วันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7684 ข่าวสดรายวัน
ตลกแห่งปี
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
มุขฮาเที่ยวล่าสุด ที่กำลังขบขันกันไปทั้งเมือง คือ เรื่องเล่าที่ว่า แผนปล้นบ้านปลัดสุพจน์ ทรัพย์ล้อมนั้น เป็นเล่ห์กลที่มีนักการเมืองว่าจ้างคนร้ายให้เข้าปล้น เพื่อสร้างเรื่องใส่ร้าย แล้วมาจัดฉากตามไล่จับโจร พร้อมกับนำเงินของกลางเข้ามายัดให้ดื้อๆ
คนที่เขียนมุขนี้ ดำเนินเรื่องว่า เงินในบ้านปลัดมีนิดเดียว แต่สร้างเรื่องปล้น แล้วเอาเงินมายัดเพื่อใส่ร้ายปลัด
สรุปว่าโจรปล้นเพื่อยัดเงินให้ปลัด
แทนที่ฟังแล้วจะได้แต่ขำ แต่มีคนเอาไปขยายต่อ
สังคมไทยเราในวันนี้ มีปัญหาใหญ่ คือ มีความเกลียดชังคนบางคน จนมองทุกอย่างผูกโยงมาจากคนๆนี้คนเดียว
ความอคตินี้ ได้ทำให้คนที่เคยปกติธรรมดา กลายเป็นคนที่เลิกค้นหาข้อเท็จจริง เลิกประเมินจากพื้นฐานความเป็นจริง!
ถ้าบอกว่าเป็นแผนร้ายจากคนที่เกลียดกลัวนั้น จะเชื่อทันทีว่าใช่
แล้วยิ่งถ้าเป็นเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อพ่อรูปหล่อ คนดี คนนั้น
จะยิ่งเสียสติไปกันใหญ่
คงเกรงว่าการปล้นจะเชื่อมโยงถึงโครงการงบประมาณมหาศาลในรัฐบาลยุคที่แล้ว
เริ่มต้นจากกลัวตรงนี้ กลัวว่าผู้นำคนดีจะแปดเปื้อน เลยไม่ยอมเชื่อ ไม่ยอมฟังข้อเท็จจริง
จึงเลือกฟังเลือกเชื่อเรื่องที่ทำให้รัฐบาลยุคที่แล้วปลอดพ้นข้อหาทุจริต!
เช่นนี้แล้วก็เลยกลายเป็นคนนำเรื่องตลกโปกฮาแห่งปีไปขยายความอย่างจริงจังขึงขัง เป็นนักเล่าเรื่องตลกกลางเมืองไปในที่สุด
ถึงเวลานี้คดีปล้นบ้านปลัดสุพจน์ยังดำเนินไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นตามปกติ มีตัวผู้ต้องหา มีความเชื่อมโยงเป็นวิทยาศาสตร์
มีอดีตเลขาฯคนสนิท เอาเรื่องไปเล่าต่อให้ลูกชาย แล้วเรื่องก็ไปถึงหูหัวหน้าโจร เลยเกิดแผนปล้น
ในนาทีเกิดเหตุ บังเอิญคนใช้หลุดไปโทรศัพท์หาเจ้านายได้ ตอนนั้นเจ้านายก็ยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ เลยรีบแจ้งตำรวจที่สนิทกัน
แต่ตำรวจนั้นเขาทำตามหน้าที่ โดยการแจ้งตำรวจท้องที่เข้าไปตรวจสอบ
กลายเป็นคดีที่ต้องดำเนินไป
ตำรวจตามไปจับกุมได้ พร้อมเงินของกลางที่ยึดมาจากโจรนั่นแหละ
ยึดได้มากขึ้นจากคนร้ายที่ทยอยจับได้
ไม่มีใครลงทุนเป็นโจรให้ถูกจับเข้าคุก
แล้วควักเงินหลายสิบล้านมายัดใส่เขาหรอก!
.......................................................................................................
ประเทศไทยซะอย่าง....เรื่องตลกร้ายหรือตลกโง่ ๆ มักเิกิดขึ้นได้เสมอ
ไม่น่าเชื่อว่าคนที่กล้าเปิดหน้า่ออกมา พยายามหาเหตุผล เพื่อแก้ต่างให้กับคดีทุจริตที่สนั่นเมืองด้วยการยอม เสียหน้า.....เอาหน้าเอาชื่อเสียงเกียรติยศของตนเอง ตีลังกา คิดวิธีการแก้ต่างให้กับการถูกปล้นในครั้งนี้ได้ถึงเพียงนี้
ถ้าคดีนี้พลิกไปได้ดัง "นิยาย" ที่พยายามเขียนบทขึ้นมาใหม่ให้มันแปลกแหวกแนวชนิดที่ นักแต่งนิยาย ยังนึกไม่ถึง
เลือกตั้งครั้งหน้า เชื่อว่า "พรรคคนดี" คงได้สมาชิกหน้าใหม่ ๆ อีกเยอะ......เพราะหากขื้นชื่อว่าได้ลงเรือลำเดียวกันนี้แล้วละก็......การันตีในความ"เป็นคนดี ศรีรัตนโกสินธุ์" ได้เลยทีเดียว
เฮ้ออออออ.....ทำไปได้