Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
== เราควรจะเชื่อฟังกฎหมาย อย่างหลับหูหลับตา หรือ เชื่อฟังกฎหมายที่เป็นธรรม ? =={แตกประเด็นจาก P11620337} ติดต่อทีมงาน

ตื่นมา ก็เจอคนบ่นงึมงัมแต่เช้าเลย อิอิ ตรวจสอบเทรนด์ได้ 5 บรรทัดแล้ว ขำจนสามีทักว่ารอยตีนกาขึ้น  แหม่ มีอ้างคำพูดของ สัญญา ธรรมศักดิ์ มาด้วย  เดี๊ยนว่าก็ได้แค่นั้นแหละจ้า  วนกลับมาที่เดิมต่อ.. ทีหลังก็พูดมาตรงๆเลยว่า " ตรูจะปกครองอ้ะ พวกแกอยู่กานเฉยๆ ได้ม๊ายยย " อิอิ

เดี๊ยนคิดว่าคุณมีความเข้าใจผิดในระบอบการปกครองอย่างร้ายแรง  เพราะระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ( Constitutional Monarchy ) หมายถึง เป็นกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ไม่ใช่อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ  แม้แต่ในหลวงก็ทรงมีพระราชดำรัสเสมอว่า ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย จำไม่ได้หรือไม่ว่า มีการเสนอขอนายกพระราชทานตามมาตรา 7 หรือที่เรียกกันว่า มาร์ค ม.7  ดังนั้น เพื่อขจัดความเข้าใจอันผิดเพี๊ยน รวมถึงความมั่วของผู้ที่ไม่เข้าใจระบบการปกครองและกฎหมายอย่างพวกคุณ  เดี๊ยนขอพูดถึงหลักการ เพื่อประโยชน์และความเพลินนนน  ต่อผู้อ่านดังนี้..

ในเรื่องกฎหมายนั้นจะมีศัพท์อยู่ 2 คำ คือคำว่า " ปกครองโดยกฎหมาย " ( Rule by Law ) และ " หลักนิติธรรม หรือ นิติรัฐ " ( Rule of Law ) ขึ้นอยู่กับว่า ถ้าเป็นระบบอังกฤษที่มีศาลยุติธรรมหรือระบบแบบเยอรมันที่ใช้ศาลหลายประเภทได้แบบไทย  ความแตกต่างระหว่างการปกครองโดยกฎหมาย และหลักนิติรัฐ นิติธรรม คือ ถ้าเป็นระบอบเผด็จการตั้งแต่สมัยยุคประวัติศาสตร์ ได้แก่ ฟาห์โร หรือ โรมัน ส่วนตะวันออกได้แก่ จีนในยุคต้น  เป็นการปกครองด้วยระบบเจ้าทาส คือการเอาชนชาติอื่นมาเป็นทาส  ผู้ปกครอง ก็จะออกกฎหมายเพื่อให้ทาสอยู่ในความสงบเรียบร้อย เจียมเนื้อเจียมตัว  กฎหมายนี้ยังมีเรื่อยมาจนถึงยุคศักดินา ที่มีระบบไพร่ขึ้นมา  ทั้งไพร่และทาส หากไม่อยู่อย่างสงบและส่งส่วยให้กับผู้ปกครอง ตามที่เค้าทำนาบนหลังคน ก็จะถูกฆ่าด้วยวิธีต่างๆ

สำหรับไทยแลนด์แล้ว  ผู้ที่ไม่อยู่ใต้การปกครอง มักเรียกว่า กบฏผีบุญ  โดยมักจะเกิดผู้มีความคิดแบบอิสระชนและไม่ต้องการถูกกดขี่ และด้วยเหตุนี้ดันมีคนเลื่อมใสมาก คนเหล่านี้ มักถูกทางการประกาศว่า เป็นคนนอกกฎหมาย และถูกสังหารในที่สุด  กบฏผีบุญมีครั้งสุดท้ายเมื่อสมัยรัชกาลที่ 5 ในสมัยนั้นการประหารชีวิตได้มีการจัดพิธีกรรมอย่างยิ่งใหญ่และน่าสยดสยอง สำนักข่าวต่างประเทศได้เคยจัดไว้ว่า เป็นการสังหารหมู่ที่โหดเหี้ยมทารุณอันดับ 4 ของโลกประจำศตวรรษ กบฏผีบุญแบนี้ ในต่างประเทศเทียบเคียงได้กับ Brave Heart ของ สกอตแลนด์ ( ไปหาหนังดูเอาได้ ) ซึ่งหัวหน้ากบฏถูกจับฉีกร่างเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เพื่อมิให้ประชาชนเอาเยี่ยงอย่าง และสยบต่ออำนาจอังกฤษ  กรณีเช่นเดียวกันนี้ เกิดขึ้นกับการประกาศอิสรภาพของชาวอเมริกัน  ทั้งหมดนี้เกิดจากผู้ที่ไม่เชื่อฟังต่อกฎหมาย ที่ออกโดยผู้ปกครอง  ที่เรียกว่า " การปกครองโดยกฎหมาย "  นั้นเอง

ครั้นมีคำถามว่า ถ้าการเชื่อฟังกฎหมาย เป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างสมบูรณ์หรือเด็ดขาด  คำถามต่อมาคือ แล้วใครเล่า..จะเป็นคนเขียนกฎหมายนั้น ?  ตรงนี้เป็นที่มาของระบอบการปกครองและกฎหมายรูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า หลักนิติรัฐ นิติธรรม

สิ่งที่คุณพูดมา เดี๊ยนว่าไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ว่า ประชาชนควรเชื่อฟังกฎหมาย โดยไม่ต้องใส่ใจว่า ว่ากฎหมายนั้นมาจากไหน ต้นกำเนิดมาจากใคร  ผู้ที่วิจารณ์เรื่องกฏหมายแบบนี้คนแรก คือนักปราชญ์ชาวกรีก คือ Socrates  ซึ่งกล่าวว่า ระบบกฎหมายในสมัยนั้น ไม่เป็นธรรม และถูกตัดสินให้ดื่มยาพิษตาย ซึ่ง Socrates ก็ไม่คัดค้าน ด้วยเห็นว่า กฎหมายส่วนใหญ่ยังมีข้อดีอยู่  แต่เหตุการณ์เดียวกันนี้ คนอังกฤษในน็อตติ้งแฮม ไม่ยอมและต่อสู้กับพระเจ้าจอห์น ที่มีนิสัยชอบรีดไถส่วย เพื่อเอาไปทำสงครามและใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย  ความชั่วร้ายของระบอบราชาธิปไตยในสมัยนั้น ถึงขนาด ให้ถอนฟันเศรษฐีวันละซี่ จนกว่าจะยอมให้เก็บภาษี  ในที่สุด เหล่าบารอน ซึ่งเป็นเจ้าในระบบศักดินา ก็รวมตัวกันเข้ามาบีบบังคับให้พระเจ้าจอห์นต้องลงนามในกฏหมายใหม่ที่ชื่อ แมคนาคาตา  ใจความสำคัญก็คือ กษัตริย์ จะกินภาษีและทำสงครามตามใจชอบมิได้ ต้องตั้งสภาและผู้แทนของแคว้นต่างๆ เข้ามาเห็นชอบด้วย  

ตรงนี้เป็นจุดกำเนิดของหลักที่ว่า เมื่อจะเขียนกฎหมายบังคับต่อผู้ใด ก็ต้องให้ผู้นั้นเองเขียนกฎหมายต่อผู้นั้นและบังคับต่อตัวเองด้วย  ความคิดนี้พัฒนามาถึงขนาดที่ว่า กฎหมายใด ถ้าไม่ได้รับเสียงเป็นเอกฉันท์จากคนทั้งชุมชนแล้ว ก็จะถือว่าเป็นกฎหมายที่ไม่มีความเป็นธรรม  แนวคิดนี้เสนอโดย ฌอง ฌาร์ค รุสโซ  เจ้าของทฤษฎีสัญญาประชาคม หรือ Social Contract  ที่บอกว่า ผู้ปกครองนั้น ก็คือประชาชน มาร่วมกระทำสัญญาร่วมกันปกครองตนเอง  ส่วนหลักการที่เบากว่านั้น คือแนวทางเสรีนิยมของ จอห์น ล็อค ที่กล่าวว่า จะต้องมีผู้แทนประชาชนมาเขียนกฎหมาย  ใช้เสียงข้างมากและรักษาสิทธิ์ให้กับเสียงข้างน้อยมีโอกาสได้พูด  เพื่อโน้มน้าวให้ประชาชนเห็นด้วยและเปลี่ยนแปลงกฎหมายไปตามที่ตัวเองต้ิองการได้  โดยให้ความสำคัญกับสิทธิพื้นฐานบางประการที่ห้ามละเมิด  ได้แก่ ชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และ เสรีภาพ  จึงเป็นต้นสายของ กฎหมายแบบนิติรัฐ..

สรุปแล้วคือ ประชาชนเป็นผู้ออกกฎหมายบังคับตัวเอง ไม่ใช่ผู้ปกครอง ที่ไม่มีความเกี่ยวโยงกับประชาชน ไม่ว่าจะแอบอ้างทำดีมาจากไหนก็ตามเป็นผู้ออกกฎหมาย  แนวคิดต่างๆเหล่าเป็นที่มาของคำว่า " อธิปัตย์ " ว่าเป็นของกษัตริย์แต่ผู้เดียว หรือของประชาชน  แต่ข้อสรุปที่ดีที่สุดในขณะนี้คือ การปกครองในระบอบประชาธิปไตย หรือ คือการปกครองด้วยประชาชนกันเองเป็นเจ้าของประเทศ มีอำนาจนิติบัญญัติและตุลาการแยกจากกัน โดยทุกอำนาจ ต้องอยู่ภายใต้ประชาชนทางใดทางหนึ่ง เช่น ฝ่ายบริหารได้มาจากการเลือกตั้ง ฝ่ายนิติบัญญัติก็มาจากการเลือกตั้ง ส่วนฝ่ายตุลาการนั้น ปกติจะให้ฝ่ายนิติบัญญัติหรือฝ่ายบริหารหรือร่วมกันแต่งตั้งและถอดถอน  ในกรณีของญี่ปุ่นประชาชนเป็นผู้ถอดถอนผู้พิพากษาโดยตรง

ถึงตรงนี้ คงจะตอบคำถามคุณได้แล้วว่า  คำว่า กฎหมาย และ การเชื่อฟังกฎหมายนั้น ไมใช่ตัดตอนเอาเฉพาะว่า ให้เชื่อฟังอยู่ร่ำไป  มันอยู่ที่ว่า ที่มาของกฎหมาย และ กระบวนการยุติธรรมนั้น เป็นไปตามหลักกฎหมายหรือไม่  ยิ่งคุณบอกมาในทำนองที่ว่า พระมหากษัตริย์อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ ก็แปลว่า กษัตริย์เป็นผู้แต่งตั้งนิติบัญญัติ  บริหาร และตุลาการ ตามแต่จะพอพระทัยใช่หรือไม่ ?  ส่วนประชาชนก็มีหน้าที่ปฏิบัติตาม หาไม่ก็เป็นกบฏผีบุญ  การปกครองนี้เรียกว่า ระบอบเจ้าทาส ถ้ามีการกำหนดชนชั้นทาส ระบอบศักดินา หรือ สมบูรณยาสิทธิราช  แต่ถ้าหากรัฐธรรมนูญกำจัดอำนาจของกษัตริย์ได้บ้าง โดยประชาชนไม่มีส่วนในการกำหนดกฎหมาย ก็จะเรียกว่า ระบอบราชาธิปไตยแบบจำกัด หรือ Limited Monarchy ซึ่งเดี๊ยนคาดว่า น่าจะเป็นรัฐธรรมนูญที่รัชกาลที่ 7 จะพระราชทาน  เลือกกันเอาเองนะจ๊ะ  คนทั้งโลกนี้เลือกระบอบประชาธิปไตยกันทั้งนั้น ยกเว้นบางประเทศในแอฟริกา ก็ขอเชิญคุณไปอยู่อาศัยได้ตามสะดวกนะคะ

สำหรับมาตรา 112 เดี๊ยนว่า ไม่จำเป็นต้องแก้ไข หากกระบวนการยุติธรรมของไทยเป็นไปตามนานาอารยะประเทศเค้า  เช่น ตุลาการภิวัฒน์ได้รับการแต่งตั้งหรือถอดถอนโดยประชาชนในทางใดทางหนึ่ง และบางส่วนไม่ไปร่วมมือรับใช้เผด็จการ คมช. เขียนกฎหมายแล้วตัวเองก็มานั่งเป็นตุลาการเองแบบที่เห็นในปัจจุบันนี้  ด้วยความเคารพต่อกระบวนการยุติธรรมไทย เชื่อว่า มีตุลาการภิวัฒน์ที่มีใจเป็นธรรมจำนวนมาก ต้องการจะเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้เพื่อสร้างมาตรฐานในระบบยุติธรรมไทยเช่นกัน  แต่เมื่อการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทั้งหมด ต้องไปขึ้นอยู่กับบางองค์คณะ ก็เลยเกิดความรู้สึกที่เรียกว่า " ใบสั่ง "  จริงเท็จประการใด ก็ไม่มี " ใบเสร็จ "   แต่ปรากฎการณ์มันทำให้ประชาชนเชื่อเช่นนั้น  เช่น  คู่กรณี ดา ตอร์ปิโด และ ศาสดาลิ้ม ในคำพูดเดียวกัน คนหนึ่งติดคุก คนหนึ่งลอยนวล.. บัดซบดีมั้ยจ๊ะ ?

สำหรับกรณีของนิติราษฎร์ เนื่องจากไม่ต้องการที่จะปฏิรูปขบวนการยุติธรรมมากเกินไป ก็ขอแค่ลดโทษในมาตรา 112 ให้กลับไปเป็นเหมือนสมัยสมบูรณายาสิทธิราช และกำหนดโทษให้เหมือนประเทศอื่นในยุโรป เดี๊ยนคิดว่า เป็นเรื่องเล็กน้อยเกินไป ที่จะมาสนใจในมาตรา 112 แต่คิดว่าเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เลยเลือกที่จะสนับสนุนนิติราษฎร์ อีกทั้งเจตนาแท้จริงแล้วคือรักษาซึ่งพระเกียรติของพระมหากษัตริย์ที่ดีที่สุดด้วยซ้ำไป..

วิธีการแก้ไขของเดี๊ยนอย่างง่ายๆ คือ ยกเลิกองคมนตรี ซะ  เพราะว่ามีที่มาจากการยึดอำนาจปี 2490 ซึ่งไม่มีใช่ประชาธิปไตย และย้อนกลับไปสู่สภาพการปกครองในสมัยคณะราษฎร์  ไม่มีไรน่าเดือดร้อนแต่ประการใด เอะ รึใครจะเดือดร้อน  แถมไม่เป็นการลดหย่อนพระราชอำนาจอีกด้วย เพราะท่านยังสามารถใช้พระราชอำนาจได้เหมือนเดิม

ถ้าสงสัยว่าสภาพจิตใจเป็นอย่างไร ก่อนอื่นต้องยกศัพท์เฉพาะของท่านปรีดี ที่เรียกว่า " ซากทรรศนะทาส "  คำๆนี้หมายถึง ความคิดที่ยังต้องการเป็นทาส ทั้งๆที่ระบบทาสได้ยกเลิกไปแล้ว แต่ซากความคิดนี้ก็ยังคงเหลือตกค้างอยู่  ปรากฎการณ์นี้เคยเกิดขึ้นในสมัยเลิกทาสใหม่ๆ มีคนไทยบางกลุ่มรุ้สึกว้าเหว่ ขาดที่พังพิง มีจิตใจแปรปรวน ไม่รุ้จะดำรงชีวิตต่อไปยังไงหากขาดผู้ที่ออกคำสั่งให้หันซ้ายหันขวา คนเหล่านี้ จะไม่รุ้จักว่า จะทำมาหากินต่อไปอย่างไร ถ้าขาดอาหารและสิ่งของเหลือใช้จากผู้ที่เรียกว่าเจ้านาย  คนเหล่านี้ จะไม่สามารถคิดสิ่งใหม่ๆได้ นอกจากคำพูดของเจ้านายมาพูดต่อเท่านั้น เนื่องจากระบบทาส ตั้งแต่สมัยยุคประวัติศาสตร์ได้ลดทอนความเป็นมนุษย์ ให้มีสภาพเหนือเพียงแค่การใช้สันชาตญานเท่านั้น

สามารถพบเห็นคนกลุ่มนี้หาก ลองจินตนาการกลับไปในยุคทาส หรือดูละครย้อนยุค ( ตอนนี้มีเรื่อง มาลัยสามชาย ออกช่อง 5 ตอน 11 โมง จ-ศ พอดีเลย อิอิ )   หากเจ้านายไม่อยู่ คนเหล่านี้ก็ขโมยข้าวของ เล่นการพนัน คบชู้สู่ชาย  ถ้าหากเจ้านายอยู่ก็จะใส่ร้ายป้ายสีเพื่อนทาสด้วยกัน เพื่อที่ตัวเองจะได้ได้หน้า  ดังนั้นกระบวนการที่ยังปรากฎอยู่ในละครเช่นนี้ ล้วนเกิดจากระบอบทาส ศักดินาทั้งนั้น บุคคลเหล่านี้ชอบรังคนอ่อนแอกว่า เช่น ไปยิงคนไม่มีอาวุธ ดังเช่นเหล่าทหารมหาดเล็กทั้งหลาย แต่กลับกลัวตัวสั่น กับผู้ที่มีอาวุธเหมือนกันในสามจังหวัดชายแดนใต้

คนเหล่านี้ไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์ ยืนด้วยขาตัวเองไม่เป็น หากแต่จะพอใจที่อยากจะตกค้างในเวทีประวัติศาสตร์ และคนเสื้อแดงไม่ได้มีสภาพจิตใจต่ำแต่อย่างใด เพียงแค่มีจิตใจเป็นเสรีชนและเรียกร้องความยุติธรรม..

แล้วคุณล่ะคะ.. สภาพจิตใจสูงส่งแค่ไหนกันจ๊ะตัวเองงง ?

แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 55 09:57:08

จากคุณ : มารร้ายวัวน้อย
เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 09:43:31 A:27.130.175.228 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com