...................................................

     1. แม้จะไม่มีการแปรรูป ก็อย่าหวังว่าจะได้ใช้น้ำมันถูก เพราะประเทศไทยไม่มีบ่อน้ำมันเป็นของตัวเอง อีกอย่าง หากไม่แปรรูปเพื่อระดมเงินทุนเข้าไปองค์กรนี้ บริษัทต่างชาติอย่าง เชลล์ คาลเท็กซ์ เจ็ท เอสโซ่ ก็คงจะดำรงอยู่ได้ต่อไปอย่างสะดวกสบาย ... หลายครั้งที่รัฐบาลต้องออกมาควบคุมราคาน้ำมันโดยใช้กองทุนมาเกื้อ แต่ตอนนี้มันเอื้อไม่ไหวเงินจะหมดตู้อยู่แล้ว .... จริงๆ อยากให้แปรรูปการไฟฟ้าด้วย เพราะอยากจะให้คุณๆ รู้ว่า ค่าไฟมันจะแพงกว่ากันสักแค่ไหน การบริการจะดีกว่ากันอย่างไร ให้มีการแข่งขันกัน จะได้ไม่โดนมัดมือชกอย่างทุกวันนี้

ฉะนั้น หากมีใจเป็นธรรม ก็ย่อมต้องเข้าใจว่า ปัญหาเรื่องพลังงานชนิดนี้มันแก้ไม่ได้ มันอยู่เหนือวิสัยของประเทศไทย เว้นเสียแต่ คนไทย จะมีจิตสำนึก ช่วยกันประหยัดน้ำมันให้กับประเทศชาติ การประหยัดไฟฟ้าทั้งของภาครัฐ ภาคเอกชนและส่วนบุคคลตามบ้านเรือน การใช้รถใช้ถนน(เลี่ยงขับรถคนละคัน คันละคน หรือขับรถเร็วกว่ากำหนด) การแก้ไขจราจรติดขัด (สร้างระบบขนส่งมวลชนให้มีประสิทธิภาพ) ล้วนเป็นปัจจัยในช่วยประเทศประหยัดน้ำมันทั้งสิ้น  

    2. เหตุที่ต้องแปรรูป ปตท ก็เพราะรัฐไม่ต้องกู้เงินมหาศาลจากต่างประเทศมาอุดหนุนกิจการที่ขาดทุนย่อยยับมาตลอดตั้งแต่สถาปนาเป็นองค์กรหน่ะสิครับ การระดมหุ้นภายในประเทศโดยรัฐบาล ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่อยู่ พร้อมกับมีการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพในรูปแบบบริษัทมหาชน ไม่ใช่แบบ "รัฐวิสาหกิจ" เกือบจะทุกแห่งที่ขาดทุนตลอดศก (ยกเว้นการไฟฟ้า ที่สร้างผลกำไรจากการผลักภาระทุกอย่างให้ประชาชน แต่คนในองค์กรรายได้และสวัสดิการดีเยี่ยมสุดๆ จนเป็นที่อิจฉาของรัฐวิสาหกิจอื่น)

ตอนนี้ ปตท ประสบความเร็จมีผลกำไรมากมาย เงินก็ไหลเข้ากระเป๋าผู้ถือหุ้นบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็เข้ากระทรวงการคลังเพราะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ คนไทยแวะปั๊มน้ำมัน ปตท กันมากกว่า เพราะมีการจัดการที่ดี มีเซเว่น กาแฟอาเมซอน ห้องน้ำสะอาด และร้านค้าต่างๆ ตกแต่งสถานที่สวยงามกว่าปั๊มอื่นๆ แม้แต่ เจ็ท ที่เคยรุ่งเรืองยังต้องขายกิจการให้ ปตท เพราะสู้ไม่ไหว ... ตอนนี้คุณไปดูสิว่า สถานีบริการเชื้อเพลิงยี่ห้อไหนคนไทยเข้ามากที่สุด

การที่น้ำมันจะถูกหรือแพง ก็ขึ้นอยู่กับราคาของตลาดโลกที่ประเทศไทยต้องไปซื้อมาขายให้คนไทยอีกที ในเมื่อต้นทุนแพง จะให้รัฐบาลแบกรับภาระเอาเงินมาอุดหนุนให้ขายถูกๆ ตลอดไปอย่างนั้นหรือ หากมีวาสนาได้เดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ ก็ลองไปเช็คราคาของน้ำมันในประเทศเพื่อนบ้านดูก็ได้ แล้วจะรู้ว่า คนไทย ใช้น้ำมันราคาถูกกว่าหลายๆ ประเทศ (ยกเว้น มาเลย์เซีย และ อินโดนีเซีย ที่มีแหล่งน้ำมันของตัวเอง)

น้ำมันแพง ก็ใช้รถยนต์ให้น้อยลง ไม่เคยลำบาก ก็หัดลองเดิน ลองใช้รถเมล์ หรือนานๆ ทีมีสตางค์ก็อุดหนุนแท็กซี่บ้างก็ได้ เตรียมตัวไว้รับสถานะการณ์ "สงครามเศรษฐกิจ" ที่มีน้ำมัน เป็นอาวุธร้ายแรงอย่างหนึ่งของกลุ่มประเทศมหาอำนาจ

.

.