ผมเลิกเขียนกระทู้มานานมากแล้วครับ
เป็นสมาชิกราชดำเนินมานาน แต่เลิกเขียนกระทู้ ขอเข้ามาอ่านเพียงอย่างเดียว เห็นคุน"คนพิจิตร"เข้ามาก็อดไม่ได้ เพราะสมัยหนึ่งเคยเขียน ตามน้ำกับท่านผู้นี้ มาหลายกระทู้
ที่เลิกเขียนนั้นไม่มีอะไรที่ไม่พอใจหรอกนะครับ แต่คิดว่า สู้ ความคิด ความอ่านของคนสมัยนี้ ไม่ได้แล้วครับ แต่ละท่าน ความคิดนั้น เฉียบ คม ความคมของคำพูดยิ่งกว่าใบมีดโกน ที่ผมโกนหนวดเสียอีก ผมเคยชอบคุณ"คนพิจิตร ลูกชาวนา คุณคนผ่านทาง" แต่เดี๊ยวนี้มาติด คารมของคุณ "ตระกองขวัญ คูญโบกกรัก คุณแมวน้ำสีคราม คุณสาวเหลือน้อย แมวน้ำสีคราม นายผอมจอมซ่า พี่ใหญ่ด้ามขวาน ฯลฯ หลายต่อหลายท่าน จำไม่หมด อีกฝ่ายหนึ่งก็ คุณคนชาย คุณม่วงคัน บุคคลหลายท่านนี้ เข้ามาสร้างสีสัน ให้กับเว็บนี้ มาก เห็นมีบางกระทู้บอกว่าอยู่มานานมากแล้ว ขอร้องให้เลิกทะเลาะกันเสียที โอ้ย....ท่าเลิกเถียงกัน เมื่อไรละก็ "ราชดำเนิน"ผมคิดว่า จะไม่มีใครเข้ามาอ่านกันมากขนาดนี้ครับ
ผมมันคนไม่มีเสื้อสี กับเขาหรอกครับ แต่ถ้าถามว่า "แล้วคุณยืนอยู่จุดไหน"ผมก็คงพูดจากหัวใจว่า "คุณทักษิณ"ครับ ช่วงแรกเมื่อคุณทักษิณลงมาเล่นการเมืองใหม่ๆ เข้ามาอยู่พรรคของ"เกรียนคางคก"(ช่วงนั้นชอบมากพรรคนี้ หลายอย่างที่ชอบ เป็นถึงนายพล แล้วลาออกมาเล่นการเมือง)ผมก็เลยเลือกคุณทักษิณ (บ้านก็อยู่ใกล้กันครับ ห่างกันประมาณ 500 เมตร ตามทางถนนในซอย แต่ถ้าเดินข้ามหลังคาบ้านคนไปก็ 300 เมตรเห็นจะได้) แต่หลังจากคุณทักษิณมาเป็นนายกฯ ผมก็ติดหนับ มากับคุณทักษิณมาตลอด หลายต่อหลายอย่างที่ผมชอบ ไม่ว่าครอบครัวของท่าน ภรรยา ลูกๆของท่าน ไม่เคยแสดงความยะโส ต่อคนเดินดิน กินข้าวแกงข้างถนน อย่างผมและคนรอบข้างเลย ถามว่ารู้ได้อย่างไร? ผมกับครอบครัวของท่าน เราไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งที่เดียวกัน และชอบไปเวลาก็ใกล้เคียงกัน คือประมาณ 3 โมงเช้า ผมออกไปข้างนอกบ้านเวลากลับ มักเข้าซอย กลับมาทางบ้านท่าน บางครั้งก็เจอลูกๆท่าน ขับรถแบบที่เขาตีก็อล์ป ขับจากบ้านของท่าน ไปบ้านจันทร์ส่องหล้า ผมก็ยิ้ม เด็กๆเขาก็ยิ้มรับ ภรรยาของท่านเดินไปเลือกตั้งก็แสดงความสุภาพ เดินตามหลังสามีตลอด ผมจึงเทใจให้กับครอบครัวนี้เสมอมา
ส่วนเรื่องว่าท่านโกง หรือ ไม่โกง ผมไม่ขอพูดครับ เรารู้ๆกันอยู่ เรื่องหุ้นก็ต้องไปด่าคนที่เซ็นอนุมัติ ให้การซื้อขายหุ้น ในตลาดหลักทรัพย์ไม่ต้องเสียภาษี ถึงจะถูกต้อง ที่ดินรัชดา ถึงจะผิด ก็ผิดแบบขำๆ เมียซื้อ ผัวเซ็นอนุมัติ ครับ มันยังมีคำว่า"ซื้อ" เขามารวมอยู่ด้วย ไม่ใช่ที่ดินแบบ สปก.นะครับ เอามันแบบฟรีๆ ผมจึงไม่สนในเรื่องเหล่านี้
เอาเป็นว่า ยุคของท่านนายกฯทักษิณ บ้านเมืองเรารุ่งเรือง นำหน้าย่านเอเซีย ก็เป็นสิ่งที่ผมภาคภูมิใจ ไปไหนมาไหนเจอคนต่างชาติ ผมเดินยืดได้ตลอด ใครถาม ผมก็พูดได้เต็มปาก เต็มคำ ว่า ผมเป็นคนไทย ผมรับตามตรงว่า ไหนสมัยเด็กๆผมเติบโตมาในยุคของท่าน สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เห็นการจับคนมายิ้งเป้าที่ท้องสนามหลวง เห็นมาหลายสมัย ไม่เห็นการเจริญก้าวหน้าเหมือนยุคของท่านทักษิณ ชินวัตร เห็นแต่ความร่ำรวยของผู้ที่ก้าวเข้ามา เป็นผู้นำประเทศ เห็นแต่ความยากจนของ ประชาชน ที่เป็นส่วนหนึ่งของประเทศ เป็นเช่นนั้นจริงๆ
จนกระทั่งผม ก้าวเข้ามามิสิทธิมีเสียง มีส่วนในการลงคะแนนเสียงเสียงเลือกตั้ง พ่อผมก็บอกให้ผมไปลงคะแนนเสียงให้กับคุณสมัคร สุนทรเวช ครับผมต้องฟังพ่อผมสั่งทุกครั้งว่า จะต้องไปลงคะแนนเสียงให้ใคร นั่นแสดงว่าคนที่ใหญ่ที่สุดในบ้าน คือ "พ่อของผมครับ"
ตราบมาจนทุกวันนี้ ผมก็สืบตำแหน่งแทนพ่อขอผม ทุกคนในครอบครัวผม ต้องฟังผมว่า จะต้องลงคะแนนให้ใครมันจึงกลาย เป็นประเพณี ของครอบครัวของผมไป
ที่ผมยกตัวอย่างมานี้ เพราะผมมีเพื่อนสนิทกันมาก ที่เรียนจบมาจากสถาบันเดียวกัน เป็นคน "ระนอง" มันกลับบ้านเพื่อไปเลือกตั้ง ผมถามว่า งวดนี้ลงคะแนนให้พรรคไหน มันตอบว่าผมต้องไปลงให้พรรค" ประชาธิปัตย์" มันบอกว่า มันเป็นประเพณีที่สืบถอดต่อกันมาของครอบครับของเขา วันที่ผมถาม มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ในวงการศึกษา นั่งอยู่ด้วยท่านก็เลยถามเพื่อนผมว่า ไม่รู้หรือว่า พรรคนี้ โกงกันเหลือเกิน เพื่อนรุ่นน้องมันก็ได้แต่เพียงยิ้มๆ แต่ไม่ตอบ หลังจากออกมาจากห้องแล้ว ผมก็ถามเพื่อนรุ่นน้องของผมว่า เมื่อกี้นี้เขาถาม ทำไม ไม่ตอบเล่า มันบอกว่า ผมรู้พี่(น้องคนนี้เป็นคนใจถึงครับ อาชีพที่มันทำคือ เป็นการ์ด ให้กับนักการเมืองของพรรคนี้) ผมนั่งไปในรถตู้เขาคุยกัน ผมรู้เรื่องนี้ดี แต่ผมบอกกับพี่ ไปแล้วว่า มันเป็นประเพณีของตระกูลผม ครับ ผมหลีกเลี่ยงไม่ได้
นี่คือบทเรียนหนึ่งในสังคม ของคนไทย ว่าทำไม คนเราจึงต้องมีแบ่งเขา แบ่งเรา ผมเองจึงชอบเข้ามาอ่าน ในห้องราชดำเนิน อ่านมันทุกเช้า ผมไม่อ่านหนังสือพิมพ์ ผมไม่ดูทีวี (ทุกช่อง)ตั้งแต่นายกฯทักษิณ ถูกยึดอำนาจ ข่าวทุกอย่างผมหาเอาในเว็บแต่เพียงอย่างเดียว ผมชอบที่นี่ครับ อ่านแล้วมัน มันกว่าในสมัยที่ผมเรียนอาชีวะ แล้วยกพวกตีกันเสียอีก......
ขอบ้างกับคำจำกัดว่า"ทักษิณ"นะครับ
