ข้อสังเกตุ ตามลักษณะคดีความ ที่มีการปิดสำนวนการสอบสวนลงไปแล้ว เป็นสิ่งที่อัยการต้องพิจารณา โดยข้อมูลพยานหลักฐานในสำนวน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา และควบคุมคดีโดยอายัด บุคคลที่อยู่ในขอบข่ายของผู้กระทำผิด หรือพยานหลักฐานที่ยังอยู่ในครอบครอง เพื่อให้ลดอุปสรรค์ต่อการดำเนินคดีในชั้นศาล การเชิญบุคคล ที่ตามสำนวนสอบสวน มีข้อสงสัยว่าอยู่ในกลุ่มของผู้กระทำผิด เพื่อให้มาสอบปากคำในฐานะ พยาน ที่ปิดสำนวนสอบสวนไปแล้ว (๑ คดี) หรือ ในฐานะบุคคล ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัย โดยไม่มีการแจ้งคดีกล่าวหา (ผู้ถูกกล่าวหา/สงสัย) อย่างชัดเจน เป็นสิ่งที่ไม่มีกฎกำหนดเอาไว้ ในวิธีพิจารณาความอาญา ครับ

ในกรณี ที่เป็นคดีอาญา ที่จะมีผลทางอาญาในระดับรุนแรง อันมีเหตุสมควรที่จะเชื่อได้ว่า อาจมีการหนีคดีความ หรืออาจมีการพยายามทำลายข้อมูลพยานหลักฐาน จะเป็นอำนาจหน้าที่บังคับ ให้ยื่นออกหมายจับ หมายค้น เพื่อควบคุมคดี กับบุคคลในฐานะ ผู้ต้องสงสัย โดยทันท่วงที ตรงกันข้าม เชิญเพื่อการสอบสวนและคำให้การ ในฐานะ พยานบุคคล จะเป็นไปได้เฉพาะกับบุคคล ที่ไม่อยู่ในขอบข่าย ของการเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะคำให้การของพยานบุคคล จะไปล่วงสิทธิการให้การ ที่สามารถปฎิเสธได้ จากผู้ต้องสงสัยนั่นเอง ครับ

การใช้ลักษณะ คำเชิญ เพื่อมาให้การในฐานะ พยานบุคคล อาจใช้เหตุผลถึง แนวทางการสอบสวนคดีที่ยังไม่เสร็จสิ้น ในเมื่อที่มีการปิดสำนวนสอบสอบสวน คดีลักษณะความผิดเดียวกัน ๑ คดีไปแล้ว แต่ถ้า บุคคลที่เชิญมาให้การในฐานะ พยาน มีหลักฐานแสดงว่า เป็นผู้ต้องสงสัยอยู่ในคดีความ ที่มีการสอบสวนเสร็จสิ้นลงแล้ว จะส่อถึงการได้ข้อมูลจากพยานบุคคล ที่กำลังอยู่ในฐานะผู้ต้องสงสัย โดยมิชอบธรรม (ไม่เป็นไปด้วยสมยอมพร้อมใจ) นั่นเองครับ

ในกรณี ที่มีการใช้หนังสือเชิญ เพื่อขอความร่วมมือ (ให้การ) โดยมีพยานบุคคล ให้การในสำนวนสอบสวนเอาไว้ว่า เป็นผู้ออกคำสั่งปฎิบัติการ เป็นการแสดงออกถึง สภาวะคดี ว่าผู้ที่ได้รับเชิญ อยู่ในข่ายบุคคล ที่ต้องสงสัย ในเมื่อไม่มีการยื่นให้ศาล ออกคำสั่งอายัดตัว แต่เป็นเพียงการเชิญ เพื่อให้ข้อมูล (ปากคำ) ในฐานะพยาน น่าจะส่อให้เห็นถึงว่า จากข้อมูลพยานหลักฐานการสอบสวน ตามลักษณะคดี มิใช่เป็นบุคคล ที่อยู่ในข่ายของ ผู้ต้องสงสัย อันอาจเป็นกรณี คดีต้องห้าม (จำหน่ายคดี) เนื่องจาก เหตุผลข้างต้น (ลักษณะยกฟ้องในคดียุบพรรค) เพื่อให้สามารถเป็นไปได้ในลักษณะเช่นนี้ จึงน่าจะเป็นเหตุผลสมควร ที่มีการเลื่อนกำหนดเข้าให้การ ตามคำเชิญ ในฐานะ พยาน และในเมื่อมีเหตุผลสมควร กับการใช้สิทธิการเป็นพยาน ก็หมายถึงว่า โอกาสที่จะนำเอา ผู้ที่ไม่อยู่ในคดีความในฐานะ พยาน ขึ้นฟ้องต่อศาลอาญาในฐานะ ผู้ต้องหา (จำเลย) ในคดีที่สอบสวน ได้น้อยมาก นอกเสียว่าจะเป็นคดีใหม่ และโดยไม่ใช้สำนวนคำให้การ หรือข้อมูลพยานหลักฐาน จากคดีที่ถูกจำหน่ายคดี (ยกฟ้อง) ไปแล้ว ครับ

ถ้าจะดูจาก คดีอากง คดี สส.จตุพร หรือคดี นปช. ถึงลักษณะการสอบสวนดำเนินคดี รวมทั้งการอายัด บุคคล ในกลุ่มต้องสงสัย (กุมขังชั่วคราว) หรือข้อมูลหลักฐาน โดยยังไม่ได้ยื่นฟ้องคดี ไม่มีใคร ได้โอกาส ที่ได้รับเชิญ หรือยินยอมให้เลื่อนกำหนด ในฐานะ พยาน เข้าให้การในคดี แม้แต่คนเดียว ถูกใหมครับ

สิ่งเหล่านี้ เป็นเพียงข้อวินิจฉัยมุมหนึ่ง ถึงความเป็นไปได้ในแง่มุมของ กฎหมาย และสถานะการณ์ ที่ผมเชื่อว่า นักกฎหมาย ที่มีทั้งคุณวุฒิ และประสบการณ์ จะสามารถตรวจสอบความเป็นไปได้ ชัดเจนและถูกต้องกว่านี้ แต่อันนี้เป็นเพียง แนวแน๊ะถึงเหตุผลไม่สมควร กับ กระต่ายตื่นตูม กรณีหนึ่ง เท่านั้น และฉนั้น ถ้ามีใครมองว่า ขณะนี้กำลังมีแสงสว่างในคดี ผมกลับมองตรงข้าม ครับ