เห็นข่าวสนธิ บุณยรัตกลิน
ผู้ซึ่งเป็น 1 ในต้นธารของความขัดแย้งทางการเมือง
มานั่งทำหน้าที่ "ประธาน คกก.วิสามัญเพื่อความปรองดองฯ"
ผมโคดอยากจะอ๊วกเลยขอรับ !!!!
คนที่ไม่เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย
เอารถถัง เอาเอ็ม16 ออกมายึดอำนาจ
แล้วฉีกรัฐธรรมนูญที่มาจากการร่างของ สสร.ทิ้ง
ซึ่งทำให้ตามมาด้วยความวุ่นวายร้อยแปดในทางการเมือง
แต่กลับทะลึ่งมาทำหน้าที่หาทางให้คนในชาติปรองดองกัน...
โถ....เวรกรรม....
"ปรองดอง" มันฟังดูสวยหรูครับ
แต่หาได้มีจริงในสังคมไทยแต่อย่างใด....
ยกเว้นแต่เราจะดัดจริต
และนึกถึงมันในเชิงอุดมคติครับ
หากจะมองย้อนไปตั้งแต่ 19 กย.49
ที่นายสนธิ...ทหารนอกแถวเอารถถังออกมายึดอำนาจ
และฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งไปโดยไม่นึกถึง "เสียง" ที่ออกไปเลือกตั้งแล้ว
ถ้ายังจำกันได้
มีคนจำนวนหนึ่งที่ "สะใจ"
และออกมาแสดงความดีใจกัน
บางคนถึงขนาดเอาดอกไม้ไปมอบให้ทหารเลยก็มี
คราวนั้นมีคน "สมน้ำหน้า" แม้วมันอย่างโจ่งแจ้ง
พอมีการเลือกตั้ง
และสมัครนำพลังประชาชนกวาดมา 233 เสียง
ก่อนที่จะตกเก้าอี้เพราะข้อหา "ทำกับข้าวออกทีวี"
คราวนั้นก็มีคน "สะใจ" ที่สมัครเป็นเทวดาตกสวรรค์
แม้จนกระทั่งสมัครป่วยเจียนตาย
จนต้องถ่อสังขารไปรักษามะเร็งที่อเมริกา
ก็ยังมีสีเสื้อบางสีไปเขียนป้ายด่าสมัครที่สนามบิน
สมกับวาทกรรม "ปรองดอง" ซะจริงๆ
พอมาถึงสมชาย
ที่ตกเก้าอี้จากตุลาการภิวัฒน์
ก็มีแต่คนซ้ำเติมพี่แก เพราะหมั่นใส้ที่เป็นน้องเขยแม้ว
และเมื่อครั้งอภิสิทธิ์ก้าวขึ้นเป็นนายกฯ
ก็เกิดการ "ล้างบาง" ในทุกกระทรวง ทบวง กรม
มีการแต่งตั้งโยกย้ายคนของตัวเองมาอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญๆ
อันนี้ผมไม่โทษอภิสิทธิ์หรอกครับ
เพราะใครเป็นใหญ่ก็ต้องทำแบบนี้ทั้งนั้น
ไม่งั้นเขาจะทำงานได้อย่างไรล่ะ...???
แต่พอกระแสลมเปลี่ยนทิศ
และยิ่งลักษณ์ได้เป็นนายกฯ
คราวนี้ก็มีเสียงเรียกร้องให้ปรองดอง
ไม่ให้มีการเช็คบิลแต่งตั้งโยกย้ายคนทำงานทันที
โดยไม่ได้นึกกันเลยว่า
ตอนที่มาร์คเป็นนายกฯหลังการตั้งรัฐบาลในค่ายทหารนั้น
มาร์คก็ย้าย ขรก.ที่ถูกมองว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามแบบล้างบาง
มีการจุดพลุเรื่องปรองดอง สมานฉันท์
ทั้งๆที่ในตอนที่มาร์คเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น
คกก.ชุด คณิต ณ นคร ก็เคยเสนอไปแล้ว
คกก.ชุด อานุนทน์ ปัณยารชุณ ก็เคยเสนอไปแล้ว
แต่เป็นการเสนอที่ไม่เคยได้รับการสนองจากรัฐบาลแมงสาปเลย
ตอนที่ตัวเองมีอำนาจ
ก็กระทืบฝ่ายตรงข้ามจนบอบช้ำ หน้าตาบวมปูด
แต่กลับกระทืบไป แล้วร้องหาความปรองดองไป
จะให้เขารักคุณได้ยังไงล่ะครับ
หากว่าคุณทั้งเตะ ทั้งต่อยเขาเละเทะขนาดนั้น
ทั้งการตั้งองค์กรอิสระ
เพื่อจะไล่เช็คบิลฝ่ายตรงข้าม
เช่น คตส. ที่จะว่าไปแล้วก็คลอดออกมาจาก "มดลูก" ของ คมช.นั่นแหละ
ทั้งการไล่จับคนเสื้อแดงแบบเหวี่ยงแห
ชนิดที่ผุ้ต้องหาบางคนเป็นผู้หญิงชาวบ้านธรรมดา
แต่กลับโดนข้อหาใช้อาวุธยิงใส่เฮลิคอปเตอร์...ขำยิ่งกว่าหม่ำ จ๊กม๊ก ซะอีก..ข้อหานี้
"ปรองดอง" มันเป็นวาทกรรมที่ไม่มีจริง
นับตั้งแต่วันที่ 19 กย.2549 แล้วครับ
ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามปัจจัยที่มีอยู่
และเป็นไปตามเหตุ ตามผล ตามการกระทำก่อนหน้าทั้งสิ้น !!!
แถมไอ้คนที่มาดูแลเรื่องการปรองดอง
ยังเคยเป็นหนึ่งในคนที่จุดชนวนความขัดแย้ง
และนิยมชมชอบในการใช้อาวุธเพื่อยึดอำนาจอีกต่างหาก
หากเราไม่ดัดจริต หรืออยู่ในอุดมคติกันจนเกินไป
ยอมรับกันเถอะครับว่าปรองดองมันเกิดขึ้นได้ยากจริงๆในบ้านเรา
ว่าแต่ว่า "บัง สามจิ๋ม" นี่แหละ
ก่อนอื่นช่วยไปหาทางให้บรรดาเมียๆของตัวเองปรองดองกันให้ได้ซะก่อนเถอะ
โถ.....บัง...!!!!
แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 54 21:49:58
แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 54 21:08:08