
การเสวนาทางวิชาการขับเคลื่อนข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่หอประชุม ศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อ 22 มกราคม 2555
มีเรื่องที่ฮือฮาและถูกขยายวงไปอย่างมากเรื่องหนึ่งก็คือ ประเด็นเนื้อหาในรัฐธรรมนูญในข้อที่ 4 ที่บอกว่า
"4. ความเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญ
- รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัตินั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้
- กำหนดให้มีองค์กรควบคุมกฎหมายมิให้ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ
- หน้าที่ในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญของกษัตริย์
- กำหนดให้ประมุขของรัฐต้องสาบานตนว่าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและพิทักษ์ไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญ ก่อนเข้ารับตำแหน่ง"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1327226024&grpid=01&catid=&subcatid=
ประเด็นเนื้อหาที่นิติราษฎร์ถูกโจมตีอย่างมากก็คือ การให้รัฐธรรมนูญกำหนดให้ประมุขของรัฐต้องสาบานก่อนรับตำแหน่งนั่นเอง
ผมก็งงครับ งงว่า ทำไมต้องโจมตี ด่า ป้ายสีนิติราษฎร์ว่าหมิ่น ว่าจ้องล้มสถาบันในเรื่องนี้
ประมุขของรัฐ ของประเทศไทยก็คือพระมหากษัตริย์ ซึ่งรัฐธรรมนูญทุกฉบับก็กำหนดไว้ตลอดมาว่า พระมหากษัตริย์ทรงอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ นอกจากพระมหากษัตริย์แล้ว กฎหมาย บทบัญญัติใด ข้อบังคับใด ประชาชนทุกคนก็ล้วนอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ จะขัดรัฐธรรมนูญไม่ได้ และต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญทั้งนั้น
เพราะรัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุดของประเทศ
แล้วการบัญญัติให้ประมุขของรัฐสาบานตนว่าจะพิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญมันมีอะไรผิดปกติ ?
เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องหมิ่นพระเกียรติองค์ประมุขของรัฐนะครับ แต่คือการปกป้องรัฐธรรมนูญ ปกป้องสถาบัน บ้านเมืองจะได้ต่อเนื่อง เดินหน้า พัฒนาอะไร ๆ ไปตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขได้อย่างไม่มีใครแทรกเข้ามาฉีกรัฐธรรมนูญเพื่อยึดอำนาจเหมือนที่ผ่าน ๆ มา
คิดดูสิครับ เมื่อมีการปฏิวัติ สถาบันและประมุขของรัฐก็ต้องอยู่ภายใต้อำนาจของคณะปฏิวัติที่ตอนนั้นถือว่าเป็นองค์รัฐาธิปัตย์ ใหญ่ที่สุดในประเทศ ประมุขแห่งรัฐยังต้องยอมคล้อยตาม ซึ่งทำให้คณะปฏิวัติได้รับ "ความชอบธรรมอันไม่ชอบธรรม" ขึ้นมาทันที
ทีนี้ หากประมุขของรัฐได้สาบานว่าจะปกป้องรัฐธรรมนูญ ต่อให้คณะปฏิวัติทำอย่างไร ประมุขของรัฐก็ไม่มีทางที่จะทำผิดคำสาบานได้ (โดยปกติ ประมุขของเราก็ไม่เคยทำอะไรผิดรัฐธรรมนูญอยู่แล้วครับ ทรงปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญทุกประการ ไม่มีข้อบกพร่องใด ๆ ทั้งสิ้น)
เมื่อประมุขแห่งรัฐ ซึ่งก็คือพระมหากษัตริย์ไม่ผิดคำสาบาน คณะปฏิวัติจะหา "ความชอบธรรมอันไม่ชอบธรรม" ได้จากที่ไหนครับ มันก็โดนกวาดตกเวทีไปจากประเทศไทยเท่านั้นเอง
สถาบันพระมหากษัตริย์ องค์พระประมุข คือสิ่งที่คนไทยรัก หวงแหน เคารพ เทิดทูน พวกปฏิวัติรู้ดี จึงสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองด้วยการแอบอิงสถาบันและองค์พระประมุข เมื่อพระประมุขต้องปฏิบัติตามคำสาบาน ประชาชนย่อมไม่เอาด้วยกับพวกปฏิวัติ คณะปฏิวัติมันก็หมดทางไป
ชัด ๆ อย่างนี้ แล้วใครมันจะกล้าปฏิวัติ !!!
ประเทศไทย ถ้าไม่มีปฏิวัติ ป่านนี้ แซงหน้าพม่ากว่านี้เยอะครับ 
ข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ คือข้อเสนอที่ปรารถนาดีต่อสถาบัน ต่อบ้านเมือง ต่อประชาธิปไตย
ผมก็แปลกใจ ที่คนที่อ้างอะไรออกมาก็บอกจงรักภักดี รักบ้านรักเมือง แต่ดันด่านิติราษฎร์ ก็แหงล่ะ ไอ้พวกที่ด่านิติราษฎร์นี่ ถ้าไม่ใช่พวกชอบปฏิวัติ ก็พวกได้รับประโยชน์จากการปฏิวัติทั้งนั้น จะไม่ให้พวกด่านิติราษฎร์ได้ยังไง
แถมด่าด้วยการโหนสถาบันมาด่าซะด้วยสิ
เฮ้อ...
ขอแปะอะไรให้อ่านเล่นครับ ใครอยากรู้รายละเอียดก็คลิกลิงค์อ่านยาว ๆ เอาเองครับ
"...ตี ๑ ของวันถัดไป การแทรกแซงทางการเมืองครั้งสำคัญของกษัตริย์ในประวัติศาสตร์สเปนก็เกิดขึ้น เมื่อฆวน คาร์ลอส ตัดสินใจแถลงผ่านโทรทัศน์และวิทยุ ไม่สนับสนุนการรัฐประหารครั้งนี้และเรียกร้องให้กองทัพและประชาชนร่วมมือกันปกป้องประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ ๑๙๗๘ พระองค์ยืนยันว่าทหารมีหน้าที่ป้องกันรัฐบาลที่ชอบธรรมและชอบด้วยกฎหมายตามระบอบประชาธิปไตยอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น
เมื่อขาดแรงสนับสนุนจากฆวน คาร์ลอส รัฐประหารก็ไม่สำเร็จ บรรดาผู้เข้าร่วมกลายเป็นกบฏโดนลงโทษจำคุก โดยเฉพาะแกนนำอย่าง พลเอก Alfonso Armada และพันโท Antonio Tejero ศาลตัดสินให้จำคุก ๓๐ ปี
เป็นอันว่า ฆวน คาร์ลอส ได้ปลดปล่อยประชาธิปไตยสเปนให้พ้นจากการครอบงำของกองทัพพร้อมกับสร้างความมั่นคงให้กับสถาบันกษัตริย์..."
http://onopen.com/2006/01/1186
.......
ปล. ท่านขุนไกล ไหนรับปากขวัญว่าจะมาเรือนเล็กก่อน ทำไมขึ้นเรือนใหญ่ก่อนล่ะ เห็นเขาเป็นของว่างรึไงย่ะ ไม่หิวไม่มา ชิ
แถมจ้องเขี่ยเราทิ้งซะอีก แหม ๆ จะคอยเสิร์ฟโอเลี้ยง อย่าลืมสิ ที่พูดกันไว้ว่า เราต้องมีเรา ขุนไกลอยู่ไหน ขวัญอยู่นั่น นี่เล่นเตรียมชิ่งด้วยการล็อคตำแหน่ง "ไกล" ไว้เลยนะ
ขุนไกลจ๋า อีกสี่ห้าวันถ้าไม่เห็นขวัญ เอาค็อปเตอร์ไปรับที่หลังคาเรือนจำนะจ๊ะ หนีไปอยู่ "เรือนมยุราแบกแดด" ด้วยกัน