หลังมีความเคลื่อนไหวเป็นไฟลามทุ่งอย่างรวดเร็วหลังศาลมีคำสั่งจำคุกนายอำพล ตั้งนพกุล วัย 61 ปี หรืออากง ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตามมาตรา 112 ที่มีการเรียกร้องให้ปรับแก้กฎหมายเพื่อให้เกิดความเหมาะสม และบางส่วนก็เสนอให้ยกเลิกกฎหมายนี้ไปเลย ขณะเดียวกันมีคนไทยอีกกลุ่มหนึ่งที่คัดค้านการเคลื่อนไหวเหล่านี้ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการปกป้องสถาบัน

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา และแกนนำกลุ่มสยามสามัคคคี ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้าคณะสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ระบุว่า มีบางกลุ่มกำลังนำคดีของนายอำพลมาปลุกกระแสเพื่อหวังให้มีการแก้ไขมาตรา 112 ทั้งๆที่นายอำพลทำความผิดจริงตามข้อกล่าวหา

“ผมถามว่าพวกเรายังมีกฎหมายหมิ่นประมาทคุ้มครอง มีใครมาหมิ่นประมาทเราด่าพ่อด่าแม่หรือกล่าวหาใส่ร้ายเราก็ยังไปฟ้องได้ แต่ถามว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยไปฟ้องร้องใครหรือไม่ ผมเชื่อว่าไม่ และพระองค์ท่านก็ไม่ทรงคิดที่จะทำ เพราะฉะนั้นพวกเราต้องมีหน้าที่ปกป้องพระองค์ ไม่ใช่ดึงพระองค์ท่านลงมา”

พล.อ.สมเจตน์ระบุว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับการปรับแก้มาตรา 112 ตามข้อเรียกร้องของหลายฝ่ายเพื่อให้เกิดความเหมาะสม ไม่ใช่ยกเลิก และหากตนมีอำนาจทำเรื่องนี้ก็จะปรับแก้เพิ่มโทษให้แรงขึ้นอีก ข้ออ้างเรื่องสิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องของคุณ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของประเทศไทย

“ที่เขาอ้างเป็นเรื่องต่างประเทศ ซึ่งวัฒนธรรมของไทยกับต่างประเทศไม่เหมือนกัน พระมหากษัตริย์เป็นสิ่งที่คนไทยยึดมั่นและเคารพสักการะ เราจำเป็นต้องเชิดชูของเราไว้ คุณจะไม่เชิดชูประมุขของคุณก็เป็นเรื่องของคุณ แต่เราจะต้องเชิดชูประมุขของเรา”

พล.อ.สมเจตน์กล่าวอีกว่า ในอดีตคดีหมิ่นตามมาตรา 112 แทบไม่มี เพราะไม่มีใครไปอาฆาตมาดร้าย บิดเบือน และวิพากษ์วิจารณ์พระองค์ท่าน แต่ปัจจุบันมีคนกลุ่มหนึ่งไม่ต้องการสถาบัน จึงพยายามหาเรื่องมาโจมตีพระองค์ สร้างตัวเองเป็นพระเอกเป็นฮีโร่ พอถูกจับเข้าคุกก็กลายเป็นวีรบุรุษได้รับความสงสาร

“เท่าที่ทราบพระองค์ท่านไม่ทรงประสงค์ให้ใครได้รับโทษคดีนี้ ถ้าสุดท้ายมีความสำนึกผิด เชื่อว่าพระองค์ท่านก็จะพระราชทานอภัยโทษให้กับทุกคน”

http://www.dailyworldtoday.com/newsblank.php?news_id=12723

แล้วพวกที่ปฏิวัติรัฐประหารล่ะไม่ทำให้พระองค์เดือดร้อนหรือ