อดีตพระเอกบิณฑ์ เป็นอีกคนหนึ่ง ที่วันนี้ผมต้องเขียนถึงด้วยความสะเทือนใจ
สะเทือนใจที่ต้องเขียนถึงคนที่ผมนิยมชมชอบมาแต่อดีตในฐานะนักแสดงอาชีพผู้มีส่วนประโลมชีวิตให้ผมอย่างน้อยก็รู้สึกรื่นรมย์ใจในบทบาทการแสดงภาพยนตร์ หรือในรายการทีวีของเขา มาเนิ่นนาน
แต่เมื่อมาถึงยุคที่ชาติแตกสามัคคี และเขาผู้นี้เลือกยืนยังอีกฟากหนึ่งของขอบถนนการเมือง โดยส่วนตัว ความนิยมชมชอบที่ผมมีต่อพระเอกบิณฑ์ไม่ได้ลดลง เพียงแต่เกิดความรู้สึกใหม่เข้ามาแทรก
เป็นความรู้สึกใหม่ที่เกิดขึ้นบันดลหลังจากเห็นปกเอเอสทีวีผู้จัดการขึ้นใบหน้าของเขาพร้อมคำโปรยที่ก้าวร้าว
ที่จริง พระเอกบิณฑ์ มีสิทธิ์ และเสรีภาพแสดงความรู้สึกได้เต็มที่ต่อสิ่งที่ตนรักและเทิดทูน
ก้าวร้าว หรือกักขฬะอย่างไรก็ทำได้ หากพระเอกบิณฑ์มีสถานะเดียวกับนายสนธิ ลิ้มทองกูล
แต่กับนักแสดงอาชีพ หรือจะอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวเนื่องกับมวลชน.....บิณฑ์เสี่ยงมากที่เลือกข้าง
เพราะยุคนี้ พศ.นี้ การแซงชั่นด้วยความรู้สึกที่คนกลุ่มหนึ่งมีต่อธุรกิจของคนอีกกลุ่มหนึ่ง กำลังถูกนำมาเป็นเครื่องมือทรงพลังกดดันอีกฝ่ายอย่างได้ผล
เหมือนเช่นที่กำลังเกิดกับปัญญา-เรณู 2 ของบิณฑ์นี่ไง
ภาพยนตร์ของบิณฑ์ส่ออาการได้เงินน้อย ไม่ได้หมายถึงว่าด้อยคุณภาพการสร้างและกำกับเสมอไป
แต่....ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าผู้คนอีกฟากเขารังเกียจคุณบิณฑ์...เมื่อเขาทราบพฤติกรรมของบิณฑ์
เหมือนเช่นที่ผมเกิดอาการรังเกียจบิณฑ์แบบปัจจุบันทันด่วนในขณะนี้....
เป็นความรังเกียจในระนาบเดียวกันกับที่รังเกียจสนธิ ลิ้มทองกูล นั่นเทียวแหละขอรับ !
แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 55 05:17:45