ตรวจการบ้านให้คะแนนกับผลงานองค์กรอิสระ ( แห่งประเทศสาระขัน ) ตอนที่ # 4 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

ตรวจสอบผลงานขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญฉบับหน้าแหลมฟันดำ  ตั้งแต่ตอนที่ 1 - ตอนที่ 3  จะเห็นทิศทางการสอดประสานการทำงานของทั้ง 3 องค์กรไปในทิศทางเดียวกันตามที่ผู้อำนวยการสร้างกำหนดทิศทางมา  ถ้าเป็นภาษากีฬาเซปัก-ตะกร้อเขาเรียก   เสิร์ฟเอง    ชงเอง   ตบเอง   แล้วกินเอง    เราจึงเห็นการสอดประสานของทั้งสามองค์กรอิสระที่ทำงานเข้าขากันเป็นอย่างดี   และยังมีอีกหนึ่งองค์กรอิสระที่คอยเก็บลูก  เคลียหน้าเสื่อ  ป้ดกวาด เช็ดล้าง ความสกปรกโสมให้กับพวกตัวเอง        แต่พยายามสาดสิ่งปฏิกูล เลอะเทอะเปอะเปื้อนให้กับฝ่ายตรงข้าม
นั้นก็คือ "  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติสาระขัน "   ที่สะท้อนความจริงที่ว่า  " ผลไม้ของต้นไม้พิษ "    
ถึงแม้วัตถุประสงค์สำคัญในการที่จะมีองค์กรอิสระที่จะเข้ามาดูแลเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศนี้ เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญซะเลิศหรู
แต่ ตัวบุคคลที่เข้ามาทำหน้าที่ในองค์กรนี้  มาจากการแต่งตั้งของใคร  แล้วควรจะสนองงานให้กับใคร  ก็เป็นที่รู้ๆกัน
ในที่สุด หางก็โผล่ ให้เห็น  เมื่อเกิดเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองเิกิดขึ้น ตั้งแต่ปี 50  -  51  -  52   -   53   เหมือนกับการเลือกปฏิบัติ  เลือกที่จะห่วงใยและเลือกที่จะคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแบบเป็นสองมาตรฐาน    ซึ่งเป็นผลงานที่เข้าเบ้าตาผู้อำนวยการสร้างไปเต็มๆอีกเช่นกันจากผลงานดังนี้

         ---   ออกแถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อการดำเนินการของคณะกรรมการมรดกโลก กรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร  
               เป็นแถลงการณ์ที่โกอินเตอร์ ส่งสำเนาไปถึงยูเนสโก  ในแถลงการณ์ฟังแล้วดูดีที่ชักแม่น้ำทั้งห้ามากล่าวอ้าง     แต่เบื้องลึกเบื้องหลังก็แค่ทำงานสอดประสานกับพวกขาประจำ รวมทั้งขาใหญ่แกนนำพันธมิตร  เพื่อคัดค้านและขัดแข้งขัดขา   ออกมาป่วน ก่อกระแสคลั่งชาติ   เพื่อหวังจะล้มรัฐบาลสมัคร  

        ---   ออก แถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เรื่อง ขอคัดค้านการบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพมหานคร ( กันยายน 51 )  
               เป็นความห่วงใยสถานการณ์ความรุนแรงและการละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร  

        ---   ประณามความรุนแรงในการสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 51
               ดูแลห่วงใยผู้ชุมนุมดังไข่ในหิน  ห้ามรัฐบาลเเตะต้อง  ผู้ชุมนุมจะขนระเบิด ซุกระเบิดมาระเบิดแล้วตายเองก็ถือว่าเป็นการละเมิสิทธิมนุษยชน    การใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุมก็ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อผู้ชุมนุมอย่างร้ายแรง

        ---   แถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เรื่อง ขอให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบและยุติการใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมประท้วง เมื่อ 7 ตุลาคม 51

        ---   แถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สรุปเรื่อง ความรุนแรงสูญเสียจากกรณีการสลายการชุมนุม วันที่  7 ตุลาคม 51
               สรุปบทท้ายแถลงการณ์ก็คือ นำตัวเจ้าหน้าที่รัฐสู่ขบวนการสอบสวนหาความผิด ส่งให้คณะกรรมการปปช. รับลูกชงเรื่อง เพื่อเอาผิดทางกฏหมาย

          การทำงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในบริบทที่ มี รัฐบาลมาจากพรรคพลังประชาชน  ดูเหมือนว่าคณะกรรมการกสม. เลือกที่จะปกป้องผู้ชุมนุม  ปกป้องสิทธิการชุมนุม ถึงแม้นความรุนแรงเกิดจากการกระทำของผู้ชุมนุมเอง แต่คณะกรรมการ กสม. ยังพยายามยัดเยียดให้รัฐต้องรับผิดชอบทุกๆกรณี

          แต่ตรงกันข้าม เมื่อรัฐบาลมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นฝ่ายที่ผู้อำนวยการสร้างสนับสนุน  และถือเป็นพวกเดียวกันกับคณะกรรมการกสม.  เพราะ มีผู้อำนวยการสร้างคนเดียวกัน       เมื่อมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อผู้ชุมนุม  รัฐใช้กำลังทหารและอาวุธสงครามร้ายแรงเข้าสลายการชุมนุมทางการเมืองจนมีประชาชนผู้บริสุทธิบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก   นับตั้งแต่เหตุการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เมษายน 53  ต่อเนื่องจนถึง การสลายการชุมนุมวันที่ 19 พฤษภาคม 53   การออกแถลงกาณ์ของคณะกรรมการสิทธิมนุษชน จะไปทางการตำหนิการกระทำของผู้ชุมนุม  แต่ไม่เคยท้วงติงหรือประณามการใช้ความรุนแรงของรัฐต่อประชาชนผู้ชุมนุม  

           การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงกลางเมืองหลวง   นักสิทธิมนุษยชนทั่วโลก เขาเห็นเขาท้วงติง เขาประณาม แต่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งประเทศไทยกลับเพิกเฉย ไม่ดู  ไม่รู้  ไม่เห็น    
           
           สรุปผลงานการให้คะแนนการทำงานที่ผ่านมาในสายตาของผู้อำนวยการสร้าง ต้องให้คะแนนสอบผ่าน ทำงานได้ประทับใจ  ตรงตามเป้าไม่เสียแรงที่แต่งตั้งมา

           แต่ในสายตาของนักสิทธิมนุุษยชนจากทั่วโลก ก็ต้องบอกว่า คณะกรรมการชุดนี้สุดห่วยไม่สมควรที่จะเข้ามาปนเปื้อนรวมกลุ่มอยู่ในวงการสิทธิมนุษยชนของโลกใบนี้
           และในสายตาชาวไทย  เห็นว่าถ้าคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนห่วยๆเป็นแบบนี้   เสียดายเงินเดือนที่เป็นภาษีประชาชน เอาไปซื้อหญ้าเลี้ยง ค าวย จะได้ประโยชน์กว่า .........


                 <<<<<<<<<<<<<   จบ    >>>>>>>>>>>>>>>

จากคุณ	: ไกร เมืองแคน
เขียนเมื่อ	: 22 ธ.ค. 54 09:28:44 A:125.26.87.220 X: