จากล่าตัว"ราเกซ"ถึงแม่ ส.ส.ปชป. "ภคินี สุวรรณภักดี" หนีคดีโกงธ.มหานคร4พันล.พิสูจน์น้ำยาอัยการ-ตำรวจ
หลังจากที่สามรรถนำตัวนายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ(บีบีซี) ผู้ต้องคดียักยอกทรัพย์บีบีซีซึ่งหลบหนีไปอยู่ประเทศแคนาดานานกว่า 13 ปีกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยได้ดูเหมือนว่า ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่อัยการ ตำรวจ ต่างแสดงความภาคภูมิถึงความสำเร็จในการดำเนินการดังกล่าว
แต่ความจริงแล้วมีผู้ต้องหาคดีคดีฉ้อโกงธนาคารพาณิชย์สำคัญอีกคดีหนึ่งคือ คดีทุจริตธนาคารมหานครมูลค่าความเสียหายหว่า 4,100 ล้านบาทที่ยังคงหลบหนีหมายจับของศาลอยู่โดยตำรวจยังไม่สามารถ(ไม่กล้า?)จับกุมตัวได้ ไม่รู้ว่าอาศัยบารมีของคนรอบข้างที่มีลูกชายเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานครเขต 4 พรรคประชาธิปัตย์ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี และมีสามีเป็นอดีตอัยการใหญ่ นายสมพงศ์ สุวรรณภักดี หรือไม่
ผู้ต้องหาคนดังกล่าวคือนางภคินี สุวรรณภักดี อดีต รองกรรมการผู้จัดการธนาคารมหานคร
คดีดังกล่าวศาลอาญากรุงเทพได้ออกหมายจับที่ จ24/3/2549 ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2549 โดยมี พ.ต.ท.สุเมธ โสดสงค์ ทำการแทนผู้บังคับการกองปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี เป็นผู้ร้อง ทั้งนี้หมายจับมีสาระสำคัญว่า ด้ยวยนางภคินี สุวรรณภักดี ซึ่งต้องหาว่า ร่วมกระทำความผิดฐาน ร่วมกันยักยอก เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจให้จัดการทรัพย์สินของบุคคลอื่นเป็นเจ้าของร่วมอยู่ด้วย กระทำผิดหน้าที่ของตนด้วยประการใดๆ จนเป้นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของบุคคลนั้นแบะได้กระทำในฐานะผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน
เหตุเกิดระหว่างวันที่ 19 ธันวาคม 2538ถึง 30ตุลาคม 2540 ต่อเนื่องกัน
ในหมายจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาตให้รายละเอียดว่า นางภคีนี เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2492 อายุ 57 ปี(ปัจจุน 60 ปี) บิดาชื่อนายโฮ้ย มารดาชื่อ นางกิม อยู่บ้านเลขที่ 69/1 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพ บัตรประชาชนเลขที่ 3 1017 02263 68 5 รูปพรรณสัณฐาน สูง 153 ซม. รูปหน้ากลม ผิวขาว ตาชั้นเดียว จมุกกว้างฯลฯ
อายุความ 15 ปี นับแต่วันที่ 30 ตุบาคม 2540 วันที่หมดอายุความ 30 ตุลาคม 2555
หมายความว่า นางภคินีต้องหลบซ่อนตัวอยู่อีกนานเกือบ 3 ปี หรือตำรวจมีเวลาไม่ถึง 3 ปี ที่จะล่าตัวมาดำเนินคดีเช่นเดียวกับนายราเกซซึ่งจะเป็นการพิสูจน์น้ำยาของตำรวจอละดัยารว่า มีความสามารถสมราคาคุยหรือไม่
นี่ยังไม่นับนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะซึ่งหลบหนี้คดีทุจริตเขาไม้แก้วซึ่งศาลฎีกาตัดสินจำคุกกำนันเป๊าะแล้ว นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยซึ่งหลบหนีคดีทุจริตคล่องด่านซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองซึ่งตัดสินจำคุก 10 ปีซึ่งบุคคลทั้งสองมีข่าวว่า ป้วนเปี้ยนอยู่แถวพระเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับคดีดังกล่าวผู้บริหารธนาคารมหานครในขณะนั้น ปล่อยสินเชื่อโดยไม่ชอบให้โรงงานทำโป๊วสีรถยนต์ มูลค่ากว่า 4,1000 ล้านบาทโดยไม่มีหลักประกัน มีผู้ต้องหา 4 คน หลังจากที่พนักงานอัยการสั่งฟ้อง มีผู้ต้องหามอบตัวแล้ว 3 คน คือ นายสุเทพ เจริญพรพานิชกุล ผู้ถือหุ้นใหญ่ ห้างหุ้นส่วนแสงสงวนพาณิชย์ ลูกหนี้ซึ่งทำธุรกิจโรงโป๊วสีรถยนต์ นายมาโนช กาญจนฉายา อดีตประธานกรรมการ และนายอุทัย อัครพัฒนากุล อดีตกรรมการผู้จัดการ เหลือเพียงนางภคินี สุวรรณภักดี ซึ่งหลบหนีจนศาลออกหมายจับ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1257168658&grpid=00&catid
ในเหตุการณ์จลาจลไม่ว่าที่ใหนทั่วโลก มักจะมีการกระทำที่เรียกว่า "ตามน้ำ"อยู่เสมอไม่ว่าลักขโมย-ปล้นสดมภ์ ชึ่งเป็นเรื่องปกติของคนหมู่มากต้องมีทั้งคนดีและคนเลวอยู่ปะปนกัน ผิดก็ว่าไปตามผิด
อย่าสื่อก็เช่นเดียวกันย่อมมีทั้งดีและชั่วอย่างข่าวแมลงสาบiายวันเมื่อวานรายงานว่า ศาลตัดสินคดีเผาห้างเซ็นทรัลฯ ทั้งที่จริงแล้ว 6 คนผิดข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีผิดข้อหาลักทรัพย์ 1 คน ไม่ใช่คดี"เผา"แต่อย่างใด
และที่สำคัญจริงๆคือประเทศไทยมักไม่ให้ความสำคัญกับการกระทำผิดของ"ผู้ลากมากดี"เท่าใหร่ ทั้งที่ผู้ลากมากดีเหล่านี้ก่อความเสียหายไว้มากมายแต่อาจจะมีเส้นสายอะไรที่รอดพ้นการจับกุมดำเนินคดี
คนชายลองอ่านประวัติของผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์คนอื่นดูบ้าง
อย่างนายเอกยุทธ อัญชัญบุตร ((( จิ้ม ))))
อย่างนายระลึก หลีกภัย ((( จิ้ม )))
แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 54 08:35:53