ถ้าจะกลับย้อนไปมองดู จะเห็นว่าโครงสร้างหรือแนวคิดของพรรคนี้ คือ แนวอนุรักษ์นิยมสุดโต้ง คือ พวกอำมาตย์ พวกข้าราชการศักดินา พวกพวกชนชั้นผู้ดีหรือชนชั้นสูงของประเทศ ซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก หรือเป็นชนส่วนน้อยของประเทศ และไม่ว่าประเทศ ประชาชนจะพัฒนาไปไกลขนาดไหน แต่พวกนี้จะยึดมั่นในระบบจารีต ไม่ค่อยจะยอมเปลี่ยนแปลงไปตามสังคมโลก แต่กลับมาคอยโจมตีกลุ่มชนที่อยากพัฒนา หรือต้องการความเจริญก้าวหน้า ว่าเป็นพวกนอกรีต พวกประชานิยม พวกวัตถุนิยม ซึ่งพวกเขาจะเป็นกลุ่มชนส่วนใหญ่ของประเทศ

ผลของการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย พรรคที่จะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล คือพรรคที่จะต้องได้รับเลือกเป็นอันดับหนึ่ง แต่จากพื้นฐาน หรือกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเพียงคนชนกลุ่มน้อยในประเทศ จึงไม่เคยชนะการเลือกตั้งในรอบ 20 ปี ถึงแม้จะใช้ทุกวิถีทางเพื่อจะได้ชัยชนะก็ยังไม่สามารถเป็นไปได้ และแพ้พรรคที่เป็นพรรคใหม่ๆ และมีอายุในด้านการเมืองน้อยกว่าปชป.ทั้งสิ้น

และตราบใดที่พรรคปชป.ยังยึดแนวคิดเดิมๆ มีแต่กลุ่มเดิมๆสนับสนุนผลการเลือกตั้งก็จะเป็นเหมือนทุกๆครั้งที่ผ่าน คือแพ้การเลือกตั้งตลอด และยีงแพ้เลือกตั้งก็ยีงผลักไสให้ประชาชนอีกฝ่ายให้ไปเป็นคนละพวก เหยียบย้ำว่าเป็นพวกด้อยคุณภาพ พวกไร้การศึกษา พวกบ้านนอกคอกนา พวกต่างจังหวัด ซึ่งก็จะยีงไปเพีมคะแนนให้ฟังตรงข้ามเพีมขึ้นทุกที

ประกอบกับปชป.ได้เป็นรัฐบาล ทั้งสมัยนายชวน และนายมาร์คไม่มีผลงานอะไรที่จับต้องได้ หรือไม่มีผลงานอะไรที่เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของประชาชนเลย จึงเป็นตัวฉุดรั้งให้ผู้สนับสนุนของปชป.ลดลง ทั้งที่ประชากรเพีมขึ้นทุกๆปีเช่นกัน

จากสาเหตุทั้งหมดที่กล่าวมา จึงทำให้ปชป.เป็นได้เป็นแค่พรรคอันดับที่ 2 ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง แล้วจงอย่ามาใช้วิธีการพิเศษใดๆมาทำให้ตัวเองเป็นได้รัฐบาลอีกอย่างที่เคยทำ เพราะประเทศทั่วโลกเขาไม่ทำกันแบบนี้ ครั้งเดียวก็เกินพอแล้วนะนายมาร์ค