ทีแรกผลการเลือกตั้งออกมา พรรคประชาธิปัตย์แพ้อย่างย่อยยับชนิดที่ว่าทำใจยอมรับลำบาก
คือที่แพ้ซ้ำซากมาตลอด 20 ปี ไม่อาจเทียบได้กับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ เพราะครั้งนี้มาร์คได้ดีดลูกคิด+ใช้สมองและปัญญา(ถ้ามี)ทั้งหมดที่มีแล้ว ทั้งใช้สื่อในมือและสื่อแนวร่วมออกอากาศชนิดที่ว่าฝ่ายตรงข้ามฟังแล้วอยากแช่งให้ฟ้าผ่า ช่างกล้าเอาดีใส่ตัว ชั่วให้คนอื่นเป็นยิ่งนัก
คงคิดแล้วว่าการใส่ข้อมูลข้างเดียว-ปิดข้อมูลฝ่ายตรงข้าม ปิดกั้นการรับรู้ของประชาชน
กดดูการจัดอันดับสื่อไทยในสมัยนั้นถูกจัดให้เป็นกลุ่มที่เรียกว่า ไม่เสรีระนาบเดียวกันกับพม่าและเกาห ลี เหนือ
http://www.youtube.com/watch?v=iGa6lYxxU1w
ใช้ฝีปาก"ดีแต่พูด" สร้างวาทกรรมสวยหรูมากว่า 2 ปี คงได้ผลจึงตัดสินใจ"ยุบสภา" คิดว่าจะกลับมาได้โดยง่าย ไม่ด้วยคะแนนเสียงก็ด้วย"ตัวช่วยพิเศษ(มีอาวุธหนักด้วยนะ) รวมถึงการหาเสียงแบบได้เปรียบคู่ต่อสู้อีกหลายขุม เป็นการเลือกตั้งที่เห็นว่า มีการใช้กระสุนดินดำกันมากที่สุด
แต่ผลที่ออกมา แพ้อย่างย่อยยับ อับอายขายขี้หน้าเป็นอย่างยิ่ง แทนที่จะปรับรูปแบบพรรคใหม่ เปลี่ยนหัวหน้าใหม่ ปรับปรุงพรรคไปในทางที่ดีขึ้น กลับทำนโยบายพรรคเหมือนเดิม เลือกคนเดิมกลับมาเป็นหัวหน้าพรรค
ผู้คนทั่วไปได้แต่สงสัยว่า ทำไมไม่ปรับปรุงพรรคเสียที แต่ผมหายสงสัยเพราะกระทู้คุณพี่ ห่านป่า มาเฉลยให้ครับว่าเป็นเพราะเหตุใด??พรรคถึงไม่คิดจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
เพราะยังมีเสียงส่วนน้อยของประเทศไทย คิดแบบพี่ห่านป่าและจะคอยเชียร์และคอยอวยในทุกเรื่องที่พรรคนี้กระทำ ไม่ว่าดีหรือไม่ดี กองเชียร์เหล่านี้จะตามไปยกย่องทุกเรื่อง
พรรคเลยคิดว่า เดินมาถูกทางแล้วเพราะประชาชน(กลุ่มนี้หละ)เห็นด้วย
((กด)) << ดูทางที่พรรคนี้เลือกเดินและนำพาไป
ขอบคุณมากครับ ถ้าไม่มีกองเชียร์กลุ่มนี้ พรรคประชาธิปัตย์อาจจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น พรรคเพื่อไทยอาจแพ้การเลือกตั้งไปแล้ว
เป็นกำลังใจให้ติดตามเชียร์กันแบบนี้อีกต่อไปนานๆ เพื่อพรรคนี้จะได้แพ้ซ้ำซากไปอีกตลอดไปครับ
ขอบคุณด้วยใจจริง