เรื่องเล่าผมเยอะครับ ในการอ่านเกมการเมืองมันต้องใช้ เซ๊นต์อยู่พอสมควร หรือถ้ามองอย่างง่ายๆ ก็คือ ลากเส้น ความสัมพันธ์ของแต่ละองกร แต่ละกลุ่มคนก็ได้ แต่ทั้งนี้ เพื่อให้ได้ผลที่ใกล้เคียงความจริงมากที่สุด ต้องวาดจาก " โลกาภิวัตน์ " ด้วย ( รอบโลก )
หลักคิดคือ ต้องมองออกจากกรอบนอกให้นอกสุด มองให้เห็นกลไกของเกมการเมืองของโลก หรือของแต่ละจักรวาล ก็ได้ ต้องจินตนาการ ความเป็น อนันตกาล ของจักรวาลให้ออกเสียก่อน แล้วจากจิตใจที่ไม่ถูกพันธนาการกับหลักคิดใดๆ จะมองเห็นทุกๆอย่าง เป็น 4 มิติ ( หากเห็นเพียง 3 มิติ แสดงว่า ยังมีแนวคิด ยังมีความเชื่อ หรือการถูกชี้นำอยู่บ้าง ) การมองเห็นกลไกต่างๆ โดยที่ไม่ต้องรับรู้ข้อเท็จจริงใดๆเลย เป็นการมองจากโครงสร้าง ของของแต่ละอย่าง การให้ค่าอย่างถูกต้อง ด้วย มโนทัศน์ชั้นสูง ( Concept ) เป็นการตัดรายระเอียดทุกอย่าง ของ คน สัตว์ สิ่งของ ลงไป เพื่อการให้ค่าแม่นยำ เช่น นักการเมือง = กลุ่มคนที่หวังเพียงผลประโยชน์ทางอำนาจและอิทธิพล , ม๊อปกลุ่มคนที่ถูกชี้นำให้เคลื่อนไหวทางการเมือง ( ไม่ลงรายละเอียดว่า ถูกต้องหรือไม่ )
หากเราให้ค่าเรื่องราวต่างๆอย่างถูกต้อง เราไม่จำเป็นต้องรู้ถึงความจริงเบื่องหลัง ของเรื่องราวใดๆเลย เราไม่จำเป็นต้องอ่านข่าว ตามข่าวอะไรทั้งสิ้น เราก็สามารถวิเคราะห์การเมืองได้อย่างแม่นยำ และเป็นการคาดคเนไปถึงอนาคต อย่างใกล้เคียงที่สุดอีกด้วย
ภาษาทางยุทธศาสตร์ เรียกว่า การวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน ก่อนทำการรบ หรือตัดสินใจในการทำธุรกิจ หรือทางสงคราม เป็นหลักพิชัยยุทธซุนวู ด้วย
ปัญหาที่คนเสื้อแดง คืออ่านการเมืองไม่ขาด และยึดติดกับความหวัง ของกลุ่มคนมากเกินไป คิดตามๆกันในกลุ่มลัทธิ จึงมีแต่เรื่องเดิมๆ ไม่มีเรื่องใหม่ และที่สำคัญ " ไม่มีนวัตกรรม ในการสร้างสรรค์สังคม " หนักๆเข้าจึงกลายเป็นแค่ ลัทธิที่เปิดปราศรัย เปิดโต๊ะเสวนา ท๊อคโชว์ เปิดกล่องรับเงินบริจาคไปเพียงเท่านั้น
ความลับ ของการวิเคราะห์อย่างแม่นยำ หรือบางคนเรียกว่า ปฎิพาน , ไหวพริบ เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดจากการเรียนรู้วิชาการต่างๆ หรือการท่องจำตรรกะต่างๆ แต่มันเป็นความรู้สึกที่มาจากจิตใต้สำนึก โดยอัตโนมัติ หรือเรียกว่า สมองเห็นเพียงภาพ สมองจดจำทุกอย่างเป็นภาพ ( สมองซีกขวา ) จึงทำให้สมองประมวลผล แล้วสั่งไปที่การทำงานของร่างกาย เช่น คนขับมอเตอร์ไซค์ สามารถล้มอย่างมีบาดแผลน้อยที่สุด หรือสามารถสลัดตัวออกจากมอเตอร์ไซค์ ก่อนที่จะเข้าปะทะกับรถคันอื่นอย่างจัง มันเป็นการประมวลผลที่รวดเร็ว ทั้งๆที่ เวลาที่รถจะชนกัน สมองมีเวลาคิดเพียงแค่เศษเสี้ยววินาที แต่การมองเห็นทุกอย่างเป็นภาพ มันเป็นการประมวลผลที่ไวมาก ผิดกับการทำงานของสมองซีกซ้าย ที่จะคิดอะไรซับซ้อนตามตรรกะ
เป็นวิทยาทานสำหรับชาวบอร์ด ที่อยากฝึกการคิด หรือเปิดมุมมองใหม่ๆ เขียนไว้ในทัศนา ครับ
หากใครอยากเรียนรู้มากกว่านี้ อย่างจริงจัง แนะนำ ให้อ่านหนังสือของ นักสร้างแรงบันดาลใจ ที่มีชื่อเสียง เช่น บัณฑิต อึ้งรังษี ได้เขียนหนังสือสร้างแรงบันดาลใจ และเทคนิค การคิด ไว้หลายเล่ม เป็นซีรี่ และยังมีหนังสือที่น่าสนใจอีกหลายเล่มครับ
มองกรอบนอกสุด สุดขอบจักรวาล ท่านทำได้ วิทยาทานสำหรับชาวบอร์ดครับ
