"เหตุผล" ของการโอนหนี้และการเตรียมตัวกู้!!!

“เหตุผล” ของการโอนหนี้และการเตรียมตัวกู้...

ไม่ทราบว่าแบงค์ชาติจะออกมาโวยวายเรื่องการโอนหนี้
กองทุนฟื้นฟูไปถึงไหน เหตุผลก็ซ้ำๆ เดิมๆ เพราะเท่าที่
เห็นก็คืีอ แบงค์ชาติบอกว่าแบงค์ชาติไม่มีรายได้ ถ้าโอนหนี้
มาก็เท่ากับรัฐบาลบังคับให้แบงค์ชาติพิมพ์เงินออกมาใช้...

ผมก็ไม่ค่อยจะ เข้าใจแบงค์ชาติเท่าไหร่ เพราะพอรัฐบาลออกมา
เสนอแผนการชำระดอกเบี้ย ซึ่งสูงถึงปีละ 65,000 ล้านบาท
คือให้นำเอาเงินจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากมาจ่าย รวมกับ
การนำเอา “ดอกผล” ของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่ง  
ไม่ใช่!!! การเอาทองคำหรือเงินในคลังหลวงมาใช้ อย่างที่ศิษย์
หลวงตามหาาบัวเข้าใจ แบงค์ชาติก็ส่ายหัวอย่างเดียว...

ขนาดคุณจักกฤษฎิ์ พาราพันกุล ผู้อำนวยการสำนักบริหาร
หนี้สาธารณะ หรือ สบน. ยังแสดงความเชื่อมั่นในนโยบาย
ของรัฐบาล โดยคุณจักกฤษฎิ์กล่าวว่าหากพ.ร.ก. โอนหนี้
ผ่านครม. ในวันพรุ่งนี้ ก็คิดว่าภายใน 30 ปี ประเทศไทยจะ
สามารถจัดการหนี้กองทุนฟื้นฟูก้อนนี้ได้หมด โดยส่วนหนึ่ง
สามารถใช้เงินจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากมาช่วยชำระใน
ส่วนของดอกเบี้ยได้

ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะตอนนี้ประเทศไทยกำลังลำบาก เราเจอ
วิกฤตมหาอุทกภัย ซึ่งทำความเสียหายแก่ประเทศอย่างใหญ่
หลวง และเราไม่สามารถเสี่ยงกับเหตุการณ์แบบเมื่อปีก่อน
ได้อีก ประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องลงทุนสร้างระบบป้องกัน
สาธารณะภัยอย่างจริงจัง ซึ่งก็ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมหาศาล
และต้องใช้เงินในการเยียวยาฟื้นฟูภาคธุรกิจเอกชน และ
ประชาชนอีก นี่ยังไม่นับการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเตรียมตัว
ให้พร้อมกับการเข้าสู่การเป็นสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจ
อาเซียนในปี 2558 ฯลฯ

ดังนั้น ผมคิดว่าประเทศไทยมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้อง
จัดการหนี้ก้อนนี้ให้ได้ เราไม่สามารถทนจ่ายดอกเบี้ยปีละ
65,000 ล้านบาทต่อปีได้อีกต่อไป การโอนหนี้ไปกองทุนฟื้นฟู
จะช่วยให้ gap ให้รัฐบาลกู้เงินต่อได้ รวมถึงสามารถจัดการชำระ
หนี้กองทุนฟื้นฟูให้เป็นระบบระเบียบ

ภารกิจเฉพาะหน้าคือทำอย่างไร เราถึงจะหาเงินมาประทังดอก
เบี้ยจ่ายในแต่ละปีได้ และถ้าปีใดแบงค์ชาติมีกำไรจากการ
บริหารอัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว ก็ค่อยเอา
กำไรนั้นมาโปะเงินต้น...

เพียงแต่...ผมสงสัยอยู่ว่าที่ดร. ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ออก
มาโวยร้องแรกแหกกระเชอ บอกไม่มีเงินๆ ๆๆๆ ก็อาจจะเป็น
เพราะว่าแบงค์ชาติ ในประวัติศาสตร์ชาติไทยเท่าที่ผมทราบมา
แทบจะไม่เคยบริหารงานได้กำไรเลยมั้งครับ ขาดทุนตลอด
ผมก็เพิ่งเคยเห็นเหมือนกันว่าแบงค์ชาติประเทศไหนจะสามารถ
ขาดทุนติดต่อกันได้ตลอดเวลาแบบนี้....อนิจจังหนอ ประเทศไทย

แล้วสำหรับคนที่สงสัยว่ากู้ทำไม กู้ไปเพื่ออะไร ผมก็อยากให้
กลับไปอ่านย่อหน้าข้างบนซักนิดนึง หวังว่าผมจะพอให้ความ
กระจ่างได้บ้างนะครับ

ส่วนผู้ที่คิดว่ากู้ได้มั้ย มันเสี่ยงรึป่าว เรื่องของความเสี่ยงมันก็
ต้องมีบ้างตามธรรมชาติ แต่ในเมื่อคุณกรณ์ยังออกมาให้ข้อมูล
เลยว่าประเทศไทยมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศสูงติด 1 ใน
5 ของโลก ก็แปลว่าอัตราส่วน D/E หรือ Debt to Equity Ratio
ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่สูงมากหรืออันตรายมากจนรับไม่ได้

ผมจึงมองไม่เห็นว่าเพราะเหตุใด แบงค์ชาติและพรรคฝ่ายค้าน
ถึงอยากจะนั่งเก็บ นอนเก็บเงินเอาไว้ในคลัง โดยไม่หาวิธีที่จะ
นำเงินตรงนั้นมาทำประโยชน์กับประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในเวลานี้ที่ประชาชนทั้งประเทศกำลังลำบาก มิใช่หรือ???

เราไม่สามารถจะเป็นห่วงอนาคตได้ ถ้าปัจจุบันของเราตอนนี้
ยังเอาตัวไม่รอด เพราะถ้าวันนี้ประเทศไทยไม่สามารถฝ่าฝัน
วิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันให้ได้แล้วละก็ ผมกลัวว่าอาจจะไม่มี
อนาคตให้กลัวอีกต่อไป...

จากคุณ	: ห่างไกล
เขียนเมื่อ	: 10 ม.ค. 55 18:15:51 A:110.49.227.246 X: