1. ที่คุณโพสต์ว่า “ทักษิณมีสิทธิ มีบัตรประชาชนในฐานะคนไทย”
ข้อสังเกต -  การมีบัตรและถือบัตรประชาชนนั้น เป็นหน้าที่ครับไม่ใช่สิทธิ ประชาชนคนไทยทุกคนในปัจจุบัน เมื่ออายุครอบ 7 ปีบริบูรณ์(เมื่อก่อนนั้นบังคับเมื่ออายุ 15 ปีบริบูรณ์) มีหน้าที่ที่จะต้องมีบัตรประชาชน ตาม พระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน มาตรา ๕ ผู้มีสัญชาติไทยซึ่งมีอายุตั้งแต่เจ็ดปีบริบูรณ์ แต่ไม่เกินเจ็ดสิบปีบริบูรณ์ และมีชื่อในทะเบียนบ้านต้องมีบัตรตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้

คำว่าต้องมี นั้นคือบังคับให้มี ถือเป็นหน้าที่ต้องไปทำและมีบัตรประชาชน ไม่ใช่จะสามารถเลือกเอาตามใจได้ว่าจะมีหรือไม่มี และการจะมีบัตรอย่างไรล้วนเป็นทางราชการกำหนด ไม่ใช่ประชาชนเลือกเอาเองได้ การมีบัตรประชาชนไม่ใช้สิทธิแต่เป็นหน้าที่

2. ที่คุณโพสต์ว่า “เมื่อทักษิณมีสิทธิถือบัตรประชาชนไทย ทักษิณจึงมีสิทธิถือพาสพอร์ตไทยซึ่งเป็นเอกสารอุปกรณ์”

ข้อสังเกต – การมีบัตรประชาชนเป็นหน้าที่ตามพรบ.บัตรประชาชนดังที่กล่าวแล้ว  ส่วนการขอมีหนังสือเดินทางนั้นเป็นสิทธิในการที่จะขอมีได้ อันแยกต่างหากไม่เกี่ยวข้องกับการมีบัตรประชาชนแม้แต่น้อย   บุคคลที่อายุน้อยไม่ถึงเกณท์มีบัตรประชาชน ก็สามารถขอมีหนังสือเดินทางได้  แต่ต้องเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. ๒๕๔๘  ทั้งนี้เพราะตาม ประกาศว่าด้วยผู้เดินทางไปนอกพระราชอาณาเขตร์ให้มีหนังสือเดินทาง 2460 ประชาชนมีหน้าที่ที่จะต้องมีหนังสือเดินทางหากเดินทางออกไปต่างประเทศ  ดังนั้นการขอมีหนังสือเดินทาง ล้วนต้องเป็นไปตามที่ระเบียบกำหนด มิใช่ประชนชนนึกจะมีเอาเองอย่างไรก็จะมีได้ แบบนั้นไม่มีครับ

การที่คุณทักษิณจะมีหนังสือเดินทางได้หรือไม่ จึงขึ้นกับระเบียบของทางราชการ

3. ที่คุณโพสต์ว่า “นายกษิตไปเพิกถอนพาสพอร์ตทักษิณ น่าจะเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ โดยอาจจะอาศัยกฎกระทรวงเกี่ยวกับการตามจับกุมนักโทษ ซึ่งเล็กกว่ากฎหมาย รธน.”

ขอแย้ง- เรื่องการขอมีหนังสือเดินทางนั้นเป็นสิทธิ ที่จะมีได้ตามที่ทางราชการกำหนดเงื่อนไข ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการมีบัตรประชาชน และรัฐธรรมนูญก็ไม่เคยมีข้อกำหนดลงมาในรายละเอียดเกี่ยวกับ สิทธิหรือหน้าที่ในการมีหนังสือเดินทาง หรือบัตรประชาชน  เพราะรัฐธรรมนูญให้อำนาจหน่วยราชการออกกฎระเบียบ ข้อบังคับ เหล่านี้ ได้ตามที่หน่วยราชการนั้นๆ เห็นสมควร และสามารถใช้ได้เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา  (คลิก )
 

กรณีกษิตนั้น ใช้อำนาจตาม ระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. ๒๕๔๘ ที่ประกาศในราชกิจจาข้อ ๒๓ พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถยกเลิกและเรียกคืนหนังสือเดินทางได้ เมื่อปรากฏภายหลังว่า..... (๗) พิจารณาเห็นว่า หากให้ผู้ถือหนังสือเดินทางยังคงอยู่ในต่างประเทศต่อไป อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทยหรือต่างประเทศได้ 

ซึ่งตามเหตุผลของกษิตในเวลานั้นก็คือคุณทักษิณก่อความเสียหายโดยมีส่วนทำการยุยงมาจากต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความวไม่สงบในระหว่างการชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อเมษายน 2552 จึงยกเลิกหนังสือเดินทาง

อนึ่ง ตามข้อ ๒๑ ยังมีบัญญัติไว้อีกว่า พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถปฏิเสธหรือยับยั้งการขอ หรือแก้ไขหนังสือเดินทางในกรณีดังต่อไปนี้ (๒) เมื่อได้รับแจ้งว่าผู้ร้องเป็นผู้ซึ่งกำลังรับโทษในคดีอาญา หรืออยู่ระหว่างการปล่อยตัว ชั่วคราว หรือเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาที่ได้มีการออกหมายจับไว้แล้ว

การขอกลับมาถือพาสปอร์ตตามที่รมต.ตปท.ออกมาว่า จึงดูจะแย้งกับ ข้อกำหนดในข้อ 21 (2) นี้ด้วยซ้ำไปครับ  คลิก ดูอีกทีก้ได้ครับ