บันทึกคำให้การ "นิก นอสติทซ์" คดีฆ่า "ลุงชาญณรงค์" สำนวนแรก 16 ศพ
เป็นคดีแรกจากจำนวน 16 ศพม็อบเสื้อแดงที่เสียชีวิตจากเจ้าหน้าที่รัฐเมื่อปี 2553 นั่นคือคดีฆ่า นายชาญณรงค์ พลศรีลา หรือ ลุงชาญณรงค์ โชเฟอร์รถแท็กซี่ที่ตกเป็นเหยื่อกระสุนเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2553 บริเวณ ถ.ราชปรารภ ที่เดินหน้าถึงขั้นส่งให้อัยการพิจารณาได้แล้ว
แม้คดีนี้จะยืดเยื้อและเสียเวลากว่า 1 ปี แต่ก็พอจะรับรู้ได้ว่าเหตุสำคัญคือ "เกียร์ว่าง" ของผู้เกี่ยวข้อง เนื่องจากอยู่ใต้อำนาจของรัฐบาลที่ส่งทหารออกมาปราบประชาชน
จึงยากยิ่งกว่ายากที่จะหาความเป็นธรรมตราบใดที่รัฐบาลชุดเก่ายังเรืองอำนาจอยู่
แต่มาวันนี้เมื่อมีรัฐบาลใหม่ และให้ดำเนินการไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ทำให้ข้อมูลและหลักฐานต่างๆ ที่ซุกเอาไว้ หรือถูกมองข้ามจึงถูกนำออกมาปัดฝุ่น
พยานปากสำคัญคือ "นายนิก นอสติทซ์" ผู้สื่อข่าวและช่างภาพอิสระชาวเยอรมัน ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์และบันทึกภาพนาทีชีวิตไว้อย่างละเอียด
ด้วยบทบาทของ "สื่อ" ต่างชาติ ที่ไม่มีส่วนได้เสียกับทั้งม็อบหรือทหาร ทำให้น้ำหนักในคำให้การยิ่งน่าเชื่อถือมากขึ้น
"ทหารไทยทำผิดกฎและขาดระเบียบวินัย ผู้ชุมนุมยังไม่ทันได้ทำอะไร ไม่ได้ต่อสู้ พวกเขามือเปล่า แต่ทหารยิง ทหารทำผิดกฎของเขาเอง ทหารไม่ได้ทำตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก เขาไม่ได้ยิงแก๊สน้ำตา เขาไม่ได้ใช้กระสุนยาง แต่ใช้กระสุนจริงและยิงไม่หยุด"
"ผมจะยอมรับได้หากวันนั้นมีการยิงปะทะ แต่การยิงเกิดขึ้นฝ่ายเดียวจากฝ่ายทหารเท่านั้น ผู้ชุมนุมมีจำนวนไม่มาก สองมือเปล่า ไม่มีอาวุธ ผมไม่ต้องการเห็นใครสักคนตาย ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือผู้ชุมนุม แต่ผู้ชุมนุมเหล่านี้ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย ไม่ใช่ชุดดำ เขาเป็นผู้ชุมนุม"
จากคำให้การและบันทึกของ "นิก นอสติทซ์" ย่อมชัดเจนในตัวของมันเองอยู่แล้วว่า
เหตุใดคดีลุงชาญณรงค์ จึงเป็นคดีแรกที่ขึ้นสู่การพิจารณาของอัยการ
และใครต้องรับผิดชอบต่อการออกคำสั่งให้ทหารเข้ามาปฏิบัติภารกิจในเมือง จนเกิดเหตุรุนแรงขึ้น!??
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1322465263&grpid=01&catid=&subcatid=
ตัดมาเป็นบางส่วน อ่านฉบับเต็มได้ที่มติชนครับ
เรื่องเหล่านี้เป็นที่สงสัยของต่างชาติว่า เหตุใดใจกลางเมืองของนครแห่งสรวงสวรรค์จึงเกิดเหตุรุนแรงและโหดร้ายเหล่านั้นขึ้นได้ และยิ่งพิศวงมากขึ้นเมื่อเห็นเหล่าผู้ก่อกรรมทำเข็ญยังลอยนวลและยังเชิดหน้าชูตาอยู่ได้อย่างทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
ทั้งที่พยายหลักฐานมีเป็นจำนวนมาก สื่อต่างชาติเอาไปประโคมข่าวและเป็นสารคดีที่เรียกน้ำตาผู้ชมได้อย่างล้นหลาม(อยากดูไปหาดูในอากู๋+หูตูบได้ครับเป็นสารคดีของสำนักข่าวBBC)
เผด็จการหลายชาติที่เราเคยเห็น มักจะวางแผนรองรับไว้เมื่อตัวเองจะต้องลงจากอำนาจเช่น...
แต่งตั้งคนที่ไว้วางใจได้ให้เป็นผู้ที่สืบทอดอำนาจ
แต่งตั้งผู้นำกองทัพและผู้ที่จะขึ้นเป็นผู้นำกองทัพรุ่นต่อๆไปให้สืบทอดอย่างต่อเนื่อง
ออกกฎหมายเพื่อละเว้นโทษและตัดตอนในการสาวความผิดที่จะมาถึงตัว
ฯลฯ
ก็มีผู้นำเหล่านั้นบางชาติที่โชคดีรอดพ้นจากการดำเนินคดี ได้อยู่ถึงแก่เฒ่า แต่ผู้นำบางชาติก็ไม่สามารถรอดพ้นได้ ต้องชดใช้กรรมในคุกหรือต้องชดใช้ด้วยชีวิตครับ
เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ ผู้คนถือคติกันว่า กรรมใดใครก่อ คนนั้นต้องได้รับผลกรรม