับ และผมเชื่อมั่นครับว่า หากเราดำรงอยู่ในความถูกต้อง ปกป้องกฎหมาย และระบบของบ้านเมืองของเรานั้น ในที่สุดเราจะต้องได้รับชัยชนะ.."
จิ้มดูคลิปคำแถลงทั้งหมดของนายอภิสิทธิ์ 10 เม.ย. 2553 ห่างกันเพียงแค่ 6 วัน จากข้อเรียกร้องของนายอภิสิทธิ์ที่ให้คนเสื้อแดงที่เปิดเวทีปราศรัยที่ราชประสงค์ กลับไปใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญชุมนุมที่เวทีผ่านฟ้า เพียงแค่ค่ำคืนเดียวที่อภิสิทธิ์รู้สึกผิดหวังและเจ็บปวดและประกาศจะเอาชัยชนะ ก็กลายมาเป็นยุทธการขอคืนพื้นที่เวทีผ่านฟ้าเพื่อเปิดเส้นทางการจราจรด้วยการใช้กำลังทหารพร้อมอาวุธสงครามไปซะอย่างงั้น
ในช่วงเที่ยงแม้จะมีคนเสื้อแดงบางส่วนไปรวมตัวกันหน้ากองทัพภาคที่ 1 เพื่อปิดกั้นไม่ให้ทหารออกมาทำการสลายการชุมนุม แต่เมื่อถึงฤกษ์ 13.00 น. ทหารก็ได้เริ่มออกปฏิบัติการ "ขอคืนพื้นที่"* (บนใบหน้า? เพื่อล้างความเจ็บปวด? เพื่อเอาชัยชนะ?) ด้วยมาตรการจากเบาไปหาหนัก ประเดิมด้วยรถฉีดน้ำที่หน้ากองทัพภาคที่ 1 พอเป็นพิธี แล้วตามด้วยปืนลูกซองที่บรรจุทั้งกระสุนยางและกระสุนจริง M16 Tavor Tar 21 รถหุ้มเกราะ รวมไปถึงหน่วยสนับสนุนทางอากาศที่ใช้เฮลิคอปเตอร์ยิงแก๊สน้ำตา
เสียงลือเสียงเล่าอ้างอันใดเล่าเอย ที่บอกว่า ปฏิบัติการจะสิ้นสุดภายในเวลาหกโมงเย็น มันเป็นเพียงแค่คำโกหกหน้าตายที่ได้พ่นออกมาจากปากของผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้อง
คนเป็นหัวหน้า ต้องมาทนดูลูกน้อง โดนสอยไปถึง 6 ราย ทั้งๆที่เป็นผู้รักษากฎหมาย ตลกไปแล้วคุณครับ ผมก็เห็นด้วย ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะทำอย่างที่พูด ขื่นไม่ทำ ก็เป็นการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ บ้านเมืองเสียหายจาก "พวกโจร" ...มาเรียกร้องอะไรครับ
ใครเป็นผู้ กระทำ ใครเป็นผู้ถูกกระทำ // อ่านเองเถอะครับ ใครกระทำตั้งแต่แรกเริ่ม นี้ผมอุสาห์เอามาจากเว๊บเสื้อแดงแท้ๆนะครับ ลองดูลำดับเหตุการณ์
- เบื้องต้นที่มีกลุ่มคนเสื้อแดงไปรวมตัวกันหน้าประตูกองทัพภาคที่หนึ่งนั่นอ่ะใช่ แต่หลังจาก 13.00 น. ฝ่ายที่รุกคืบและรุกไล่ มันคือทหารนะครับ โดยมีธงที่ตั้งไว้ก่อนล่วงหน้าแล้วตามข้อมูลที่ผมจะยกมาแสดงดังนี้
- @"ศอฉ."ลั่นจะยึดพื้นที่สะพานผ่านฟ้าคืนในวันนี้
ทางด้านพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก และโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายงานข่าว ว่า จะยึดพื้นที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศคืนให้ได้ภายในวันนี้ - ทิ้งแก๊สน้ำตาลงจากฮ.ใส่ผู้ชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.50 น. มีเฮลิคอปเตอร์บินวนบริเวณ สะพานผ่านฟ้าลีลาศ และได้มีการปล่อยแก๊สน้ำตาลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ ลงมาเพื่อสลายการชุมนุม ขณะที่แกนนำได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมออกมารวมตัวกันที่หน้าเวที พร้อมกับปลุกระดมให้ต่อสู้และดูสถานการณ์ต่อไป พร้อมทั้งมีการส่งโคมลอยเพื่อรบกวนการบินของเฮลิคอปเตอร์
- @ทหารรุกคืบยึดอนุสาวรีย์ฯเปิดเพลงพ่อหลวงของเรากล่อมเสื้อแดง
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 10 เมษายนว่า ทหารได้เข้าปักหลักอยู่โดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าหน้าที่จิตวิทยาของกองทัพบก ก็ได้เปิดเพลง "พ่อหลวงของเรา" และได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมกลับไปขึ้นรถกลับบ้าน
ขณะที่ผู้ชุมนุมมีการโบกธงไปมาและบอกต่อกันว่า มีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ ทำให้เกิดความไม่พอใจเจ้าหน้าที่ สถานการณ์โดยทั่วไปจึงเป็นไปด้วยความตึงเครียดและมีเฮลิคอปเตอร์บินวนโดยรอบ สังเกตการณ์ พร้อมกับทิ้งแก๊สน้ำตาลงมาเป็นระยะ ครั้งละ 4-5 ลูก
ทางด้านแกนนำเสื้อแดงบนเวทีผ่านฟ้ายังประกาศระดมผู้ชุมนุมไปดันทหารไว้ พร้อมขอรถกระบะไปจอดขวางด้วย
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
- คำว่า "พวกโจร" ที่คุณคนชายใช้ มันคือ ผู้ชุมนุมที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญที่ชุมนุมผ่านฟ้าเพื่อเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ยุบสภา ตามที่นายอภิสิทธิ์ได้ เคยกล่าวไว้ในวันที่ 4 เม.ย. นะครับ
- "ลูกน้องโดนสอยไปถึง 6 ราย" คุณคนชายน่าจะหมายถึงกรณีที่ทหารถูกลูกระเบิดลงกลางวงแล้วตาย 6 ราย และคุณคนชายได้หยิบยกเหตุการณ์มาเป็นปัจจัยเพื่อใช้ในการสนับสนุนข่าว "ประยุทธ์" ฮึ่มยอมไม่ได้ลูกน้องถูกแดงทำร้าย แต่ที่ผมอยากเรียนบอกคุณคนชายว่า ที่พล.อ.ประยุทธ์ออกมาทำการฮึมนั่นคือการออกมาแถลงในช่วงหลังจากที่มีการประชุมในเวลา 19.00 น.หรือ 1 ทุ่ม เป็นการออกมาฮึ่มที่ลูกน้องได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ช่วงเช้าถึงช่วงเย็นเท่านั้น
มันแปลกประหลาดมากที่คุณคนชายหยิบเอา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 3 ทุ่ม มาเป็นข้ออ้างของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเช่น 1 ทุ่ม ได้อย่างน่าตาเฉย เอาผลมาเป็นข้ออ้างของเหตุ พล.อ.ประยุทธ์กลายเป็นผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน ล่วงรู้อนาคตในอีก 2 ชั่วโมงข้างหน้า มันเป็นตรรกะและลำดับเวลาที่มั่วมากครับ
กรณีที่คุณคนชายนำลำดับเวลามาสลับหัวสลับหาง เอาผลมาเป็นข้ออ้างของเหตุ ทำให้ตรรกะวิบัตินี้ มันทำให้ผมต้องนึกถึงคำพูดของคุณหมอ นพ.กิตติภูมิ จุฑาสมิต แพทย์ดีเด่นในชนบท'52 ที่เคยกล่าวไว้ว่า "ข้อเท็จจริงที่กลับตาลปัตร ความรับรู้ของคนเปลี่ยนไปเพราะถูกบิดเบือน" ขึ้นมาทันทีทันใด
คนชาย : "ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ((เวลา 20.00 น.)) ทาง ศอฉ.ได้จัดทำบัญชีสรุปจำนวนกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ ทหารปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ได้มีการสลายการชุมนุมที่หน้ากองทัพภาคที่ 1 จากเหตุสลายการชุมนุมบริเวณสะพาณมัฆวานและราชดำเนิน จำนวน 63 นาย กำลังพลส่วนใหญ่มาจากพัน ร.มทบ. 11, กองทัพภาคที่ 1, ร. 31 รอ., ร. 12 พัน 2 รอ. กำลังที่ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่เกิดจากการปะทะจากกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บแบ่งเป็น ((โดนสะเก็ดระเบิด)) ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมตีด้วยไม้ ถูกของมีคม ถูกกระสุนปืน ถูกก้อนอิฐขว้าง และส่วนหนึ่งสัมผัสกับแก๊ซน้ำตา เบื้องต้นผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่ง รพ.ศิริราช และรพ.พระมงกุฎเกล้า ทหารที่ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นทหารทั้งสิ้น"
เอามาจากข่าวของคุณแหละครับ "โดนสะเก็ดระเบิด" ระเบิดอะไร
- ไอ้ที่ผมขีดเส้นใต้ นั่นคือช่วงเวลาที่บอกความหมายในตัวมันเองอยู่แล้วว่า เหตุการณ์ที่ทหารบาดเจ็บ คือ ยอดตั้งแต่ช่วงบ่ายโมง 13.00 น. ที่ทหารเริ่มทำการสลายจนถึง 2 ทุ่ม ใช่ไหมครับ ช่วงเวลานี้ยังไม่มีทหารคนไหนถูกสอยตายนะครับ
ประเด็นเรื่องอาวุธ ในช่วงบ่ายถึงเย็นกองทัพนักข่าวมีนับร้อยนับพัน ไม่มีนักข่าวหรือใครคนใดเลยที่จะสามารถทำการบันทึกรูปคนเสื้อแดงใช้อาวุธ สงคราม ยิงปืน ปาระเบิด ตั้งแต่ช่วงกลางวันแสกๆไปจนกระทั่งทหารบุกมาถึงหัวถนนสี่แยกคอกวัวและถนน ดินสอในเวลา 4 โมงเย็น
อาวุธส่วนใหญ่ของเสื้อแดงในตอนนั้นก็คือ ไม้ ก้อนอิฐ และแก๊สน้ำตาของทหารเอง ถ้าทหารปาแก๊สน้ำตามา คนเสื้อแดงก็หยิบกลับปากลับไป ถ้าคนเสื้อแดงปาระเบิดตั้งแต่กลางวันจริง กลุ่มทหารช่วงกลางวันคงมีสภาพไม่แตกต่างจากไปจากกลุ่มของพ.อ.ร่มเกล้า
แต่นี่ข้อเท็จจริง ตลอดเวลาที่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน มันกลับไม่มีเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้น (เสื้อแดงยิงปืน เสื้อแดงปาระเบิดในช่วงที่มีการขอคืนพื้นที่ตอนบ่ายถึงเย็น) ถ้าเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นจริง อย่างน้อยสื่อก็ต้องมีการบันทึกภาพทหารล้มระเนระนาด นอนร้องครวญครางบาดเจ็บปางตาย เหมือนเช่นกรณีพ.อ.ร่มเกล้า
ที่สำคัญถ้าช่วงบ่ายถึงเย็นมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ไก่อูและแทนคุณคงไม่พลาดโอกาสทองในการที่จะหยิบเอาเทปหรือภาพเหล่านั้นมา มาทำการเปิดถล่มกลุ่มคนเสื้อแดงให้ตายจมธรณีไปตั้งแต่ช่วงหัวค่ำแล้ว ที่ผ่านมาจะมีเพียงที่ไก่อูและแทนคุณนำเทปและภาพช่วงเวลากลางคืนที่มีการปะทะกัน แล้วเกิดระเบิดตกกลางวงนายทหารตอนสามทุ่มมารีรันฉายวนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่เท่านั้น
ผมยังไม่เคยเห็นการชี้แจงของไก่อูหรือการนำเสนอของแทนคุณชิ้นใด ที่นำภาพหลักฐานมาผูกมัดคนเสื้อแดงว่า ในระหว่างที่มีการขอคืนพื้นที่ในช่วงบ่ายถึงเย็น คนเสื้อแดงได้ใช้อาวุธทำการยิงหรือปาระเบิดใส่ทหารจนได้รับบาดเจ็บจำนวนมากเลย
คนชาย : เห็นมั๊ย มันไม่ยอมรับ แต่...มาดูๆ เมธีว่าไง
http://goo.gl/vekf7
นาย ธาริตกล่าวต่อว่า นายเมธี ยอมรับว่า อยู่ในเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย.จริง และคนทางฝ่ายนายเมธี ได้ใช้อาวุธสงคราม ยิงถล่มใส่ทหารจริง
บิดเบือนได้ถ้วย หยะแหยงครับ อิอิ
เฮ้อ....ผมนะ ไม่มีเวลาหาข้อมูลมาเถียงกับคุณมากนัก
- เล่าโดยย่อสั้นๆ นายเมธีได้มาหยิบอาวุธปืนบนเวที หลังจากที่การปะทะสงบยุติไปแล้ว ไม่ใช่นายเมธีมาหยิบแล้วนำไปแจกจ่ายเพื่อเอาไปใช้ยิงกับทหาร ที่คุณคนชายหยิบเอาคำสารภาพของนายเมธีมาอ้างนี่ ก็ถือเป็นการให้การในลักษณะเล่าลำดับเรื่องสลับเวลาไม่ถูกต้องตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
- เรื่องของนายเมธีและธาริตแห่ง DSI คุณคนชายอาจจะรับรู้ในแบบที่คุณคนชายอยากจะรู้ แต่สมาชิกท่านใดอยากรู้รายละเอียดให้มากกว่านี้ ผมขอเรียนเชิญให้เข้าไปอ่านกันยาวๆ ที่กระทู้นี้ครับ จับผิด DSI กรณี แถลงคำสารภาพของ "เมธี"
คนชาย : เฮ้อ....ผมนะ ไม่มีเวลาหาข้อมูลมาเถียงกับคุณมากนัก
ผม แค่ อยากบอกคุณ โพสอะไร อย่าให้มันเวอร์ มันน่ารังเกียจ อย่าใส่ไข่ให้มากนัก เพราะข้อมูลของคุณ มันไม่เป็นกลาง มีความลำเอียงอย่างเห็นได้ชัด
ข้อมูลของคุณเลยไม่เป็นที่น่าเชื่อถือสำหรับ ผม หรือ ผู้เสพข่าวสาร
เอาเป็นว่ามีประเด็นไหนที่คุณแน่ใจจริงๆ(สิ่งที่คุณนำ เสนอ 80% ล้วนบิดเบือนจากข้อเท็จจริง) ใน 20% ที่เหลือ ฝากหลัึงไมค์มาก็ได้ครับ ผมพร้อม
หรือเอานี้ไปอ่าน
http://www.tja.or.th/index.php?option=com_rokdownloads&view=file&Itemid=27&id=556:2553-53 (ถ้าไม่อยากถูกเรียกว่าคนโง่ไปตลอดชีวิต...สมควรอ่าน)
คนพวกนี้เขามีน่าเชื่อถือกว่าคุณเยอะครับ ^_^ อิอิ
* บรรดาแม่นม คงด่าผมตายแล้ว ^_^
- เรื่องความน่าเชื่อถือของผม ผมเองก็ไม่มีสิทธิไปบังคับหรือยัดเยียดให้ใครต้องมาเชื่อ ในฐานะที่ผมเป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ในวันที่ 10 เมษายน ตั้งแต่ช่วงบ่ายแก่ๆ ไปยันห้าทุ่มเที่ยงคืน ตลอดเวลาที่ผมได้ยืนอยู่ในแนวปะทะ ยืนอยู่เป็นแนวหน้าเสื้อแดง ยืนประจันหน้ากับทหารที่มาพร้อมกับรถหุ้มเกราะ บนหัวก็มีเฮลิคอปเตอร์ยิงแก๊สน้ำตาลงมา
ตั้งแต่สี่โมงเย็นจนถึงช่วงสองสามทุ่มที่มีการปะทะ ผมจึงเชื่อในสิ่งที่ตาผมเห็น และเมื่อผมนำสิ่งที่ผมเห็นมาผนวกกับข้อมูลต่างๆ ที่ผมรวบรวมจากแหล่งต่างๆ รวมไปถึงประสบการณ์จากเพื่อนในราชดำเนินหลายท่าน ที่ได้ออกไปอยู่ร่วมในเหตุการณ์จริง ตั้งกระทู้ถ่ายทอดเป็นบันทึกให้อ่าน เรื่องเล่าที่ถูกนำมาประมวลเข้าด้วยกัน เรื่องราวที่ถูกนำมาปะติดปะต่อ จึงถูกร้อยเรียงออกมาเป็นชุดข้อมูลอีกด้านที่จะไม่มีวันได้เห็นในฟรีทีวีในยุคที่อภิสิทธิ์ครองเมือง
ในโลกยุคปัจจุบัน ยุคข่าวสารไร้พรมแดน ความเท็จที่เปิด ความจริงที่ปิด ความจริงต่อให้ใครคิดจะปิด ปิดอย่างไรก็ปิดไม่มิดหรอกครับ ส่วนความเท็จ เมื่อข้อเท็จจริงมันถูกเผยแพร่ออกมา ความเท็จนั้นก็จะสูญดับไปในที่สุด ถ้าหากผมกล่าวเท็จเรื่อยๆ ผมบิดเบือนบ่อยๆ ความเสื่อมก็จะตกมาสู่ตัวผมเอง กลับกันถ้าใครก็ตามที่ก่อเวรใดไว้ กรรมนั้นก็จะคืนสนอง ศรัทธาเกิดขึ้นได้ ก็เสื่อมได้ครับ
คนชาย : ทำผิดกฎหมายชัดเจน ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดูว่ารัฐบาลจะยุติการปฎิบัติการเมื่อไหร่ พวกท่านทำผิดกฎหมาย หลัง 6 โมงเย็น แล้วจะมาเรียกร้องให้ จนท.รัฐหยุดทำงาน! ตลกครับ
คนชาย : แล้วผมก็เพิ่งมารู้กับคุณนี้แหละครับ ศพแรก ชื่อ "นายเกรียงไกร คำน้อย ซึ่งถูกยิงที่มัฆวานในช่วงบ่าย" ไม่ใช่ นายสวาท วางาม http://www.งดโฆษณาเว็บ/2011/04/10-53.html ฮึ ซึ่ง "ถูกยิงในช่วงที่รัฐบาลใช้เฮลิคอปเตอร์โปรยแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ชุมนุม"
- น.ส.สายโสภา บุตรพรม อายุ 19 ปี คู่หมั้นของนายเกรียงไกรว่านายเกรียงไกร มีอาชีพขับรถสามล้อรับจ้างอยู่ใน กทม. และเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 เม.ย. พอรู้ว่ามีกองกำลังเข้ามา ก็หยุดวิ่งรถแล้วสวมเสื้อคอกลมสีแดง ซึ่งมีเพียงตัวเดียว และให้ตนสวมรองเท้าให้ และพูดเป็นลางว่าสวมให้วันนี้ เดี๋ยวคงไม่ได้ สวมอีก
จากนั้นนายเกรียงไกรออกจากบ้านพักไปเพียง 15 นาที ตนก็ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนว่านายเกรียงไกร ถูกยิงอยู่ถนนใกล้สะพานมัฆวานฯ ถูกนำไปรักษาที่ รพ.วชิระ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา เพราะถูกยิงเข้าที่ชายโครงซ้าย ทะลุชายโครงขวา และหน้าท้องแตกด้วย ที่มา
จิ้ม ไทยรัฐ- วันที่ 10 เมษายน 2553 ผมผู้ซึ่งไม่เคยไปร่วมชุมนุมเลย เมื่อได้ทราบข่าวและทำการวิเคราะห์ส่วนตัวแล้วว่า ทหารปฏิบัติการสลายการชุมนุมแน่นอน วันนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมออกไปร่วมต้านทหารเฉกเช่นนายเกรียงไกร คำน้อย
ตอนแรกผมคิดว่าทหารจะสลายที่เวทีราชประสงค์ ผมก็ไปยืนร่วมกับคนเสื้อแดงที่สี่แยกศาลาแดง แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไปสักระยะ เมื่อไม่เห็นวี่แววว่าทหารจะมาทางนี้ ผมจึงตัดสินใจโบกรถมอเตอร์ไซค์คนเสื้อแดงขอติดรถไปลงที่เวทีผ่านฟ้า
ในวันที่ 10 เมษายน 2553 จึงเป็นวันแห่งความทรงจำที่ผมบันทึกสรุปสั้นๆ ว่า วันนั้นผมมีความโชคดีกว่าคุณเกรียงไกร และพี่น้องคนเสื้อแดงอีกหลายสิบชีวิตที่ถูกยิงตาย หลายร้อยชีวิตที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บร่างกายพิกลพิการ
ทั้งที่ไม่มีใครจ้าง ทั้งที่ไม่มีใครจูง แม้จะมีอันตรายถึงชีวิต ในฐานะประชาชนเพื่อประชาชน เพื่อพี่น้องคนเสื้อแดง เมื่อพี่น้องมีภัย ผมและพี่น้องคนเสื้อแดงที่มีจิตใจตรงกันก็พร้อมที่จะออกไปร่วมยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ทำการต้านทหารตามแต่ละกำลังความสามารถที่แต่ละคนจะทำได้
และเมื่อมีข้อมูลที่บิดเบือนทำการใส่ร้ายผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ผมจึงถือเป็นภาระหน้าที่ของเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ที่ยังโชคดี มีลมหายใจ ดวงยังไม่ถึงฆาต คนเป็นต้องหาข้อมูลมาเพื่อหักล้างข้อมูลที่น่ารังเกียจเดียดฉันท์ของผู้ครองอำนาจที่ยัดเยียดข้อกล่าวหาให้คนตาย
คนชาย : 13 พ.ค. ไม่มีคนตายครับ เสธ.แดงก็ยังไม่ตาย มาตายกันอีกวัน คือ 14 พ.ค. 7 ศพ
ถ้าผมจำไม่ผิด วันที่เสธ.แดงโดนยิง เป็นวันที่ไม่มีคนตาย
เห็นมั๊ย วิธีการตั้งกระทู้บิดเบือนของคุณ มันน่ารังเกียจที่สุด
ข้อมูลจากศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร
ผมขอขอบคุณ คุณขนมสาคู ที่ช่วยชี้แจงเพิ่มเติมที่กระทู้
P11366580ผมไม่ได้บอกว่าศพแรกคือเสธ.แดง ผมบอกแต่เพียงว่าเสธ.แดงคือคนที่ถูกยิงคนแรกในวันที่ 13 พ.ค. 53 ซึ่งเสธ.แดงได้มาเสียชีวิตในภายหลังวันที่ 17 พ.ค. ส่วนศพแรกที่ถูกยิงเสียชีวิตคาที่ในวันที่ 13 พ.ค. 53 คนเสื้อแดงต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าชื่อ ชาติชาย ชาเหลา
ซึ่งคืนที่เสธ.แดงถูกยิงและตามมาด้วยนายชาติชาย ชาเหลา ถูกยิงเสียชีวิต ตัวผมเองเมื่อได้ทราบข่าว ผมก็ได้ทำการนัดกับเพื่อนออกไปสมทบกับคนเสื้อแดงยังบริเวณที่เกิดเหตุ และผมกับเพื่อนยังใช้ช่วงเวลารอยต่อค่ำคืนวันนั้นจนถึงเช้าอยู่ที่บริเวณชุมนุมราชประสงค์
ช่วงเช้าก่อนที่จะมีการรุกเพื่อขยายพื้นที่ปิดล้อมในช่วงสาย ผมและเพื่อนยังได้มาหยุดจอดรถที่ริมถนนตรงจุดที่เสธ.แดงถูกยิง สิ่งที่ผมเห็น ผมเห็นแต่การ์คคนเสื้อแดงมือเปล่า (ไม่มีอาวุธสงคราม) ที่อย่างเก่งอาวุธที่ใช้ทำการโจมตีเป้าหมายในระยะไกลที่แต่ละคนจะมีและทำเองได้ ก็คือพลุและบั้งไฟเท่านั้น
คืนวันที่ 16-17 พ.ค. ผมก็สามารถเล็ดลอดเข้าไปเห็นสภาพของผู้ชุมนุมที่กำลังจะถูกล้อมปราบที่เวทีราชประสงค์ ผู้หญิงหลายคนร้องไห้ขวัญเสียกับผม ด้วยสภาพเช่นนั้น เช้าวันที่ 19 พ.ค. มันจึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่ทหารจะสามารถทำการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงได้อย่างง่ายดาย
คนตายที่เป็นศพคนเสื้อแดงสำหรับคุณคนชายอาจจะไม่มีความหมายในสายตา แต่สำหรับผมชั่วชีวิตนี้ผมก็จะระลึกถึงดวงวิญญาณของพวกเขา และพร้อมที่จะนำข้อมูลเท่าที่ผมสามารถหามาได้มาทำการหักล้างกับข้อมูลที่ออกมาจากชุดชวนเชื่อของศอฉ. รัฐบาลและองค์กรต่างๆ ที่ทำตัวเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ของอำมาตย์
ปล.ความจริงในกระทู้ "ประยุทธ์" ฮึ่มยอมไม่ได้ลูกน้องถูกแดงทำร้าย ผมมี hidden agenda ตีวัวกระทบคราด ในเนื้อข่าวมันมีการบ่งชี้ไปให้เห็นถึงผู้สั่งการ ทราบแล้วเปลี่ยน
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 54 19:53:47
[รักคนเสื้อแดง] ผมรู้สึกผิดหวังนิดๆ ที่คุณคนชายไม่ยอมประเดิมด้วยกระทู้ของไก่อู
