โพสต์ไปครั้งนึงแล้วสงสัยยาวไปไม่ขึ้นเลยต้องแบ่งเป็นส่วนๆ
บันทึกลับ 2540
โดย สิริอัญญา 27 มกราคม 2548 18:40 น.
คุณปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจของพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ได้จัดทำหนังสือออกมาเล่มหนึ่ง ชื่อว่าบันทึกลับ 2540 เป็นหนังสือขนาด 16 หน้ายกพิเศษ หรือแบบพ็อคเกตบุ๊ก มีความหนา 396 หน้า มีเนื้อหาโดยรวมเกี่ยวกับวิกฤตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในช่วงปี 2540
เป็นการรวบรวมและประมวลข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน ที่ลึกลับซับซ้อนและที่ยังไม่เป็นที่เปิดเผยอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ และนำออกมาเปิดเผยเป็นครั้งแรก นับว่าได้ใช้ความพยายามในการแสวงหาข้อเท็จจริงอย่างยิ่ง
ไม่เสียทีที่เป็นที่ปรึกษา ดีกว่าอดีตรัฐมนตรีขี้หมาจำนวนไม่น้อยในรัฐบาลของพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ที่เป็นพวก:-) ขี้ขลาดตาขาว และไม่กล้ารับผิดชอบใด ๆ และเพราะเหตุนั้นจึงทำให้รัฐบาลนั้นอ่อนแอจนต้องล้มลงอย่างง่ายดาย
แม้จะไม่พูดจากันอย่างชัดเจนว่าการจัดทำหนังสือนี้ออกมาในช่วงนี้มีวัตถุ ประสงค์อย่างไร แต่เมื่อหวนย้อนไปดูคำพูดคำจาของผู้คนในวงการการเมืองในระยะเวลาที่ผ่านมา แล้วก็พอจะเข้าใจได้ว่าหนังสือนี้มีความมุ่งหมายที่จะนำเสนอความจริงหลาย ประการที่ถูกปกปิดและที่ถูกบิดเบือนไว้ และได้ถูกใช้ข้อปกปิด ข้อบิดเบือนเหล่านั้นเป็นประโยชน์ในทางการเมืองของคนบางกลุ่มตลอดมา
เมื่อไม่ช้าไม่นานมานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้แถลงไว้ตอนหนึ่งว่าพรรคการเมืองบางพรรคและนักการเมืองบางคนหากินกับการ เป็นสัปเหร่อ ทำให้พรรคการเมืองและนักการเมืองบางคนร้อนตัว เพราะเข้าใจไปว่าหมายถึงการซ้ำเติมวิกฤตทางเศรษฐกิจที่มีลักษณะปล้นชาติและ ขายชาติในยุคหลังรัฐบาลของพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ
ต่อมาคุณชวน หลีกภัย ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ย้อนคำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าถึงแม้จะเป็นสัปเหร่อก็เป็นสัปเหร่อที่เก็บซากศพจากวิกฤตทางเศรษฐกิจ ซึ่งชวลิต-ทักษิณ ได้ทำไว้
ได้ยินมาว่าพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เห็นข่าวแล้วก็มาถึงจุดที่ฟางเส้นสุดท้ายทำให้ความอดทนหมดลง เพราะเรื่องนี้พลพรรคประชาธิปัตย์ได้พูดย้ำแล้วย้ำอีกย้ำเล่าตลอดระยะเวลา ที่ผ่านมาว่าวิกฤตทางเศรษฐกิจปี 2540 เป็นการกระทำของพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ แต่เพียงคนเดียว และได้โยนความผิดทั้งหมดให้กับพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เพียงคนเดียว
เพิ่งมาเปลี่ยนแปลงถ้อยคำป้ายผิดเป็นว่า ชวลิต-ทักษิณ ก็ในช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้งกันในครั้งนี้ ก็พอได้เห็นลีลากระบวนท่าป้ายสีทางการเมืองที่ช่ำชองชำนาญสมคำร่ำลือมาแต่ โบราณกาล
และเพราะเหตุนี้ความอดทนของคนอย่างพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ จึงสิ้นสุดลง และย่อมเป็นที่มาของการเปิดไฟเขียวให้คุณปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ นำเสนอข้อเท็จจริงและข้อมูลตลอดจนพยานหลักฐานของวิกฤตทั้งห้วงก่อนและห้วง หลัง รวมทั้งชี้เบาะแสผู้รับผิดชอบให้ปรากฏไว้ด้วย
ในปี 2540 เป็นปีที่เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจ หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่าฟองสบู่แตก รัฐบาลพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในช่วงนี้นับเวลาได้ 9 เดือนเศษ ก็ต้องลาออกโดยที่ไม่เคยก่อหนี้เพิ่มเติมให้กับบ้านเมือง
เรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นในรัฐบาลนั้นมีอยู่สองเรื่อง คือ การปกป้องค่าเงินบาทและการปิดสถาบันการเงิน ทั้งสองเรื่องนี้ในห้วงเวลานั้นแม้หนังสือดังกล่าวได้ระบุไว้ชัดเจนว่าใคร เป็นคนทำ และเป็นหน้าที่ของใคร แต่พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ในฐานะนายกรัฐมนตรีก็ได้แสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่ตนไม่ได้ทำไปแล้วด้วยการ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
แต่ทว่าฟองสบู่จู่ ๆ มีมาอย่างไร มาแตกขึ้นแล้วเกิดผลอย่างไร เป็นคนละเรื่อง เป็นคนละส่วนกับเหตุการณ์วิกฤตในปี 2540
ในห้วงก่อนเกิดวิกฤตนั้นแม้ว่าจะมีหลายรัฐบาลเข้าบริหารราชการแผ่นดิน แต่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ก็มีส่วนสำคัญอยู่ในห้วงเวลาดังกล่าวเพราะเป็น รัฐบาลเองและร่วมเป็นรัฐบาลอยู่ร่วม 20 ปี
หนังสือนี้นำเสนอตัวเลขว่าฐานะของประเทศไทยในวันที่พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรีนั้นมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สินกว่า 70,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มีฐานะเป็นผู้ล้มละลายอยู่แล้ว
และยังได้แสดงที่มาของหนี้เหล่านั้นว่าเกิดขึ้นเพราะเหตุใด โดยรวมก็คือเกิดขึ้นจากนวัตกรรมบันลือโลกของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ หรือที่เรียกกันว่ารัฐบาลชวน 1 ที่เปิดเสรีทางการเงินโดยเอาประเทศไทยทั้งประเทศไปค้ำประกันอัตราแลกเปลี่ยน และเป็นต้นเหตุให้มีหนี้สินล้นประเทศ
แล้วถามว่าคนที่ก่อหนี้ไว้นั้นได้พูดถึงความรับผิดชอบของตนไว้บ้างหรือไม่ ได้ยอมรับความจริงเรื่องนี้ไว้บ้างหรือไม่ ทั้ง ๆ ที่ ศปร.ก็ดี หน่วยงานทางการเงินสำคัญ ๆ ของโลกก็ได้ยืนยันไว้อย่างชัดเจนแล้ว
ก็ใครเล่าที่ไม่รู้จักสำนึกรับผิดชอบ ไม่ยอมรับผิดชอบในเรื่องใด ๆ แม้กระทั่งเรื่องครอบครัว เรื่องสังคม เรื่องประชาชนและบ้านเมือง
การก่อหนี้จนท่วมประเทศและเป็นเหตุให้ชาติล้มละลายก่อนที่พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ จะเข้ารับตำแหน่งนั้นไม่ใช่การกระทำและไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในความรับผิดชอบของ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ หนังสือนี้จึงได้นำเสนอว่าต้องมีคนที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ และใครคือผู้รับผิดชอบ?
ในการที่รัฐบาลพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจากตำแหน่งนั้น หนังสือนี้ได้ชี้เบาะแสไว้อย่างชัดเจนว่ารัฐบาลนั้นก็ได้รู้ว่ามีแผนการล้ม รัฐบาลเพื่อช่วงชิงอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติและประชาชนเลย มีการสมคบกันเป็นวงกว้างและกระทำการทุกอย่างเพื่อให้ได้อำนาจ และในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ
ดังนั้นการกระทำและความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของรัฐบาลชวน 2 ซึ่งเข้าบริหารประเทศหลังจากรัฐบาลพรรคความหวังใหม่พ้นจากตำแหน่ง จึงไม่ใช่ความรับผิดชอบและไม่ใช่การกระทำของรัฐบาลพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ร่วมรัฐบาลนั้นอยู่เพียงระยะเวลาสั้น ๆ และไม่เกี่ยวกับเรื่องการเงิน การคลังแม้แต่น้อย แต่ก็ยังสู้อุตส่าห์ป้ายผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนได้ นี่แหละลีลาการป้ายผิดชั้นครูที่คนไทยได้รู้ ได้เห็น มาเป็นเวลานานแล้ว
......