Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
+ตอบคุณศาลายาเรื่องการห้ามประกอบอาชีพ-แย้งคุณทวดเอง คนบริสุทธิ์สุจริตน่าจะหาหาพยานได้-ติงความเห็นคุณโบกกรักตรงที่ผิด+ ติดต่อทีมงาน


เรื่องที่ 1 ตอบคุณศาลายาเรื่องการห้ามประกอบอาชีพ
ประเด็นแรก เรื่องนักการเมืองเป็นอาชีพหรือไม่ คำตอบคือ "ขึ้นอยู่กับแต่ละคนจะยึดถือ หากจะเถียงกันก็ไม่จบ " ผมจึงได้ให้ความเห็นเช่นนี้ไว้ตั้งต้นกระทู้ P11464598 แล้วว่า “นักการเมืองเป็นอาชีพหรือไม่ น่าจะตีความได้แตกต่างกัน” และท้ายกระทู้นั้นว่า “ดังนั้น เรื่องว่าเป็นอาชีพหรือไม่นี้ก็คงแล้วแต่ว่าใครจะยึดถือ”  แม้แต่ในเวลานี้ ผมก็ยังถือว่า เรื่องนี้แล้วแต่แต่ละคนจะคิด ไม่ใช่ประเด็นสำคัญของการอภิปราย แต่หากคุณศาลายายังติดใจ จะแยกกระทู้มาถกกันต่างหากก็ได้ หากผมมีโควตากระทู้เหลือพอ และมีเวลา ผมจะตามไปถกด้วย

ประเด็นที่สอง หากคุณชวนหรืออภิสิทธิ์ไม่ได้รับเลือกตั้งไม่ได้เป็นสส. และพรรคปชป.ไม่ตั้งเป็นรัฐมนตรี หรือถูกศาลสั่งห้ายุ่งการเมือง ไม่ว่าในกรณีใดๆ  ทั้งสองก็ต้องไปหาอาชีพอื่นประกอบต่อไปครับ ผมคิดว่าไม่เดือดร้อนหรอก  เพราะคนเหล่านี้ต่างก็รู้ว่าการทำงานการเมืองนี้มีความไม่แน่นอนสูง เขาย่อมต้องเตรียมทางไปและแผนสำรองเสมออยู่แล้วว่า หากไม่ได้ทำการเมืองต่อ ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดๆดังกล่าวข้างต้นเขาจะทำอะไรต่อ ดังนั้น ผมไม่เคยคิดว่าจะเกิดความเสียหายต่อคนทั้งสองนี้เลย หากศาลสั่งให้คนทั้งสองยุติเล่นการเมืองชั่วคราว เพราะเขาย่อมมีแผนอยู่แล้วตามสภาพ

ประเด็นที่สาม (ที่ถามต่อลงมา) ดังที่ผมชี้ไว้ในกระทู้ก่อนแล้ว การตัดสิทธิทางการเมืองก่อความเสียหายให้แก่บุคคลแน่นอนครับ แต่อยู่ในระดับที่น้อยกว่าโทษอาญาครับ ความเสียหายนี้ผมชี้ให้ดูแล้วว่า เท่าๆกับโทษที่ใช้ในวิธีการเพื่อความปลอดภัย ขอยกมาทั้งหมดเพื่อความสะดวกของสมาชิกในการพิจารณานะครับคือ

มาตรา ๓๙  วิธีการเพื่อความปลอดภัย มีดังนี้ (๑) กักกัน (๒) ห้ามเข้าเขตกำหนด (๓) เรียกประกันทัณฑ์บน (๔) คุมตัวไว้ในสถานพยาบาล (๕) ห้ามการประกอบอาชีพบางอย่าง 

มาตรา ๑๒  วิธีการเพื่อความปลอดภัยจะใช้บังคับแก่บุคคลใดได้ก็ต่อเมื่อมีบทบัญญัติแห่ง กฎหมายให้ใช้บังคับได้เท่านั้น และกฎหมายที่จะใช้บังคับนั้นให้ใช้กฎหมายในขณะที่ศาลพิพากษา

หากคุณว่าการห้ามประกอบอาชีพมีความเสียหาย มันก็เสียหายในระดับนั้น และอาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่า การกักกัน การห้ามเข้าเขตกำหนด การเรียกประกัน  แต่ความเสียหายที่เกิดนี้ไม่เท่าโทษอาญา และกฎหมายยอมให้ใช้กฎหมายที่มีในขณะพิพากษา ย้อนใช้กับการกระทำที่เกิดขึ้นก่อนได้

ดังนั้น   การตัดสิทธิทางการเมืองคือการห้ามประกอบอาชีพ เช่นที่คุณศาลายาว่าไว้ คุณศาลายาย่อมต้องยอมรับแล้วว่าศาลรัฐธรรมนูญทำถูกต้องแล้ว ที่ใช้กฎหมายที่มีในวันพิพากษาคือประกาศคปค. ในการกำหนด อันเป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ในมาตรา 12 ที่ให้ใช้กฎหมายที่มีในขณะที่พิพากษา ไม่ใช่กฏหมายขณะกระทำผิดอย่างการลงโทษอาญานะครับ
 

ประเด็นสุดท้าย เรื่องการให้ที่คุณให้กิฟต์คุณ pingpoojung ประทานโทษครับ มันเกี่ยวอะไรกับผมด้วย?????????? ผมเกรงว่าคุณศาลายาอาจจะสับสนครับ!!!  ผมจำเป็นต้องตั้งกระทู้ตอบคุณและแย้งคุณ pingpoojung ไว้ในกระทู้เดียวกัน P11467339 เพื่อประหยัดจำนวนกระทู้ที่จะใช้ เพราะโควตามี 5 กระทู้ต่อวัน(หรือมีการเพิ่มโควตาแล้ว อันนี้ผมไม่ทราบนะ) เรื่องที่โพสต์ให้คุณ pingpoojung และคุณศาลายา มิได้เกี่ยวอะไรกันเลยแม้แต่น้อยครับ ผมยังงงว่าคุณศาลายา ไปเอาอะไรมาโพสต์ครับตรงนี้


 

เรื่องที่ 2 แย้งคุณทวดเองครับ คนบริสุทธิ์สุจริตน่าจะหาหาพยาน


เรื่องที่คุณทวดเสียใจที่ต้องมีการรับผิดหากพิสูจน์ว่าตนบริสุทธิ์ไม่ได้นี้ ผมขอย้ำว่ามันเป็นทุกที่ในโลกใบนี้แหละครับ และย้ำว่าคุณทวดไม่ต้องวิตกมากหรอกครับ เพราะอย่างที่ผมว่า หากคนนั้นสุจริตจริง จะอย่างไรก็ต้องหาพยานมายืนยันความบริสุทธิ์ของตนได้ สำหรับเรื่องการหาพยานอ้างอิงเกี่ยวกับรถยนต์หรือจะคดีอากงนั้นก็ตาม หากท่านไม่ได้ทำความผิด ท่านย่อมต้องหาพยานมายืนยันได้แน่ กรณีรถของคุณลุงทวดนั้นผมขอให้ข้อสังเกตว่า ขนาดคนร้ายใช้รถกระทำความผิด และคนร้ายพยายามใช้รถอย่างระวังไม่ให้ใครเห็น แต่สุดท้ายต่างก็มีพยานยืนยันเห็นรถคนร้าย จนตามไปจับคนร้ายได้ในที่สุด แล้วคุณลุงทวดใช้รถอย่างไร จึงจะมาอ้างว่าจะไม่มีใครเห็นรถคุณทวดได้ จึงเป็นการอ้างสมมุติที่ไม่สมจริงนะครับ

อย่าลืมนะครับว่าในคดีอื่นๆ คนที่เขาสุจริตเขาก็หาพยานมายืนยันความบริสุทธิ์ของตนกันได้ทั้งนั้น ทำไมคุณลุงถุงจะพยานมายืนยันเรื่องรถไมได้ หรือทำไมอากงจะพยานไมได้ หากตนบริสุทธิ์จริง


โดยเฉพาะกรณีอากง เกิดเหตุตั้ง 4 ครั้งเพียงแค่หาพยานมาให้ได้สักครั้งเดียว ไม่ต้องหามาให้ครบทั้ง 4 ครั้งหรอกครับ เพียงแค่สักครั้งเดียว เพื่อพิสูจน์ว่าในประเทศนี้มีคนสองคนใช้ emi เดียวกันอยู่จริง คือโจรร้าย และตัวอากง แค่อากงก็รอดแล้ว แต่นี้เกิดเหตุตั้ง 4 ครั้ง หากพยานหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ให้ตนเองไม่ได้แม้สักครั้ง มันน่าประหลาดมาก

 แทนที่จะพยายามเถียงช่วยอากงด้วยการยกเอาสิ่งที่มันเป็นไปได้ยากมาอ้าง หรือการอ้างลอยๆเอาว่าเขาไม่มีพยานแต่เขาบริสุทธิ์นี้นะ น่าจะเปลี่ยนเป็นไปช่วยเขาแก้พยานหลักฐานที่มันมัดตัวเขาดีกว่าครับ ช่วยเขาตอบเถอะครับว่า ทำไมสัญญาณมือถือของโจรจึงมาเปิดได้จังหวะพอดีกับที่อากงไม่ใช้สัญญาณจากซิมที่ใช้อยู่ปกติ และเกิดเหตุซ้ำซากเช่นนี้ตลอดโดยเฉพาะเวลามีการส่งเอสเอมเอสหมิ่น, ทำไมการเอสเอมเอสจึงมาจากพื้นที่ที่อากงอยู่ทั้ง 4 ครั้ง เพราะหากมีการปลอมemi จริง คนปลอมก็น่าจะอยู่ที่อื่น จะมาพ้องมาอยู่ที่เดียวกันมันเป็นการเผอิญมากไปแอย่างน่าเกลียด

หากอยากจะช่วยอากง กรุณาอย่าสมมุติอ้างเอาในสิ่งที่มันไม่เกิดขึ้นจริง ในชีวิตปกติของมนุษย์เราบนโลกใบนี้เลยครับ

เรื่องที่ 3 ติงความเห็นคุณโบกกรักตรงที่ผิด

1.วิธีคิดของคุณโบกกรักผิดครับ ไม่ใช่ของผมผิด เพราะปกติการหาพยานอ้างอิงว่าตนเองหรือของของตนเองมิได้อยู่ในที่เกิดเหตุนั้น  เป็นพื้นฐานที่สุดของการแก้ข้อกล่าวหาที่ผู้ถูกกล่าวหาต้องตอบให้ได้ครับ เช่นมีการฆาตกรรม แล้วตำรวจพบข้าวของคุณในที่เกิดเหตุ และเกิดสงสัยว่าคุณอาจจะมีส่วน คุณต้องหาพยานอ้างอิงให้ได้ว่าในเวลาฆาตกรรมนั้น คุณอยู่ที่ใดใครเป็นพยาน หน้าที่ตรงนี้เป็นหน้าที่ของคุณจะต้องนำแจ้ง มิใช่หน้าที่ตำรวจครับ

กรณีคุณทวดก็เช่นกัน หากมีการกล่าวหาว่ารถคุณทวดถูกใช้กระทำผิด เป็นหน้าที่ของคุณทวดครับที่ต้องนำเสนอหลักฐานพยานของตนว่า รถตนนั้นไม่ได้อยู่ในที่เกิด แต่ไปอยู่ตรงนั้นตรงนี้ไปตามข้อเท็จจริงครับ ในภาษาอังกฤษเขาเรียกพื้นฐานการหาพยานอ้างอิงในลักษณะนี้เพื่อให้ตนพ้นผิดว่าตนหรือข้างของของตนไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุว่า Alibi ครับ กรุณาแก้ไขความเข้าใจให้ถูก

2. คุณโพสต์ว่า “จะโชว์พาวเวอร์ว่าคุณคืออัจฉริยะไปเสียทุกเรื่อง เป็นสัตตบุรุษผู้ไม่เคยทำ หรือ คิดอะไรผิด ทั้ง จารีต ประเพณี ศีลธรรม และ กฎหมาย”

ผมก็เห็นว่าคุณคิดผิดอีกนั้นแหละ หน้าที่ผมผมไม่ได้ต้องการโชว์พาวเวอร์อย่างใครในห้องนี้แม้แต่น้อย  หน้าที่ผมที่ผมยึดถือคือ การนำเสนอข้อมูลที่ผมเห็นแตกต่าง โดยทำการสืบค้นมาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนการให้ความเห็น เพื่อประโยชน์แก่สมาชิก ก็เท่านั้น เป็นการนำเสนอความจริงอีกด้านที่พวกคุณไม่ยอมมองหรือไม่กล่ามองให้ดีที่สุด  การทำเช่นนี้หากจะนับเป็นความผิด ก็คงแล้วแต่วิจารณญาณของสมาชิกครับ แต่ผมมิเคยได้โอ้อวดตนเองว่าเก่งอย่างโน้นอย่างนี้นะครับ มีแต่พวกคุณเองนั้นแหละ มายกอย่างนั้นอย่างนี้กับผมเป็นประจำ แทนที่จะถกที่สาระ

 


จากคุณ : thyrocyte
เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 14:28:37 A:124.121.152.235 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com