"นายๆ โจรเข้าบ้าน" สาวคนใช้ โทรศัพท์แจ้งนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม น้ำเสียงตื่นตระหนก
"อะไรนะ" ปลัดสุพจน์ถามกลับด้วยความสงสัย
เสียงโทรศัพท์ขาดหาย
เวลานั้นราวๆ 19.40 น. ของวันที่ 12 พฤศจิกายน "สุพจน์" กำลังอยู่ในงานสมรสของบุตรสาวที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ถนนเพลินจิต
โฆษกบนเวทีเพิ่งประกาศว่า สินสอดในงานหมั้นครั้งนี้มีเงินสด 2 ล้านบาท และทองคำแท่ง 50 บาท
สุพจน์แจ้ง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ขอความช่วยเหลือ
ก่อนหน้านี้ประมาณ 40 นาที หรือราวๆ 19.00 น. ที่บ้านเลขที่ 77 ซอยลาดพร้าว 64 แยก 2 เขตวังทองหลาง กทม. เสียงหมาในบ้านเห่าดังลั่น ขณะที่รถกระบะ 2 ตอน ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทา พุ่งพรวดจอดหน้าประตูรั้วอัลลอย
คนร้าย 2-3 คน ลงจากรถช่วยกันลากประตูออกแล้วขับตรงไปที่ลานจอดหน้าบ้าน
ปกติแล้ว ประตูรั้วบ้านหลังนี้ใช้รีโมตคอนโทรล บังคับเปิด-ปิด แต่บังเอิญว่าเป็นช่วงกำลังเกิดน้ำท่วมใหญ่ "สุพจน์" สั่งให้ถอดระบบรีโมต เพราะเกรงน้ำทะลักเข้าบ้านทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร
<
<
<
ชายฉกรรจ์แต่ละคนใช้หมวกไหมพรมคลุมหัวและใส่หน้ากากอนามัยทับอีกชั้น สวมถุงมือไหมพรมสีดำใส่เสื้อแขนยาวคอกลมและรองเท้าผ้าใบ
ท่าทางชายฉกรรจ์เหมือนรู้ว่าบ้านปลัดมีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ เมื่อลงจากรถ จึงวิ่งหลบทิศทางกล้อง
"แจ๋ว" หนึ่งใน 4 สาวใช้ รู้ด้วยสัญชาตญาณว่า กลุ่มชายฉกรรจ์ไม่ได้มาดีแน่ๆ จึงหลบและแอบมอง พร้อมกับตัดสินใจบอกเพื่อนคนใช้ด้วยกันให้โทรศัพท์ไปหา "นาย" หรือตำรวจ 191
แต่ในบ้านค่อนข้างโล่งไฟสว่างและเงียบสงัด คนร้ายต้องได้ยินเสียงโทรศัพท์แน่
"แจ๋ว" บอกเพื่อนคนใช้ หลบไปอยู่ในห้องน้ำแล้วพยายามโทรศัพท์แจ้งนายหรือตำรวจ 191 ให้ได้ส่วนที่เหลือให้ล็อกประตูพร้อมกำชับถ้าคนร้ายถามให้บอกว่า มีคนอยู่ในบ้านทั้งหมด 3 คน
คนร้ายโผล่พรวดมาถึงประตูหน้าบ้าน ปรากฏว่าคนใช้ล็อกไว้แล้ว จึงอ้อมไปด้านหลังเป็นห้องครัวซึ่งยังไม่ได้ล็อก
คนใช้พยายามดันไม่ให้คนร้ายเปิดประตูแล้วตะโกนถามว่า "พี่ๆ มาเอาอะไร พี่มาหาใคร"
"พวกผมไม่ได้มาทำอะไร" เสียงหนึ่งในคนร้ายตอบเป็นภาษาอีสาน
"พวกพี่จะมาเอาอะไร หนูไม่มีอะไรให้พี่หรอก" คนใช้พูดอีสานละล่ำละลักด้วยความตระหนกตกใจ
สิ้นเสียงคนใช้ คนร้ายผลักประตูเข้ามาในบ้าน พร้อมกับบอกว่า "ไม่ต้องร้อง ผมไม่ได้ทำอะไร"
คนร้ายใช้เชือกมัดมือ 3 สาวใช้ แล้วดึงเทปกาวสีเขียวปิดปากพร้อมกับเอาหน้ากากอนามัยสีขาวสวมปิดทับอีกชั้น
คนร้ายราว 4 คน บังคับให้คนใช้พาไปที่ห้องนอนของปลัดบนชั้นสอง อีกส่วนรออยู่ด้านล่าง และให้นั่งรอที่รถกระบะอีกคน
หนึ่งในคนร้ายใช้ชะแลงงัดประตูห้อง จากนั้นเข้าไปงัดตู้เสื้อผ้า ช่วยกันดึงกระเป๋าที่ซุกอยู่ในตู้ออกมาแล้วใช้มีดคัตเตอร์กรีด เนื่องจากกระเป๋าหลายใบมีกุญแจล็อกอยู่
เวลา 19.40 น. คนร้ายดึงเงินที่มัดเป็นปึกๆ ออกจากกระเป๋ามีทั้งกระเป๋าเอกสารทำด้วยหนัง กระเป๋าพลาสติกสำหรับเดินทาง ยัดใส่ถุงพลาสติกขนาดใหญ่ 2 ถุง ที่เตรียมมา สามารถบรรจุเงินได้นับร้อยล้านบาท ลากลงมาจากห้องชั้นสองก่อนขับรถหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
คนร้ายอีก 2 คน ที่พักอยู่บนชั้น 5 ของอพาร์ตเมนต์ ฝั่งเยื้องๆ บ้านปลัด เป็นคนดูต้นทาง รีบลงจากห้องพักขับรถเก๋งตาม
ช่วงเวลาเดียวกัน คนใช้ที่ซ่อนอยู่ในห้องน้ำ พยายามกดโทรศัพท์หาตำรวจ 191 แต่โทร.ไม่ติด จึงตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งข่าวร้ายให้ "นาย" รู้
................
(ที่มา : มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 30พ.ย.2554)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1322622752&grpid=01&catid=&subcatid=
ตามอ่านจาก link ก็ยังไม่ครบ เหมือน ดูจาก "มติชน" ฉบับตีพิมพ์
เอามาให้อ่านกันเล่น ๆ ไม่ชักชวนให้วิจารณ์ เพราะ "คุณม่วงคัน"
บอกว่า อยู่ในกระบวนการ แล้ว แต่ที่สื่อเอามาให้อ่าน กัน ก็ไม่มี
การวิเคราะห์วิจารณ์ น่าจะเป็นคำให้การของ "แจ๋ว" และคำสารภาพ
ของ "ผู้ต้องหา" เท่านั้นเอง