ที่น่าสงสัยคืออะไรคือเหตุผลที่วรเจตน์ต้องเสนอออกมาแบบนี้ หากจะวรเจตน์จะอ้างว่า ให้มีการปฏิบัติเช่นนี้ก็เพื่อป้องกันการปฏิวัติรัฐประหารในอนาคต จะมิกลายเป็นว่าวรเจตน์กำลังยึดโยงทางอ้อมว่าสถาบันได้เกี่ยวพันกับการปฏิวัติรัฐประหารหรือ จึงไปเสนอว่าต้องให้มีการสาบานเช่นนั้นเพื่อป้องกันการปฏิวัติรัฐประหาร หากวรเจตน์อ้างว่า ไม่ใช่เพื่อป้องกันการปฏิวัติรัฐประหาร ถ้าเช่นนั้นเสนอมาเช่นนี้เพื่ออะไร ที่ผ่านมาสาเหตุที่เกิดการปฏิบัติรัฐประหาร มิใช่เกิดจากผลของการกระทำของพวกนักการเมืองหรอกหรือ

หากจะเสนอให้มีการสาบานตน ทำไมไม่เสนอในสิ่งที่น่าจะเหมาะสมกับสังคมไทยมากกว่า อาทิเช่น ให้ สมาชิกสภาทั้งสองและผู้บัญชาการเหล่าทัพ ถวายสัตย์ปฏิญญา  สาบานว่าจะจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และจะพิทักษ์รัฐธรรมนูญ  เพิ่มเติมจากปัจจุบัน ที่รัฐธรรมนูญบัญญัติให้เฉพาะแต่ องคมนตรี คณะรัฐมนตรี และผู้พิพากษาจะต้องถวายสัตย์ปฏิญญาณ ก่อนเข้ารับหน้าที่ และผู้บัญชาการทหาร จะมีโอกาสถวายสัตย์ปฏิญญาอยู่เฉพาะในวันราชวัลลภ แต่ถ้อยความสัตย์ในวันราชวัลลภยังไม่ได้ครอบคลุมถึงการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ เพราะเป็นการถวายสัตย์เฉพาะแต่ในบริบทของวันราชวัลลภ ( 1 , 2 )

หากจะอ้างประเทศอื่น เช่น อังกฤษ ก็มิเป็นความจริง เพราะอังกฤษนั้น มีประเพณีที่องค์พระกษัติรย์ทรงสาบานตนเมื่อได้ทรงครองราชย์ไปแล้ว  ไม่ได้ทรงสาบานขณะจะทรงขึ้นครองราช(ตามที่วรเจตน์ใช้คำว่าก่อนเข้ารับตำแหน่ง) แต่ทำหลังจากทรงครองราชย์ไปแล้ว เช่น ควีนอลิซเบทที่ 2 ทรงเข้าพิธีสาบานตนและทรงพระราชทานสัตย์สาบาน เมื่อทรงครองราชย์ไปนาน 1ปี กับ 4 เดือน (ทรงครองราชย์ 6 February 1952 แต่ Coronation 2 June 1953 ) แต่วรเจตน์มาดัดแปลงเป็น จะให้มีพระราชทานสัตย์สาบานก่อน

การสาบานพระองค์ของพระมหากษัตริย์อังกฤษมีมานาน ตั้งแต่คศ.973 ก่อนอังกฤษจะมี magna carta ในคศ.1215  ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้อนที่ถือว่ากษัตริย์อังกฤษจะอยู่ภายใต้กฏหมาย และในคำสาบานขององค์พระมหากษัตริย์อังกฤษ ไม่กล่าวถึงการปกป้องรักษารัฐธรรมนูญ  แม้อาจจะอ้างว่าเป็นเพราะอังกฤษเป็นประเทศที่ไม่มีรัฐธรรมนูญที่เป็นฉบับเป็นลายลักษณ์อักษร แต่คำสาบานจะกล่าวถึงการปกครองอังกฤษและประเทศเครือจักรภพตามกฏหมายและธรรมเนียมของประเทศนั้นๆ จะทรงใช้พระราชวินิจฉัยด้วยกฏหมายและความเป็นธรรม และด้วยพระเมตตา จะทรงรักษากฏของพระเจ้าและคำสั่งสอนของพระเยซู(Gospel) จะทรงรักษาไว้ซึ่ง Protestant Reformed Religion ในเขตสหราชอาณาจักร  จะทรงรักษาไว้ซึ่ง Church of England จะทรงทำนุบำรุงพระสงฆ์และผู้ที่ทำหน้าที่ทางศาสนา

หากจะอ้างสเปน ก็มิเห็นหรือว่าการสาบานตนก่อนขึ้นครองราชย์มิได้ช่วยป้องกันการปฏิวัติรัฐประหารในสเปน ดังในปีคศ. 1923  Miguel Primo de Rivera ได้ทำรัฐประหารสำเร็จ และกษัตริย์ Alfonso ก็ทรงประทานอนุมัติให้  Miguel Primo de Rivera  ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งๆที่มาจากการรัฐประหาร จนที่สุด Miguel Primo de Rivera ได้อยู่ดำรงตำแหน่งนานตั้งแต่ 15 กันยายน  1923 ถึง 28 มกราคม 1930

อีกทั้งน่าสังเกตุว่าวรเจตน์มีพื้นฐานความคิด ที่ไม่ระวังการใช้คำให้เหมาะสม กล้าใช้คำที่ใช้กับสามัญชนทั่วไป “เข้ารับตำแหน่ง”  ในเรื่องที่เกี่ยวกับองค์พระมหากษัตริย์   แสดงถึงพื้นฐานความคิดที่น่าสงสัยของวรเจตน์ นักเรียนทุนมหิดลคนนี้