เห็นวันนี้มาดิสเครดิตเรื่องการย้ายการผลิตของ บ.ผู้ผลิตหลายกระทู้แต่เช้า

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P11446391/P11446391.html

เท่าที่อ่าน ๆ ดู นะ เห็นว่าเป็นการโยนความผิดให้รัฐบาล ยิ่งลักษณ์อย่างเดียวเลยรึนั่น

โยนไปใส่ 300 บาท

โยนไปใส่ มหาอุทกภัย

ม่ะ...กรรมกรแบบผมจะ สาธยายธรรม ให้ฟัง...เผื่อจะมีสติ เปิดหูเปิดตารับรู้อะไรมั่ง

การย้ายฐานการผลิตน่ะนะ

เป็นเรื่องธรรมดาของธุรกิจการลงทุนเด้อครับ รู้ไว้ด้วย

และหลากหลายธุรกิจอุตสาหกรรม ที่นักธุรกิจ นักลงทุน รึกลุ่มทุนธุรกิจใหญ่ ๆ ที่จะมาลงทุนนั้น

ไม่ได้มองแต่เรื่องจิ๊บ ๆ แค่ด้านสองด้านเหมือนที่คุณว่ามา

คือ หนึ่ง น้ำท่วม รึภัยธรรมชาติ

สอง ย้ายฐานการผลิตเพื่อหนีค่าแรง 300 บาท

แหม๊....คนที่คิดที่พูดแบบนี้ มันช่างบ้องตื้น  เหลิอเกินนะครับ

แต่ละกลุ่มธุรกิจ ที่จะมาลงทุนที่บ้านเรา  เค้าไม่ได้มองแค่องค์ประกอบ อย่าง สองอย่างที่คุณว่ามาหรอก

ลอง คิดกันดีดี ว่าเมืองไทยเรา ส่งออกอันดับแรกคือ คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนคอม

อันดับสอง คือรถยนต์ และส่วนประกอบยายยนต์

คุณลองคิดดูครับ

ว่า  นักลงทุนที่คิดจะมาลงทุนในธุรกิจด้านนี้

มันไม่ได้มองแค่ที่ค่าแรง 300 บาท และน้ำท่วมหรอกนะ

แต่เค้าจะมองภาพรวมของการลงทุน    และธุรกิจต่อเนื่อง  และอุตสหกรรมประกอบอื่นที่เอื้อต่อกัน

เมืองไทยเรามีจุดนี้ที่เป็นจุดแข็ง

โดยเฉพาะพวกคอมพิวเตอร์ และ ภาคยานยนต์ เรามีอุตสาหกรรมอื่นที่รองรับสอดคล้องกันมากมาย

และกลุ่มทุนที่จะมาลงทุนนั้น เค้าก็จะมองส่วนนี้ด้วย

คือ อุตสหกรรมอื่นที่รองรับ และเอื้อต่อธุรกิจของตน และธุรกิจของตนนั้นสามารถสร้างกำไรได้แบบน่าพอใจรึไม่

ก็เท่านั้นเอง.....ที่จะวิเคราะห์และตัดสินใจว่าจะอยู่..รึจะไป

และส่วนสำคัญอย่างมากอีกส่วนก็คือ  รัฐบาล  และนโยบายด้านนี้ของภาครัฐ

ลองมองย้อนไปปี 44-45-46 นะครับ ว่ารัฐบาลยุคนั้น  เค้าปูทางเพื่ออยากให้ประเทศนี้

เป็นศูนย์กลางอะไรของโลกมั่ง  นั่นแหละครับที่เค้าเรียกว่าความเชื่อมั่นทาง ธุรกิจ

ดังนั้น พ่อ " อำแหลก " ยังไม่ต้องโหมโรงเรื่อง ซันโยเซมิคอนดักเตอร์ ปิดโรงงานหรอกครับ

เพราะตรงนี้ มันแค่ขี้ป่ะติ๋ว ตรงนี้คือ ธุรกิจ ที่ผ่านกราฟ Cash cow ไปแล้ว นี่คือธุรกิจขาลง

นี่คือการปิดตัวลงของซันโยเซมิคอนดักเตอร์อย่างสวยงาม และสร้างภาพความมั่นใจให้ลูกค้าเค้าไว้ได้

ว่าเหตุที่ ต้องปิดตัวลงนั้นเป็นเพราะเครื่องจักรมีความเสียหายเป็นมูลค่าสูง   ไม่คุ้มต่อการกู้โรงงาน

เพื่อเปิดดำเนินการผลิตต่อ  ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วมันไม่ใช่แค่นี้หรอก

จะบอกพ่อ " อำแหลก " ครับ  ว่าอย่ามาโหมเรื่องการย้ายฐานการผลิตเลยครับ

มันไม่ระคายผิวความเป็นจริงในภาคการผลิตหรอก

และขอบอกว่า  ทุกธุรกิจ ในแต่ละพื้นที่ และทุกอุตสาหกรรมในทุกโซนของโลกอุตสาหกรรม

มีการ เกิด เติบโต ทรงตัว  ทรุดตัว  และตาย

นี่คือเรื่องจริงของแต่ละธุรกิจอุตสาหกรรมเป็นวัฎจักรที่ต้องมีการตายทางธุรกิจ  และก็ต้องมีการย้ายฐานการผลิต

ไปดำเนินการผลิตอีกซีกโลกหนึ่ง  และดำเนินธุรกิจนั้นต่อไปได้....เข้าใจไหม๊ครับ  พ่ออำแหลก

เมืองไทยเรานะ  ด้านการผลิต คอมพิวเตอร์ และชิ้นส่วนคอม  ยังจะไปได้อีกมาก

เผลอ ๆ ร่วมครึ่งอายุคน

อุตสหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนประกอบยานยนต์ก็เช่นกัน  ยังไปได้อีกไกล

และอีกกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะมาผงาดเพิ่ม.ovok89รอดูละกัน

ก็คือ อุตสหกรรมอาหารเลี้ยงโลกของเครือง CP รอดูสิบปีข้างหน้า ก็แล้วกันครับ ผงาดแน่ ๆ

ผมจะยกตัวอย่างอีกอุตสาหกรรมที่ต้องตาย  ต้องย้ายฐานการผลิตเช่นกัน

ลองคลิกครับ http://www.noritake.co.jp/eng/company/about/

บ. นิริตาเก  เป็นผู้ผลิตสินค้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารอันดับต้น ๆ ของโลก

ที่ดำเนินการผลิตที่ ญี่ปุ่นมาเป็น 100 ปี  แต่สุดท้ายก็ต้องปิดตัวฐานการผลิตในประเทศของตน

แล้วย้ายฐานการผลิตไปดำเนินการผลิตที่ ศรีลังกา เครื่องใช้ไม้สอยที่บ้านตนเอง

ต้องไปผลิตที่ประเทศอื่น  แล้วส่งเข้ามาในประเทศ

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งภาพแห่งสัจธรรมของธุรกิจ เพราะเมื่อถึงเวลาใดเวลาหนึ่งที่ธุรกิจนั้น ๆ

ไม่สามารถดำเนินการผลิต และทำกำไรได้อย่างน่าพอใจ  การปิดตัว การย้ายฐานการผลิตก็จะตามมา...

ท่าน "อำแหลก" ไม่ต้องกลัวหรอกครับ  ว่าอนาคตบ้านเมืองเรา ลูกหลายเราจะทำงานกันอย่างไร

ไม่ต้องห้วงครับ  ในอนาคต อุตสาหกรรมก็จะมีการปรับตัว

ภาคการผลิตในบ้านเราก็จะปรับตัว   หน้าที่การงานของลูก ๆ หลาน ๆ เราก็จะปรับตัว

อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ครับ...............  

ที่พรรคเพื่อไทย และนายกยิ่งลักษณิบอกว่า  ในปี 2020  แรงพื้นฐานคนไทยจะเป็น 1000 บาทต่อคนต่อวัน

ผมบอกว่าเป็นไปได้  รอดูได้เลย

ในอนาคตไม่นาน   อุตสาหกรรม ที่ทำเงินเยอะ ๆ ยอดขายเยอะ ๆ แต่ใช้คนไม่มากก็จะเกิดขึ้นในบ้านเรา

จะปรับตัวด้วยเทคโนโลยีด้านการผลิต  แล้วทำไมตอนนั้นจะจ้างค่าแรงวันละ 1000 บาทไม่ได้

หากคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ลองนึกถึง เลเบอร์แรงงานที่ขายแรงงานในประเทศ ญี่ปุ่น ทำไมค่าแรงพื้นฐานเค้า

สามารถจ้างได้ วันละ 15000 เยนหล่ะ...  มันก็แบบที่ผมว่ามาครับ

ถ้าเราผลิต ของได้มูลค่าสูง ๆ และเป็นที่ต้องการของตลาดโลก 

เราก็ขายได้ราคา แล้วทำไม เมืองไทยจะจ้างค่าแรงพื้นฐานวันละ 1000 บาทไม่ได้ ในปี 2020  รอชมล่ะกัน

นะ พ่อ "อำแหลก"  พอเหอะถ้าจะปั่นเรื่องการย้ายฐานการผลิตน่ะ

ขอบอกว่า มันเป็นธรรมดาของอุตสาหกรรมการผลิต

เมื่อ อุตสาหกรรมหนึ่งย้ายไปผลิตในประเทศที่ไปต่อได้  ก็จะมีอุตสาหกรรมอื่นเข้ามาผลิตแทนที่

มันเป็นธรรมดาครับ.....นี่ผมเองก็จะย้ายไปดูแลงานผลิตที่ประเทศ อูกานดา เร็ว ๆ นี้เช่นกันครับ

เอิ๊ก ๆๆ..... ( คงจะด๊ามมมม...ดำ )