โดย ศ.ดร.ปาริชาต สถาปิตานนท์ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เมื่อปี 2538 ดิฉันได้รับการแนะนำให้รู้จัก ดร. นลินี ทวีสิน จากโปรเฟสเซอร์
ชื่อดังสัญชาติอเมริกัน "เอฟเวอร์เรต โรเจอร์" เขากล่าวว่า เราทั้งคู่เป็นเหมือน
หลานของเขา เพราะเราต่างเรียนด้านการสื่อสาร และเป็นลูกศิษย์เอกของ
ลูกศิษย์เอกของเขา
เรามีความต่างกันหลายมุม ดิฉันสนใจสนุกกับการเป็นนักวิจัย ศึกษา วิเคราะห์
ในประเด็นที่เกี่ยวกับการสื่อสารในการกำหนดวาระทางสังคม ส่วนดร. นลินี
เป็นนักบริหารที่สนใจประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารสมัยใหม่ในแวดวงธุรกิจ
ปี 2549 ดิฉันได้มีโอกาสชื่นชมกับ ดร. นลินี ในฐานะหนึ่งในสิบหกของ
ผู้ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาครั้งแรก
แต่แล้วสถานการณ์พลิก ดร. นลินี ไม่ได้ทำหน้าที่ในตำแหน่ง
สมาชิกวุฒิสภาอย่างเป็นทางการ เนื่องจากเหตุการณ์รัฐประหาร
ปี 2551 ในขณะที่ดิฉันเป็นนักวิชาการอาคันตุกะที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ดิฉันได้มีโอกาสพบ ดร. นลินี ที่อังกฤษ ในขณะที่เราไปเข้าร่วมประชุม
เรื่องธุรกิจเพื่อสังคม ดิฉันกล่าวเชิญชวนเธอให้สมัครไปฮาร์วาร์ด
หลังจากนั้นอีกไม่นานเธอได้ตัดสินใจไปใช้ชีวิตเป็นนักวิชาการที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ต
ทันทีที่ได้กลับเข้าสู่บรรยากาศของประชาธิปไตย และการเลือกตั้งอีกครั้ง
ดิฉันก็ได้เห็นข่าว ดร. นลินี เลือกเข้าสู่เวทีแข่งขันทางการเมืองอีกครั้ง
รอบนี้เธอเลือกลงสมัครรับเลือกตั้งในฐานะตัวแทนจากพรรค "พลังประชาชน"
ถึงแม้เธอไม่ได้รับการเลือกตั้งในรอบนั้น และเราก็ขาดการติดต่อกันไป
แต่ดิฉันก็จะได้ยินข่าวคราวจากเพื่อนๆ ในหลากหลายวงการว่า เธอได้
หันมาทุ่มเทการใช้ความรู้ความสามารถในช่วยรัฐบาลบริหารงานด้าน
ธุรกิจการค้า และการต่างประเทศอย่างจริงจัง
และเมื่อการเลือกตั้งครั้งล่าสุดมาถึง ดิฉันได้มีโอกาสเห็นชื่อ ดร. นลินี
ในฐานะน้องใหม่ในเวทีการเมืองอีกครั้ง เธอมีชื่ออยู่ในตำแหน่งที่ 125
อันเป็นรายชื่อสุดท้ายในบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย
ถึงแม้ชื่อเธอจะไม่ได้อยู่ในสัดส่วนที่เข้าไปเป็นผู้แทน
แต่เธอก็ได้รับดำรงตำแหน่งเป็นผู้แทนการค้าไทย
ดิฉันได้ข่าวเธอผ่านคนอื่นๆ อีกเช่นกันว่า เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ในการ
เดินทางไปเปิดตลาดการค้าให้ไทยในต่างแดน โดยเฉพาะในบรรดา
ประเทศที่เป็นตลาดใหม่ๆ ของไทยในทวีปแอฟริกา และเอเชียกลาง
บรรดาคนแวดล้อมบอกดิฉันว่า รัฐบาลได้อาศัยความรู้ ความสามารถ
วามอ่อนน้อมถ่อมตน และความสัมพันธ์ใกล้ชิดของเธอกับผู้นำประเทศ
ต่างๆ ในการเปิดตลาดการค้า การลงทุนใหม่ๆ
แล้วเส้นทางชีวิตของดิฉัน และของเธอที่ห่างกันไปกลับมาบรรจบกัน
เมื่อเธอก้าวเข้ามาพบกันในงานรับน้องใหม่ ของนักศึกษาวิทยาลัยการ
ตลาดทุน เมื่อเดือนกันยายน 2554
เราได้ทักทายกันในฐานะเพื่อนเก่า ที่เคยรู้จักกันมาในอดีต และรุ่นพี่
รุ่นน้องของสถาบันเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้ติดต่อสื่อสารกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
......
สายของวันที่ 17 มกราคม 2555 ดิฉันส่งข้อความสั้นไปแสดงความยินดี
กับเธอ หลังจากเห็นข่าวผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟนว่า เธอเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้
รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 2
เธอตอบ "ขอบคุณ" กลับมาสั้นๆ อย่างรวดเร็ว
ส่วนดิฉันก็ไม่ได้ติดตามข่าวอะไรต่อ จนกระทั่งเช้าวันที่ 19 มกราคม 2555
ดิฉันเห็นข่าวโทรทัศน์นำเสนอเรื่องการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่
ดร. นลินี มีชื่อตามโผ แถมยังมีชื่อตัวโตกว่าคนอื่นๆ เมื่อหนังสือพิมพ์ฉบับ
หนึ่งลงข่าวพาดหัวใหญ่เป็นชื่อเธอ พร้อมทั้งคำว่า "แบล๊กลิสต์"
ผู้ดำเนินรายการข่าวทางโทรทัศน์ช่องหนึ่ง อ่านคำบรรยายข่าวว่า เธอเกี่ยว
ข้องกับบุคคลที่มีประวัติคอร์รัปชั่น แต่ไม่ได้ขยายความต่อว่า บุคคลผู้นั้นเป็นใคร
ดิฉันเริ่มอยากรู้อยากเห็น และเริ่มโทรศัพท์พูดคุยกับบรรดาผู้คนในวงการข่าว
นักข่าวบอกดิฉันว่า ได้ข่าวมาจาก facebook ของนักการเมืองคนหนึ่ง
.....
ในขณะที่นั่งรถโดยสารสาธารณะบีทีเอสไปประชุมในช่วงบ่ายวันเดียวกันนั้น
ดิฉันใช้สมาร์ทโฟนค้นหาชื่อเธอผ่านระบบค้นหาข้อมูล Google และพบข้อมูล
เกี่ยวกับเธอในหน้าเฟซบุ๊ก ของนักการเมืองค่ายตรงข้ามจริงตามที่เพื่อนบอก
ข้อความดังกล่าว เป็นข้อความซึ่งบุคคลหนึ่งได้ส่งไปไว้ในหน้ากระดาน
ข่าวเฟซบุ๊กของนักการเมืองชื่อดังแห่งค่ายตรงกันข้าม พร้อมทั้งรายละเอียด
เกี่ยวกับเว็บไซด์ของหน่วยงานด้านการคลังสหรัฐ ซึ่งลงรายชื่อของเธอ
พร้อมกับรายชื่อของนักธุรกิจคนอื่นๆ ที่ทางการสหรัฐแนะนำไม่ให้นักธุรกิจ
ของตนทำธุรกิจด้วย
ไม่มีคำว่า "แบล๊กลิสต์" ในเอกสารดังกล่าว
ในช่วงเวลาหลังจากนั้นไม่ถึงสามนาที ข่าวจากสำนักข่าวชื่อดัง
ก็รายงานผ่านจอมอนิเตอร์ในรถบีทีเอสเกี่ยวกับ ดร. นลินี
โดยเนื้อความในข่าวเป็นการให้สัมภาษณ์ของตัวแทนพรรคใหญ่
ฝ่ายตรงข้ามซึ่งเคยทำงานอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศ เขาตั้ง
คำถามกับรัฐบาลเกี่ยวกับความรับผิดชอบในประเด็นดังกล่าว
ดิฉันยกโทรศัพท์คุยกับเพื่อนนักข่าวอีกคนเกี่ยวกับคำว่า "แบล๊กลิสต์"
ที่ปรากฎในสื่อไทย แต่ยังไม่เห็นในข้อความของกระทรวงการคลังสหรัฐ
เพื่อนบอกว่า คำว่า "แบล๊กลิสต์" เป็นภาษาง่ายๆ ที่สามารถทำให้
คนเข้าใจได้ว่า เป็นคนมีปัญหา หากใช้ข้อความซับซ้อนแบบที่ฝรั่ง
ใช้ ก็ยากที่คนทั่วไปจะเข้าใจได้ง่ายๆ
แต่เพื่อนบอกว่า คำนั้นมีความหมายแฝง เพราะเรามักมองว่า เกี่ยวข้อง
กับคนที่มีชื่ออยู่ในบัญชียาเสพติด และสินค้าผิดกฎหมายต่างๆ
หลังจากวางหูโทรศัพท์ ดิฉันเห็นข้อความของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งที่เผย
แพร่ในระบบสมาร์ทโฟน พาดหัวว่า ดร. นลินี ยอมรับว่า เธอติดแบล๊กลิสต์จริง
ยังไม่ทันไร สำนักข่าวการเมืองอีกแห่งก็ส่งข้อความสั้นว่า
"นลินียันสปริงนิวส์ USA กล่าวหาข้างเดียว-ไม่เคยทำธุรกิจ เชื่อถูกดิสเครดิต"
ดิฉันส่ง sms ไปหาเธอ เพื่อชื่นชมคำให้สัมภาษณ์ของเธอในสปริงนิวส์
พร้อมทั้งขอ email ของเธอ เพื่อส่งข่าวต่างๆ ที่ดิฉันได้อ่านทางมือถือ
ไปแบ่งปันให้เธออ่านบ้าง และเตือนเธอเรื่องความหมายแฝงที่ต้องระวัง
เมื่อใช้คำว่า แบล๊กลิสต์
ดิฉันทักเธอผ่านอีเมล์ว่า เนื้อความในเอกสารของหน่วยงานสหรัฐยัง
ไม่มีคำว่า แบล๊กลิสต์ แต่ทำไมเธอถึงไปเผลอยอมรับในหนังสือพิมพ์
เธอบอกว่า เธอไม่ได้กล่าวว่า เธอถูกแบล๊กลิสต์เลย
และไม่ได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว
......
ช่วงค่ำ ดิฉันติดตามดูข่าวทางโทรทัศน์อีกรอบ
คราวนี้นักข่าวทำสกู๊ปข่าวเชิงเจาะลึกมากขึ้น
สำนักข่าวแห่งหนึ่ง ได้รายงานว่าทางการสหรัฐได้ออกมาแถลงการณ์
ล่าสุดต่อประเด็นดังกล่าวผ่านหน้าเว็บไซต์ของสถานทูตสหรัฐอเมริกา
ในประเทศไทย
ส่วนภาพข่าว เป็นภาษาอังกฤษ เป็นข้อความพาดหัวจากหนังสือพิมพ์
News & Guardian ว่า
"Crony-Thai-Minister Blacklisted for Mugabe links."
ในการสะท้อนมุมข่าวให้หลากหลายมิติ นักข่าวเจ้าเดียวกันยังหยิบกรณี
ของนักการเมืองชื่อดังในอดีตที่เกือบจะขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
แต่มีอันเป็นไปเพราะพัวพันกับกรณียาเสพติด และถูกขึ้นบัญชีแบล๊กลิสต์
นอกจากนั้น นักข่าวยังตามไปหานักรัฐศาสตร์เพื่อให้ช่วยวิเคราะห์
ให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับประเด็นการเมืองระหว่างประเทศ
ส่วนสำนักข่าวคู่แข่งก็ไม่น้อยหน้า
ทีมงานให้นักข่าวทำสกู๊ปข่าวลึกเช่นกัน โดยไปสืบค้นเนื้อข่าว
จากสำนักข่าว AFP มาเป็นแหล่งข่าวในการอ้างอิง
ด้วยความสงสัยถึงที่มาของคำว่า blacklist ดิฉันก็ใช้ google
สืบค้นหาข่าวต้นตอจาก News & Guardian และ AFP
รอบนี้ดิฉันค้นเจอเนื้อข่าวดังกล่าวอย่างไม่ยากนัก
แถมยังค้นเจอข่าวใหม่ๆ จากสำนักข่าวต่างๆ เกี่ยวกับเธอเพิ่มขึ้นทวีคูณ
ในช่วงเวลาแค่ไม่ถึงสิบช่วงโมง ภายหลังจากการสืบค้นครั้งแรก
ข่าวของสำนักข่าว และหนังสือพิมพ์ในประเทศต่างๆ เป็นข่าวใหม่
เนื้อความของข่าวระบุไปในทิศทางเดียวกันว่า เป็นการรายงานตรงจาก
กรุงเทพมหานคร เรื่องปัญหาความเชื่อมโยงระหว่างรัฐมนตรีใหม่ กับ
ผู้นำประเทศซิมบับเว
แล้วตกลง....อเมริกันแบล๊กลิสต์ ดร. นลินี จริงๆ เหรอ?
หรือ นักข่าวไทยเริ่มต้นการใช้คำว่า Blacklist ใ
ห้การกระทำของสหรัฐต่อ ดร. นลินี?
แทนที่จะใช้คำว่า "แบน" เหมือนดั่งที่ใช้ในข้อความในเฟซบุ๊ก
ที่ผู้ปรารถนาดีส่งให้ทางตัวแทนพรรคคู่แข่งก่อนหน้านั้น
แทนที่จะใช้ข้อความที่เป็นภาษากฎหมาย และเข้าใจยาก เหมือนดัง
เอกสารที่ทางกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกาเผยแพร่ผ่าน
เวปไซด์ของ OFAC
แล้วคำดังกล่าว ก็แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เมื่อข่าวของสำนักข่าว
ต่างประเทศ ได้อ้างอิงแหล่งข่าวจากสื่อไทย เพื่อนำเสนอข่าวล่าสุด
จากเวทีการเมืองไทยสู่เวทีระดับนานาชาติ
......
ดิฉันกลับมาอ่านข่าวจากเมืองไทยอีกรอบ ในช่วงดึกคืนวันที่ 19 มกราคม
สิ่งที่ดิฉันพบ คือ มีเพียงสำนักพิมพ์มติชนเท่านั้น ที่ได้มีการเผยแพร่
ข้อมูลใหม่ เกี่ยวกับเธอในช่วงดึก
และเป็นข่าวที่สัมภาษณ์ตรงจากมุมของ ดร. นลินี เกี่ยวกับสัมพันธภาพ
ระหว่างเธอกับผู้นำของประเทศซิมบับเว อันเป็นประเทศที่อเมริกากำลัง
ใช้มาตรการแซงก์ชั่น
สิ่งที่ดิฉันพยายามคาดการณ์ต่อ ก็คือ แล้วพรุ่งนี้สื่อไทย สื่อเทศจะไปไหนต่อ?
....จะเปลี่ยนประเด็นไปเล่นข่าวคนอื่น
....จะอ้างข้อความคำให้สัมภาษณ์ของ ดร. นลินี ใน "มติชน"
....จะประสานงานไปยังสถานทูตสหรัฐอเมริกา หรือ กระทรวงการต่างประเทศ
หรือใคร เพื่อนำเสนอประเด็นที่ใหม่กว่าเดิม
...หรือจะขุดประเด็นเชื่อมโยงต่อไปถึงใคร และข้อสันนิษฐานที่สื่อกำลัง
วิเคราะห์เกี่ยวกับ "ค่าย" ที่ส่ง ดร. นลินีลงชิงตำแหน่งรัฐมนตรี หรือเบื้อง
หน้าเบื้องหลังที่พรรครัฐบาลหนุนเธอเต็มที่ให้ก้าวสู่ตำแหน่งดังกล่าว
หรือจะหันกลับมาตั้งคำถามกับ "มติชน" ว่าอะไรคือมูลเหตุที่ได้สกู๊ปข่าว
พิเศษมาก่อนใคร?
ประเด็นการเมืองในประเทศและในเวทีนานาชาติ กับการสื่อสารประเด็น
การเมืองผ่านสื่อไทยและเทศกำลังเข้มข้น
โดยเฉพาะเป็นการเมืองที่บรรดา "สื่อ" ช่วยกันฉายภาพประเด็นการเมือง
ผ่านชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจ และวิชาการ
แต่กำลังก้าวเข้ามาเป็นหน้าใหม่เวทีสื่อและการเมืองแบบไทยๆ อย่างเต็มตัว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1327142546&grpid=&catid=02&subcatid=0207
ปชป.จี้ รบ.บทวนตำแหน่ง "นลินี" ชี้อาจเอื้อธุรกิจ "ทักษิณ"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1327223498&grpid=&catid=01&subcatid=0100
"นลินี" แถลงยันยังเดินทางเข้าออกสหรัฐฯได้ปกติ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1327223418&grpid=&catid=01&subcatid=0100
"นลินี" แถลงสัมพันธ์ "อดีตปธน.ซิมบับเว" ไม่ใช่ในทางธุรกิจ ยันยัง
เข้าสหรัฐฯได้ วอนขอเป็นเหยื่อการเมืองคนสุดท้าย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1327222714&grpid=&catid=01&subcatid=0100
ปชป.ตามขุด"นลินี" มีปัญหาชัวร์!
http://www.naewna.com/news.asp?ID=297620
ผวาสหรัฐคว่ำบาตร! ชี้ต่างชาติอาจกังวลมติครม.พันบัญชีดำ-นลินีแจง
http://www.thaipost.net/sunday/220112/51423.
'นลินี'ขอโอกาสทำงานพิสูจน์ตัวเอง
http://www.komchadluek.net/detail/20120122/120956/นลินีขอโอกาสทำงานพิสูจน์ตัวเอง.html
อีกข่าวร้อนวันนี้ ดร.นลินี ทวีสิน ปมแบล็คลิสต์ แต่ละสื่อว่ายังไงกันบ้าง
อ่านกันให้ชัด ๆ ไม่เอาที่อ.จ.มีชัยวิจารณ์มาให้อ่านเพราะมีเพื่อนตั้งกระทู้แล้ว