โธ่เอ๋ย thyrocyte ผู้ไร้ยางอาย ยอมทำทุกอย่่างแม้จะรู้ว่ามันไม่่ใช่ หรือเพราะรู้ไม่จริง (1){แตกประเด็นจาก P11517542}
|
 |
 thyrocyte คุณนี่มันเมพขิง ๆ เลยอ่ะ  มั่วเอาถ้วยจริง ๆ เลย thyrocyte นี่ เพียงเพื่อมุ่งหวังเอาชนะ ทำได้ทุกอย่าง มั่ว บิดเบือน โกหก ถามจริง ๆ เหอะ ไม่รู้สึกอายในการกระทำของตัวเองบ้างเหรอ ถึงขนาดลงทุนเป็นชั่วโมง ๆ เพื่อหาอะไร ๆ มาแปะแล้วชี้นำเพื่อเอาชนะให้ได้ รู้ไหมว่ามันผิด มั่ว และที่สำคัญ ยกมาแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ อย่างเดิม ขอซูฮกนะ ในความอุตสาหะ ก็กระทู้ที่แตกประเด็นมานี่มีการแก้ไขถึง 7-8 ครั้ง โอ้โห เอาจริง ๆ  แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 20:19:06 แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 20:16:44 แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 20:15:44 แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 19:40:29 แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 19:21:44 แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 18:57:50 แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 18:56:41 จากคุณ | : thyrocyte | เขียนเมื่อ | : 29 ธ.ค. 54 18:51:06 A:124.121.160.68 X: | ................... ก่อนอื่นอยากบอกว่า ประการแรก อย่าเอาเรื่องหมิ่นประมาททั่วไปมาเทียบเคียงกับเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มันเทียบเคียงกันไม่ได้ ทีหน้าทีหลังอย่าทำ ประกาองที่สอง อย่าอ้างเรื่องเจตนาอย่างมั่ว บิดเบือน ผิด โกหก เพราะมันเป็นอันตรายต่อสาธารณะ แค่คำว่า "กฎหมายหมิ่นไม่มีข้อยกเว้น" แค่นี้มันก็น่าจบแล้วนะ ไม่น่าจะมีอะไรต้องถกเถียงต่อแล้วนะ แต่เพราะ thyrocyte ไม่ยอมรับ คงเพราะกลัวเสียเชิงนักกฎหมายใหญ่ เลยต้องแถสุดชีวิต ประเด็นมันก็แค่ว่า หากการกระทำใด ๆ ที่เป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ ซึ่งเมื่อตอนกลางวัน คุณก็ได้ยกเรื่องนี้มาอ้างแบบผิด ๆ แบบมั่ว ๆ มาแล้วครั้งหนึ่งว่าอ้างเจตนาได้ โดยมั่วมาว่า ฎีกาที่ 2354/2531 ทรงเสื่อมเสียพระเกียรติยศชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง แม้การกระทำดังกล่าวของจำเลยจะไม่เกิดผลเพราะไม่มีใครเชื่อถือคำกล่าวนั้นก็ ตาม ก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จำเลยจะมีเจตนาหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นหรือไม่ จะถือตามความเข้าใจของจำเลยซึ่งเป็นผู้กล่าวเองมิได้ ต้องพิจารณาจากข้อความที่จำเลยกล่าวทั้งหมด การที่จำเลยกล่าวข้อความไปอย่างไร แล้วกลับมาแก้ว่าไม่มีเจตนาตามที่กล่าว ย่อมยากที่จะรับฟัง เห็นไหม เนื้อหาในฎีกาที่คุณมั่วยกมาอ้างแถเรื่องเจตนานี่บอกไว้ชัดเจนแล้วว่า เมื่อได้กระทำการผิดตามมาตรา 112 ไปแล้ว จะอ้างเรื่องเจตนาไม่ได้ แต่คุณก็ตะแบงแคงเรื่องไปว่า เห็นไหมอ้างเรื่องเจตนาได้ คือสักแต่ว่าอ้าง โดยไม่คำนึงถึงความหมายว่ามันต้องคือหมายถึงการอ้างเพื่อต่อสู้ในคดีได้ ศาลอาจวินิจฉัยยกฟ้องได้ว่าไม่เจตนา แต่นี่มันไม่ได้ เมื่อหมิ่นแล้ว จะอ้างเรื่องไม่เจตนาไม่ได้ ยกเว้นจะตีความเรื่องเจตนาตั้งแต่เริ่มแรกว่า การกระทำนั้นเข้าข่ายเจตนาหมายถึงสถาบันหรือไม่ แค่นี้ก็น่าเข้าใจแล้วนะ จบแล้วนะ แต่เพราะอะไรไม่รู้ จึงทำให้ตะแบงได้ถึงขนาดนี้ ยกเรื่องเจตนามามั่ว บิดเบือน โกหกเละเทะไปหมด ผมว่าจะหยุดแล้วนะ ตามคำแนะนำของเพื่อน ๆ สมาชิกหลายท่าน แต่พอเห็นคุณมาบิดเบือนเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนี่ ไม่ได้ ๆ เพราะถ้าผมหยุด อาจทำให้สาธารณะเห็นว่าผมผิด ยอมรับ โต้ไม่ได้ ผมแพ้ ซึ่งเรื่องอย่างนี้ไม่มีความหมายสำหรับคนหล่อ ๆ อย่างผมหรอก ขี้ผง แต่ผมเกรงว่าสาธารณะจะเข้าใจว่าผมผิด-คุณถูก เห็นว่าการกระทำของคุณน่ะถูกต้อง ซึ่งมันอันตรายอย่างยิ่ง เกิดนำไปพูดต่อ ไปทำต่อ ติดคุกหัวโตเลยเชียว อันตราย ๆ จึงต้องชี้แจงเพื่อให้สาธารณะเข้าใจไว้อีกสักนิด ........... จากกระทู้ที่แตกประเด็นมานี่ มี 4 เรื่องที่คุณยกมาแถ บิดเบือน โกหก ทุกครั้งที่มีการถกแย้ง สิ่งที่คุณทำเป็นปกติก็คือ แปะ แล้วชี้นำ บิดเบือน ข้อมูลที่นำมาแปะก็นำมาแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ หรือแค่บางส่วนเพื่อชี้นำเท่านั้น คุณทำแบบนี้เป็นประจำ บทบัญญัติข้อกฎหมายหรืออะไรที่คุณเอาแปะน่ะ มันมีอยู่จริง แต่สิ่งสำคัญคือ บ่อยเหลือเกินที่คุณเอามาแบบตัดต่อแล้วชี้นำแบบผิด ๆ มั่ว บิดเบือน โกหก คนไม่รู้ก็หลงเชื่อ หลงเชื่อเพราะเห็นบทบัญญัติ เห็นข้อความทางกฎหมายที่คุณเอามาแปะ เลยคล้อยตามคำชี้นำของคุณ แล้วนึกว่าคุณรู้จริง อันตรายจริง ๆ เลยคุณนี่ ข้อมูล 4 เรื่อง ที่คุณเอามาแปะ มีดังนี้ 1. คุณยกมาว่า ฎีกาที่ 861/2521 ที่จำเลยฎีกาอ้างว่าตามข้อเท็จจริงที่ศาลล่างทั้งสองฟังว่าในขณะที่นาย**** *****ประพันธ์และส่งบทความตามฟ้องให้ลงพิมพ์จำเลยไม่ได้สมคบร่วมรู้กับนายเสนีย์ สูงนารถ จำเลยจึงไม่มีเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 และตามพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2485 มาตรา 48 วรรคสอง ไม่มีบทลงโทษและไม่ได้บัญญัติอัตราโทษไว้แต่อย่างใด จะลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ไม่ได้ ..... 2. คุณยกมาว่า คดีอาญาหมายเลขดำที่ 26228/2528 ของศาลแขวงพระนครเหนือ คดีอาญาหมายเลขดำที่ 22128/2528 ของศาลแขวงพระนครใต้ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องมีความว่า ... พิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยไม่มีเจตนาหมิ่นประมาทดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ข้อความที่จำเลยกล่าวไม่เป็นการใส่ความและไม่อาจทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังได้ จึงไม่เข้าองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด
............ แล้วคุณก็ชี้นำอย่างมั่ว บิดเบือน โกหกว่า นั้นย่อมแสดงว่า ศาลพร้อมจะรับฟังการต่อสู้ของจำเลยในเรื่องเจตนา แต่ศาลจะเป็นผู้พิจารณาเองว่าจะเชื่อจำเลยหรือไม่ หากเจตนาไม่สามารถใช้ต่อสู้ในคดีหมิ่นสถาบันได้ ทำไมศาลชั้นต้นจึงนำมาใช้ตัดสินว่าจำเลยไม่มีความผิดจากการที่ขาดเจตนาได้ ดังนั้น มันไม่ใช่อย่างที่คุณมั่วไว้ในกระทู้ก่อนว่า เอาเรื่องเจตนามาต่อสู้ไม่ได้ เพราะหากเป็นอย่างนั้นจริงจำเลยก็ย่อมจะไม่ยกเรื่องนี้ขึ้นมาให้ปรากฏบันทึกในฏีกา ..... มั่วสิ้นดี บิดเบือน โกหกอย่างร้ายกาจ ประเด็นในข้อที่ 1 ที่คุณยกฎีกา 861/2521 มานั้น ก่อนอื่นขอให้ดูนี่สักนิด จากกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P11487239/P11487239.html คุณโพสต์ไว้ว่า (ไม่รู้โพสต์เองหรือไปตัดต่อมาจากไหนล่ะ ) ...ที่ผ่านมา การกระทำความผิดในมาตรา 112 แม้จะทำโดยการโฆษณา โดยการลงในอินเตอร์เน็ท หรือวิธีอื่นที่แพร่หลาย และมีผู้รับฟังข้อความหมิ่นมากกว่าการพูดบอกต่อหน้าคนคนเดียว ศาลก็ไม่อาจจะลงโทษให้หนักไปกว่าการพูดให้คนคนเดียวฟัง เพราะไม่มีกฎหมายอาญาที่บัญญัติตรงนี้ไว้ ไม่เหมือนกับกรณ๊หมิ่นบุคคลทั่วไป ที่กฎหมายอาญาได้บัญญัติลักษณะนั้นไว้ เว้นแต่จะเอากกหมายอื่นมาประกอบ เช่น กฏหมายเกี่ยวกับการกระทำผิดด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งก็ไม่ตรง ไม่เหมือนกับการที่มีบัญญัติด้วยกฏหมายอาญาเอง ดังจะเห็นได้จากคดีในอดีต ที่มีนักการเมืองปราศรัยต่อสาธารณชนมีข้อความหมิ่นสถาบันสูงสุด แต่ศาลก็ไม่สามารถลงโทษได้มากไปกว่ามาตรา 112 (ฎีกาที่ 2354/2531 ) การร้องตะโกนในที่สาธารณ เช่นโรงภาพยนตร์ (ฎีกาที่ 1294/2521) หรือการตีพิมพ์บทความในหนังสือพิมพ์ (ฎีกาที่ 861/2521 ) ศาลก็ไม่อาจจะลงโทษให้หนักไปกว่ามาตรา 112 เดิมได้.... นี่แปลว่าอะไร แปลว่า เป็นความผิดตามมาตรา 112 ใช่ไหม ฎีกา 861/2521 ที่คุณยกขึ้นอ้างในวันนั้นคือความผิดตามมาตรา 112 ใช่ไหม แล้วทำไมวันนี้ คุณถึงยกฎีกา 861/2521 มาบิดเบือน โกหกไปในทำนองว่าจำเลยไม่มีความผิดตามมาตรา 112 เพราะจำเลยไม่มีเจตนา หือออ...... ??? ผมคาดว่า ฎีกา 861/2521 ที่คุณยกมาอ้างนี่ คุณคงตัดต่อมาจาก myfirstinfo ซึ่งผมไม่ได้เป็นสมาชิก จึงคลิกเข้าไปเอาคำพิพากษาฎีกา 861 แบบเต็ม ๆ มาไม่ได้ หรือหากจะค้นจากที่อื่น ก็ขี้เกียจ แต่ประเด็นของมันคือ คำพิพากษาตามฎีกา 861/2521 นี่ เป็นคำพิพากษาฐานความผิดตามมาตรา 112 ซึ่งเกี่ยวโยงกับ พรบ.การพิมพ์ ซึ่งศาลเห็นว่าจำเลยผิดตาม 112 จริง แต่การลงโทษไม่ได้ลงโทษอย่างที่กฎหมายเปิดโอกาสให้จำคุกได้สูงสุด 15 ปี แต่ลงโทษเพียง 1 ปีเท่านั้น (http://www.siamintelligence.com/lese-majeste-an-identity-of-thai-democracy/) ที่สำคัญ ข้อความของคำพิพากษาฎีกา 861/2521 ที่คุณยกมาอ้างนี่ คุณยกมาไม่หมด ยกมาแค่คำต่อสู้จำเลยบางส่วนเท่านั้น โดยจบดื้อ ๆ ที่ข้อความว่า "จะลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ไม่ได้" เพื่อให้เข้าใจว่าจำเลยไม่มีความผิดตามมาตรา 112 เพราะไม่มีเจตนา บิดเบือน โกหก ไร้บางอายสิ้นดี เป็นคนหรือเปล่า ? ข้อที่ 2 คำพิพากษาที่คุณยกมานั้น คุณก็มั่วว่าศาลยกฟ้องเพราะจำเลยไม่มีเจตนากระทำการหมิ่นฯ (ไอ้นี่ก็ยกมาไม่หมดอีก ยกมาแค่บางช่วงที่ต้องการชี้นำเท่านั้น คุณทำแบบนี้ทุกครั้งเลยเชียว) ในข้อนี้ ขอยกไปรวมกับ ข้อ 3 เรื่องจตุพรที่คุณยกมาอ้างนะ ในกระทู้ตอนที่ (2) 
แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 54 00:37:24
จากคุณ |
:
ตระกองขวัญ
|
เขียนเมื่อ |
:
30 ธ.ค. 54 00:16:07
A:118.172.78.93 X:
|
|
|
|