มีบางอย่างอาจจะผิดพลาดไป..และถ้าใช่..ใครจะรับผิดชอบ..?

บังเอิญเจอบทความหนึ่ง ผมเห็นว่าเข้าท่า..เพราะเห็นว่าในโลกออนไลน์ บางทีมันก็ไปไกลกว่าที่คนธรรมดาๆจะเข้าใจ..ไม่เว้นแม้แต่คนที่ต้องมานั่งรับผิดชอบชะตากรรมของชีวิตคน..

บทความนี้อาจมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย..ผมคัด และเรียบเรียงมาจากคุณพอล บางกอก..จากกระทู้ของประชาทอร์ค.. คิดว่าคงมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย..

และบางทีงานนี้คงได้สาวกันยาวๆ เพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่างสักวัน..


**********************************************

โดย paulbkk เมื่อวันเสาร์ ที่ 26 พฤศจิกายน 2011

คดีนี้มีสามประการที่ผมจะขอวิเคราะห์ดังต่อไปนี้

1. อากงส่ง SMS จริงหรือไม่
2. อากงเป็นเจ้าของเบอร์ทั้งสองจริงหรือไม่
3. บทลงโทษแรงไปหรือไม่

=======================================

1. อากงส่ง SMS จริง(เป็น)หรือไม่..?

ปกติแล้วเราสามารถส่งSMSได้สองวิธี..

ก.) ส่งจากมือถือโดยตรง
ข.) ส่งจากระบบโดยผ่านเว็บ หรือ จากคอนโซลหรือ เทอร์มินอล (อันนี้ต้องเป็นวิศวกรที่ดูแลระบบเท่านั้น)..

การส่งSMSจากมือถือมีหลักการทำงานอย่างคร่าวๆ ดังต่อไปนี้.

เมื่อเราร่างข้อความที่จะส่งเสร็จ แล้วกดส่ง ข้อความของเราก็จะไปกองอยู่ที่อุปกรณ์ชิ้นนึงในชุมสายเรียกว่า SMSC (Short Message Service Centre). จากนั้น SMSC ก็จะพยามยามเช็กว่าหมายเลขปลายทางอยู่ที่ไหน, ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่, ถ้าเป็นพรีเพดก็จะทำการตัดเงินก่อน. ทีนี้พอรู้ว่าปลายทางอยู่ไหนและเลขหมายนั้นว่าง SMSC ก็จะส่ง SMSไปยัง อุปกรณ์อีกตัวที่เรียกว่า MSC (Mobile swtiching centre) เพื่อที่ MSC จะส่งผ่านข้อความเหล่านี้ไปยังเบอร์ปลายทาง. ถ้าข้อความถึงมือผู้รับ ถือว่าจบกระบวนการ และจะมีการบันทึกทั้งการส่ง , การรับ และการคิดเงิน ที่ MSC, SMSC และ IN (กรณีพรีเพด)....

อย่าเพิ่งงงนะครับ..

การบันทึกที่ว่านี้เรียกว่า CDR (Call Detail Record) CDR ตัวนี้และที่จะเป็นหลักฐานว่าอากงส่งจริงหรือไม่ ?

ข้อมูลใน CDR จะประกอบไปด้วยข้อมูลคร่าวๆดังนี้

หมายเลขผู้ส่ง (MSISDN),
หมายเลข IMSIผู้ส่ง (ใช้ในกิจการของชุมสาย แต่เป็นเลขเฉพาะของแต่ละบุคคล),

วันเวลาที่ส่ง,

หมายเลขผู้รับ (MSISDN),

หมายเลข IMSIผู้รับ,

ชุมสายหรือ MSC ของผู้รับ

แต่ถ้าเป็นการส่งโดยวิธี ข. ( ส่งจากระบบโดยผ่านเว็บ หรือ จากคอนโซลหรือ เทอร์มินอล ซึ่งต้องเป็นวิศวกรที่ดูแลระบบเท่านั้น)..จะไม่มี หมายเลข IMSIผู้ส่ง ....อันนี้สำคัญมาต่อการพิสูจน์ว่าข้อความนั้นไปจากมือถือของอากงจริงหรือไม่ ?

....คงยังไม่มึนนะครับ....ต่อนะครับ..

ในการพิสูจน์ว่าข้อความนั้นได้ถูกส่งจากมือถือของอากงจริง...เราต้องการหลักฐานจาก Operator (ผู้ให้บริการ)ดังต่อไปนี้

1.1 CDR ที่บันทึกการส่งของผู้ส่งใน MSC

1.2 CDR ที่บันทึกการส่งของผู้ส่งใน SMSC

1.3 CDR ที่บันทึกการตัดเงินของผู้ส่ง ใน IN (ระบบพรีเพด) กรณีที่ผู้ส่งเป็นลูกค้าแบบเติมเงิน

1.4 บันทึกข้อความที่แจ้งเกี่ยวกับการตัดเงิน ใน USSD message กรณีที่ผู้ส่งเป็นลูกค้าแบบเติมเงิน

1.5 CDR ที่บันทึอการรับของผู้รับใน MSC

1.6 ข้อความที่ถูกส่งไปแล้วใน Outbox หรือ Sent folder ในตัวมือถือผู้ส่ง. ถ้าข้อความถูกลบไปแล้วก็ให้ลองปรึกษาวิศวกรมือถือ โมโตดู (ทราบว่ามือถือ อากงเป็นโมโต)

1.7 ให้ดู message detail ที่มือถือของผู้รับ . ถ้าส่งจากมือถือ มันจะแสดง หมายเลขของผู้ส่ง แต่ถ้าส่งจากระบบ มันจะไม่แสดง เบอร์ผู้ส่ง. อันนี้สามารถพิสูจน์ได้เวลาได้ข้อความจากโฆษณา. แต่ไม่แน่ใจว่าจะทำได้ทุกยี่ห้อหรือไม่

1.8 เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าอากงส่งข้อความเป็น ให้ดูข้อมูล CDR จากทุกที่ทั้งก่อนและหลังเหตุการณ์

1.9 ถ้าSMSC มี LI (Law Interception) ให้ขอข้อมูลมาด้วยเพราะว่ามันจะบันทึกว่าคุณส่งข้อความอะไรไป..เนื่องจาก CDR จะไม่สามารถระบุได้ว่าคุณส่งข้อความอะไร มันเพียงแต่ระบุว่าคุณส่งไปหาใครเท่านั้น

ที่กล่าวมานั้แค่เพื่อจะพิสูจน์มีการส่งข้อความดังกล่าวจากมือถือของอากงจริงหรือไม่....ซึ่งไม่ได้มีการกล่าวถึงในชั้นศาล มีแต่การกล่าวถึงการเป็นเจ้าของเบอร์และตัวมือถือ....ซึ่งจะอธิบายในบทต่อไป

ทีนี้ถ้าอากงไม่ส่ง หรือส่งไม่เป็น.....แล้วใครส่งล่ะ?

จำการส่ง SMS วิธี ข.ได้ไหมครับ ?

วิธีนี้ทำได้สองแบบ คือ

A) ส่งโดยผู้ใช้เอง โดยล็อกอินผ่านเว็บของผู้ให้บริการ
B) ส่งโดยวิศวกรที่ดูแลระบบ..

ทั้งสองวิธีนี้เราสามารถที่จะเลือกเบอร์ผู้ส่ง หรือ Sender ID ที่แสดงว่าใครเป็นผู้ส่งได้อย่างง่ายๆ โดยเฉพาะวิธี B) เขาสามารถใช้หมายเลขของใครเป็นผู้ส่งก็ได้....อันตรายมากถ้าผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าถึงระบบ...!!

วิธีพิสูจน์ว่าส่งโดยวิธีไหนก็ไม่ยากครับ อยากให้ทีมทนายลองปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ SMS ของ AISดู

คำเตือนเบื้องต้น....xxxxxxxxxxxxxxxx( ขอตัดออกครับ )

----------------------------------------------------------

2. อากงเป็นเจ้าของเบอร์ทั้งสองจริงหรือไม่..?

อันนี้ก็คืออย่างที่ คุณ ศ..ได้ทำไปนั้นคือ

2.1 ตรวจสอบ หมายเลขIMEI. หมายเลขนี้เช็กได้ด้วยการกด *#06#แล้วกดออก.

IMEI เป็นหมายเลขบันทึกข้อมูลของผู้ผลิต อันนี้ก็เหมือนกับหมายเลข MACในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือ ไวร์เลสส์ โมเด็ม.

IMEI เป็นหมายเลขเฉพาะและสามารถแก้ไขได้ถ้ามีความเชี่ยวชาญ

2.2 ตรวจสอบความเกี่ยวข้องของทั้งสองเบอร์ (MSISDN) กับ (IMEI)
ซึ่ง คุณ ศ...ก็พยายามที่จะวนอยู่แต่ตรงนี้....แน่นอนก็พิสูจน์ได้ว่าอากงเป็นเจ้าของหมายเลขและตัวมือถือ...แต่ คุณ ศ...ยังไม่ได้พิสูจน์ว่ามีการส่งจริง หรือส่งข้อความนั้นจริง....?

----------------------------------------------------------

3. บทลงโทษแรงไปหรือไม่???

สี่ข้อความ ข้อความละห้าปีรวมเบ็ดเสร็จ 20 ปี อยากให้บทลงโทษนี้ย้อนกลับไปหาผู้ส่งที่แท้จริงจัง

ยังไงก็ฝากไปยังผู้ที่ทำหน้าที่ออกกฎหมายดูว่า มันรุนแรงไปไหม อย่างที่ฝรั่งบอก It's not a crime แต่ทำไมบทลงโทษหยั่งกะอาชญากรรมรุนแรง...xxxxxxxxxxxxxxxxx ( ขอตัดออกครับ )

คงต้องโหลดประชาธิปไตยแออพลิเคชั่น แบบโปร หรือเวอร์ชั่นเต็ม เพราะปัจจุบันเราใช้แบบ ไลห์ท(Light) หรือ แบบทดลองที่ยังมีโฆษณาอยู่. ต้องมีการลงทุนซื้อเวอรชั่นเต็มอย่างจริงจังซะที.....

ด้วยความเคารพ
พอล บางกอก

------------------------------------

ใครมีความเห็นเช่นไร กรุณาแลกเปลี่ยนเพื่อเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยเฉพาะพวกคนบ้านๆอย่างผม..กว่าจะเข้าใจก็ไม่ใช่เรื่องง่ายน่ะครับ..

ก่อนจบแถมภาพให้อีก 1 จากอีตาจอน
http://img.coolz-server.com/img/2011-11-27/01-20-43_0.106144.jpg





แก้ไข ขอเพิ่มเติมภาพครับ

แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 54 01:38:39

จากคุณ	: แมวน้ำสีคราม
เขียนเมื่อ	: 27 พ.ย. 54 01:14:24 A:180.180.209.29 X: