 |
ตอนจบของตำนานพรรคเก่าๆ{แตกประเด็นจาก P11468877}
|
 |
ก่อนอื่นต้องขอโทษที่มาต่อตอนจบช้าไปหลายวัน เนื่องจากมีปัญหาเรื่องคอมพ์ฯครับ วันนี้ได้คอมพ์ใหม่มาและ Login ได้แล้วเลยมาต่อบทความของท่านมหาชำร่วยกันต่อ
จากตอนที่ 1
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P11465908/P11465908.html
ตอนที่ 2
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P11468877/P11468877.html
มาถึงตอนจบ
... ผมเริ่มเชื่อข่าวลือแล้วว่า เทพยดาฟ้าดินไม่เคยทอดทิ้งร่างทรงชั้นดีอย่างประชาธิปัตย์ ...
จริง ๆ แล้วยังมีเรื่องราวปริศนาอีกมากมายที่หาตัวผู้กระทำความผิดไม่ได้ ฟังผ่าน ๆ แล้ว เหมือนจะคล้ายสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้ายังไงไม่รู้ ผมจะยกตัวอย่างเฉพาะสมัยที่นายชวน แกเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีให้ดูกันก่อน ซึ่งผลงานการรวบรวมนี้เป็นเครดิต ของ "คุณหนุ่มฝั่งธน ฯ" ครับ ซึ่งต้องขอขอบคุณเป็นอย่างมาก
1.มีการรับสินบนตัดไม้สักจากป่าสาละวินเข้าไปให้นายกรัฐมนตรีเพื่อบริจาคให้ กองทุนไทยช่วยไทย เมื่อ กุมภาพันธ์ 2541 แต่รัฐบาลไม่สามารถสืบค้นและจับกุมผู้บงการตัดไม้ป่าสาละวินที่แท้จริงได้
2. เตรียมการฮั้วการประมูลของเอกชน 8 รายโครงการสื่อสัญญาณความเร็วสูงหรือ SDH มูลค่า หมื่นล้านบาทขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่ นายสุเทพ นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการฯ แต่ถูกเปิดโปง จึงระงับไว้ก่อน แต่ต่อมาใน 9 พฤศจิกายน 2543 ก่อนที่ นายกฯชวนจะประกาศยุบสภาเพียง 5 ชั่วโมง องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยในยุคที่ สุเทพ เทือกสุบรรณเป็น รมว.คมนาคม ได้เปิดไฟเขียวให้ สมบัติ อุทัยสาง ประธานคณะกรรมการ ทศท. และสุธรรม มลิลา ผอ.ทศท. ทายาท สุเทพ เทือกสุบรรณ เซ็นสัญญาพร้อมจัดหา และติดตั้งอุปกรณ์ โครงการขยายโครงการข่ายสัญญาณความเร็วสูงทั่วประเทศ (เอสดีเอช.หรือที่แปลงโฉมเป็น TNEP. นั่นเอง) มูลค่าถึง 7,500 ล้านบาท
3. กันยายน 2541 มีการขุดคุ้ยให้สาธารณชนรับรู้ถึงความผิดปกติของโครงการผักสวนครัวรั้วกินได้ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของ วิรัช รัตนเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จากพรรค ชาติไทย ที่นำเงินงบประมาณ 500 ล้านบาทมาจัดซื้อเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัว เช่น มะเขือเปราะ พริกขี้หนู บวบ เป็นต้น เพื่อนำไปให้ชาวบ้านปลูกไว้กินเอง โครงการนี้ถูกตรวจสอบพบว่าใช้วิธีพิเศษ เมื่อถูกเปิดโปงก็ทำให้ วิรัช รัตนเศรษฐ์ ลาออกจากเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยทั้งน้ำตา และถึงวันนี้ยังไม่สามารถ หาผู้ทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย และไม่ได้รับการเอาใจใส่ติดตามจากผู้นำรัฐบาลแม้แต่น้อย
4. พฤศจิการยน 2541 โครงการของงบประมาณจัดซื้อยาให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศวงเงิน 1,400 ล้าน โดยการอนุมัติ รักเกียรติ สุขธนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พรรคกิจสังคม ถูกเปิดโปงออกมา โดยที่นายกรัฐมนตรีชวน หลีกภัย ผู้ซื่อสัตย์ออกมาปกป้องอย่างออกหน้าออกตา ข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฎ ทั้งราคาในการจัดซื้อยาเวชภัณฑ์ที่แพงกว่าปกติ และผลิตภัณฑ์บางชนิดที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐานกดดัน ให้ รักเกียรติ สุขธนะ ต้องยอมลาออกจากเก้าอี้รัฐมนตรีไปอีกคนอย่างไม่ค่อยเต็มอกเต็มใจนัก
5. กลางปี 2542 มีการโกงการเลือกตั้งสมาชิกเทศบาลนคร จังหวัดสมุทรปราการ ครั้งมโหฬารถึงขั้นต้อง ให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่ โดยหัวหน้าผู้สมัครทีมหนึ่งซึ่งปํนลูกชายของ นายวัฒนา อัศวเหม รัฐมนตรีช่วย กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้มีบุญคุณต่อพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สามารถจัดตั้ง รัฐบาลชวน 2 เป็นผลสำเร็จ
6.. พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทย ถูกคณะกรรกมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ กรณีจงใจแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่เป็นเท็จ ไม่สามารถชี้แจงที่มาของเงิน 45 ล้านบาท เพราะ ไม่มีที่มาที่ไปของเงินชัดเจน ก็สะท้อนถึงการทุจริตคอรัปชันที่กลาดเกลื่อนในรัฐบาลชวน 2 ได้อย่าง แจ่มชัด
7. กรณีของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ยังมีเรื่องคฤหาสน์ 3 หลังในพื้นที่ป่าเมืองกาญจนบุรี เหนือเขื่อน ศรีนครินทร์ ที่กรมป่าไม่ตรวจสอบพบว่าบุรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเป็นการจับจองที่ดิน สาธารณะโดยมิชอบ ที่เกี่ยวโยงกับ ประหยัด เวสสบุตร ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี และ ดิเรก อุทัยผล อดีตผู้ว่าราชการกาญจนบุรี ซึ่งล้วนเป็นคนไกล้ชิดของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ กระทั่งถึงวันนี้ก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปนำผู้กระทำ ผิดกฎหมายมาลงโทษได้
8. กรณีซื้อขายตำแหน่งสำนักงานรพช. ที่ถูกเปิดโปงในเดือนกันยายน 2541 เริ่มต้นจากการจับกุม น.อ.ธาตรา ธารบุญ จากนั้นขยายผลสู่การจับกุม จ.ส.ต.สุวิทย์ มลธุรัช คนขับรถของเสธ.หนั่น และ สันติ เกรียงไกรสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เพราะผลตรวจสอบพบว่ามีการอ้างชื่อ ฉวีวรรณ ขจรประศาสน์ ภรรยา พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เข้าไปเกี่ยวข้อง
9. กรณีผืนป่าท่าชนะ จังหวัดสุราษฏร์ธานี พบว่าป่าได้ถูกทำลายไป422 ไร่ ต้นไม้ถูกตัดโค่น 1,293 ต้น เมื่อเดือนมีนาคม 2543 จนข้าราชการกรมป่าไม้ด้วยกันทนไม่ไหว พยายามนำข้อเท็จจริงของการทำลายป่า ครั้งนี้ออกมาเปิดเผย เรื่องจริงร้อนถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่เพิ่งรอดจากการไม่ถูกสั่งฟ้องในความผิดฐาน ไม่สั่งเพิกถอนสัมปทานพื้นที่ ป่าสงวนป่าท่าชนะ และเปลี่ยนพื้นที่สัมปทานโดยไม่ได้นำเสนอรับอนุมัติจาก ครม. ซึ่งพื้นที่เปลี่ยนแปลงเกิน 2,000 ไร่ กลุ่มผู้ที่ลักลอบตัดไม้ครั้งนี้เป็นกลุ่มนายทุนท้องถิ่นที่มีสายสัมพันธ์ ทางผลประโยชน์กับแกนนำ ปชป. มีการวิ่งเต้นจนอัยการสั่งไม่ฟ้อง
ไล่มาเรื่อย ๆ จวบจนปัจจุบัน ขนาดรับเงินที่พ่อค้ามันลงขันมาให้ตั้ง 258 ล้าน ศาลยังเมตตาไม่ แม้จะวินิจฉัยในประเด็นพยานและหลักฐานเลย กลับตัดบทล้มคดีมันซะใครจะทำไม เพราะพารานี้ กูย่อมใหญ่กว่าใครทั้งปวง คำวินิจฉัยก็ดันทักท้วงไม่ได้ เหมือนผู้ใหญ่ถือหางสนับสนุนให้เด็กออกไป ทำสิ่งเลว ๆ นอกบ้านจนคนเขาเอือมระอากันไปทั้งบาง หากรัฐบาลทักษิณชั่วช้าจริง ๆ อย่างที่เขาว่า ผมว่าไอ้พรรคบ้านี่เหนือระดับกว่าเป็นร้อยเท่า และเขารักษาความเคลือบแคลงมาได้อย่างสม่ำเสมอ และนานแสนนานถึงกว่าครึ่งศตวรรษ เรียกว่าเป็นตำนานมืดก็คงจะไม่เกินไป
... ขอให้รอดไปให้ได้ตลอดเถอะ วันไหนเขาทิ้งละก็ เคลียร์ไม่ไหวเชียว ...
จากคุณ |
:
โฟโต้แมน007
|
เขียนเมื่อ |
:
24 ธ.ค. 54 07:42:43
A:171.4.129.199 X:
|
|
|
|  |