 |
อีกหนึ่งคดี ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว ถูกกลั่นแกล้งครับ...วันๆไม่ยอมทำการทำงาน หาเรื่องใส่ร้ายทักษิณอย่างเดียว
|
 |
อีกหนึ่งคดี ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว ถูกกลั่นแกล้งครับ...วันๆไม่ยอมทำการทำงาน หาเรื่องใส่ร้ายทักษิณอย่างเดียว
เมื่อวันที่ 31 มกราคม ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร และพวกรวม 5 คน ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่เรียกเก็บหรือตรวจสอบภาษีอากร, ร่วมกัน ละเว้นไม่เรียกเก็บภาษีอากร และเป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 154 และ มาตรา 157 กรณีงดเว้นการคำนวณภาษีที่ คุณหญิง พจมาน ณ ป้อมเพชร์ อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โอนหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 4.5 ล้านหุ้น มูลค่า 738 ล้านบาท ให้กับ นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรมของ คุณหญิงพจมาน ทำให้รัฐได้รับความเสียหายที่ไม่จัดเก็บภาษี จำนวน 270 ล้านบาท ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยทั้ง 5 คน ไม่ได้มีหน้าที่ เรียกเก็บภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร เกี่ยวกับการเรียกเก็บ ภาษีอากร อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น และศาลอุทรณ์เห็นว่าจำเลยทั้ง 5 คน ไม่ได้มีเจตนาเอื้อประโยชน์ให้นายบรรณพจน์ แต่เป็นการ ตอบข้อหารือตามกฎหมายเท่านั้น ซึ่งการที่ศาลชั้นต้นพิพากษา ยกฟ้องจำเลยทั้ง 5 คน นั้นชอบแล้ว ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษายกฟ้อง ยืนตามศาลชั้นต้น
ก่อนหน้านี้ ศาลอาญามีคำพิพากษา ยกฟ้องคดีที่อัยการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร, นายวิชัย จึงรักเกียรติ อดีตผู้อำนวยการ.สำนักงานกฎหมาย กรมสรรพากรและอดีตผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ, น.ส.สุจินดา แสงชมพู อดีตนิติกร 9, น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีตนิติกร 8 และอดีตผู้อำนวยการ สำนักกฎหมาย และ น.ส.กุลฤดี แสงสายัณห์ อดีตนิติกร 7 ว. เป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับ ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ เรียกเก็บ หรือตรวจสอบภาษีอากร ร่วมกันละเว้นไม่เรียก เก็บภาษีอากร และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลอาญา 154 และ 157 กรณีงดเว้นการคำนวณภาษีกับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการโอนหุ้นบริษัท ชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น (มหาชน) หรือชินคอร์ป 4.5 ล้านหุ้น มูลค่า 738 ล้านบาท ให้นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรมคุณหญิงพจมาน เมื่อปี 2540
เหตุผลที่ศาลยกฟ้องนั้น เห็นว่า ไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่า จำเลยมีเจตนาช่วยเหลือคุณหญิงพจมานและนายบรรณพจน์ ในการหลีกเลี่ยงภาษี แต่เป็นการใช้อำนาจในการพิจารณา ข้อกฎหมายที่มีการเสนอขึ้นมาตามลำดับจาก สำนักกฎหมาย นอกจากนั้นจำเลยยังไม่มีอำนาจในการเก็บภาษีดังกล่าว แม้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) จะชี้มูลว่าจำเลย มีความทั้งวินัยและอาญาก็เป็นดุลพินิจของ ป.ป.ช. ศาลไม่จำเป็นต้องพิพากษาให้เป็นไปตามนั้น
สำหรับคดีดังกล่าวคณะกรรมการป.ป.ช.มีมติเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2549 ว่า นายศิโรตม์และพวกรวม 5 คน เป็นเจ้าพนักงาน ละเว้นการไม่เก็บภาษี และเป็น เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมาย อาญา ม.154, 157 และมีความผิดวินัยร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ม.82 วรรค 3, ม. 85 วรรค 2 และ ม.98 วรรค 2
ซึ่ง ป.ป.ช.พบข้อเท็จจริงเรื่องการโอนหุ้นชินฯระหว่าง นายบรรณพจน์ กับ น.ส.ดวงตา วงศ์ภักดี คนรับใช้ จำนวน 4.5 ล้านหุ้น มูลค่า 738 ล้านบาท ผ่าน ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งการซื้อขายหุ้นดังกล่าว ผู้ซื้อและผู้ขาย ได้เสียค่าธรรมเนียมแก่โบรกเกอร์ เป็นเงิน 7.38 ล้านบาท
แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วไม่มีการซื้อขายหุ้นดังกล่าวจริง เป็นเรื่องที่คุณหญิงพจมาน ให้หุ้นนายบรรณพจน์ ซึ่งกรณีนี้ กรมสรรพากรเห็นว่า การได้รับหุ้นดังกล่าวของนายบรรณพจน์ จากคุณหญิงพจมาน เป็นการได้รับหุ้นโดยเสน่หา เนื่องในพิธี หรือตามขนบธรรมเนียมประเพณี เข้าลักษณะเป็นการได้รับ โดยอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยา จึงไม่ต้องเสียภาษี ตามประมวลรัษฎากร
อีกหนึ่งคดี ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว ถูกกลั่นแกล้งครับ...คนพวกนี้วันๆไม่ยอมทำการทำงาน หาเรื่องใส่ร้ายทักษิณอย่างเดียว...การกล่าวหาทั้งหมด ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเอาผิดได้เลยสักคดีเดียว...จะมีก็แต่ คดีที่เป็นข้อกังขาเรื่องการประมูลที่ดินย่านรัชดา ที่ "เมียผิด-ผัวติดคุก" ซึ่งคดีนี้ศาลตัดสินว่าการประมูล เป็นโมฆะเสียด้วยซ้ำ
จากคุณ |
:
ห่างไกล
|
เขียนเมื่อ |
:
31 ม.ค. 55 12:56:44
A:183.89.94.89 X:
|
|
|
|  |