จากกระทู้ต้นเรื่องที่ P11504810 ที่มีการตั้งกระทู้พาดพิงที่กระทู้ P11505312 แต่เมื่อเข้าไปอ่านตรวจสอบแล้ว พบว่ามีการให้ความเห็นที่ผิดพลาดไว้หลายประการ จึงต้องขอชี้ไว้ดังนี้
ประการที่ 1 มีการโต้แย้งด้วยการอ้างว่า แค่เก้าสิบกว่าศพนี่ มันก็ทำลายสถิติแล้ว โดยไม่ดูบริบทของกระทู้เดิมที่ โดยกระทู้เดิมเป็นการให้ความเห็นแย้งค้านต่อความเห็นนปช.ที่มีการกล่าวหาว่ามีการสั่งฆ่า
เพราะหากมีการสั่งฆ่าดังที่นปช.อ้างจริง จำนวนผู้เสียชีวิตจะต้องสูงมาก อาจะมากเท่ากับยอดผู้เสียชีวิตจากการใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมในเหตุจลาจลในประเทศอื่นที่ไม่กลัวยอดจำนวนผู้เสียชีวิตหรือสนใจความเสียหายที่จะเกิด เช่น ในเขตปกครองตนเองซินเจียง ทางตะวันตกของประเทศจีน ที่มีผู้เสียชิวิตจากการสลายการชุมนุม184 คน หรือ จากเหตุการณ์เทียนอันเหมิน มีผู้เสียชีวิตประมาณสองพันห้าร้อยคน
ในบริบทของการละเว้นปฏิบัติหน้าที่อันที่ ก็สามารถเทียบเคียงกับกรณีตากใบ ในสมัยรัฐบาลทักษิณ ที่เสมือนมีการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ของผู้นำประเทศในเวลานั้น จนทำให้มีการเคลื่อนย้านผู้ชุมนุมอย่างไม่เหมาะสม จนมีผู้ชุมนุมที่ต้องมาเสียชีวิตในวันเดียว ถึง 85 คนในวันเดียว ทั้งๆที่จำนวนผู้ชุมุนมไม่ได้มากมายแค่หลักร้อย หากกรณีการชุมนุมต่อเนื่องช่วงเดือนพฤษภาคม-เมษายน 2553 ยาวนานร่วม 40-50วันมีผุ้ร่วมชุมนุมเป็นหมื่นคน หากมีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาล ความเสียหายจะมิมากกว่ากรณีตากใบหลายสิบเท่า
ประการที่ 2 ความเกี่ยวข้องระหว่างความรับผิดทางอาญา กับการกระทำของบุคคลอื่น โดยมีการโพสต์ในทำนองว่าทำไมต้องรู้ว่าทหารคนไหนยิง
ตามหลักกฎหมายอาญานั้น บุคคลจะไม่ต้องรับผิดทางอาญาในการกระทำของบุคคลอื่น เว้นเสียแต่จะพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้สั่งการ บงการให้มีการกระทำเช่นที่ว่านั้น ดังนั้น กรณีเหตุการณ์พฤษภาคม 2553 นี้ หากจะต้องมีผู้รับผิดทางอาญา ไม่ว่าจะความผิดฐานฆ่าผู้อื่น หรือความผิดฐาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบนั้น จะต้องมีหลักฐานทางคดีและรู้ให้ได้เสียก่อนว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำให้บุคคลอื่นเสียชีวิต นันคือหากมีทหารยิง ต้องรู้ว่าทหารคนนั้นคือใคร การกระทำของบุคคลนั้นถูกสั่งการโดยผู้ใด หรือการกระทำของบุคคลนั้นจะไม่เกิดขึ้น หากผู้ถูกกล่าวหามีการปฏิบัติเช่นไร
หากยังจะหาแม้แต่ตัวของผู้กระทำความผิดในเบื้องต้น(อันเป็นเหตุให้คนเสียชีวิต)นั้นคือหาผู้ที่ทำร้ายคนจนมีการเสียชีวิต หรือทหารที่มีการกล่าวอ้างมายืนยันไม่ได้ ก็ไม่อาจจะไปให้ผู้อื่นเขารับผิดในความผิดอาญาใดๆได้ และไม่เคยมีคดีใดหรือสำนวนใด ที่อัยการจะรับฟ้องให้ โดยที่ยังไม่รู้ตัวคนฆ่า หรือศาลจะสั่งลงโทษผู้อื่นใดได้ โดยไม่รู้ตัวคนกระทำความผิดมูลฐานในที่นี้คือการฆ่าเสีย และความสัมพันธ์ระหว่างคนที่ฆ่ากับคนที่ถูกกล่าวหา เช่นกรณีนี้คือมาร์คและสุเทพ
ประการที่ 3 คำกล่าวอ้างว่า ใครฆ่าใคร ใครยิงใคร คนรับผิดชอบก็หนีไม่พ้น 157 ก็คือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นคำกล่าวอ้างแบบชาวบ้านทั่วไป ที่ไม่มีความรู้
เพราะ หลักกฎหมายมีอยู่ไว้ว่า บุคคลจะไม่ต้องรับผิดทางอาญาในการกระทำผิดของบุคคลอื่น หากไม่ใช่ผู้ที่เกี่ยวข้องสั่งการ บงการ หรือมีส่วนที่จะทำให้เขากระทำหรือไม่กระทำความผิดนั้น ใครฆ่า ใครยิง จึงเป็นสิ่งที่ต้องรู้ในคดี มิใช่จะมาเหมารวมให้ผู้ใดรับผิดชอบหากจะเอาผิดทางอาญาเอาลอยๆได้
กรณีเช่นนี้ หากไม่รู้ว่าใครฆ่า ใครยิงใคร ย่อมไม่สามารถเอาผิดทางอาญาแก่ผู้ใดได้แม้แต่น้อย ความผิดอย่างมากสุดที่ผู้เกี่ยวข้องต้องรับก็คือความรับผิดทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นสภาในสมัยนั้นอาจจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ(ซึ่งก็ไม่มีการเปิดอภิปรายในเรื่องนี้) หรือ การที่ประชาชนปฏิเสธไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นผู้แทนแม้แต่สักคนเดียว เพราะไปสังหารผู้บริสุทธิ์(แต่ก็ยังมีคนเลือกประชาธิปัตย์ถึง 11 ล้านเสียง มีสส.มากเป็นอันดับสอง)

ดังนั้น การอ้างว่าเพราะมีคนเสียชีวิตจากการชุมนุมแล้วจะนำมาฟ้องร้องกัน โดยไม่รู้ในข้อเท็จจริงแห่งเหตุการณ์ว่าใครเป็นคนทำอะไร เชื่อมโยงสั่งการกันอย่างไร เป็นการใช้ความเชื่อมโยงที่เลื่อนลอยที่ไม่มีในการพิจารณาคดีอาญาเพื่อเอาผิดบุคคลทางอาญา
และหากยึดเอาแต่หลักฐานความเชื่อมโยงอันเลือนลอยแบบที่สมาชิกท่านนี้ยึดถือ ก็สามารถนำไปฟ้องได้เมื่อมี การที่พบศพคนจมน้ำตายลอยมา ก็ไปฟ้องว่าคนจมน้ำตายคนนี้เกิดจากการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯยิ่งลักษณ์จนทำให้มีผู้เสียชีวิต หรือ การฟ้องร้องทักษิณ ที่ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ จนเป็นเหตุให้ มีการเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมตากใบอย่างไม่เหมาะสมและเสียชีวิตในเวลาต่อมาแปดสิบกว่าคน
จึงเป็นความผิดพลาดในการให้ความเห็นของสมาชิกท่านนี้ เพราะพยายามให้ความเห็นเพียงเพื่อจะแย้งกระทู้ P11504810
