องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปลี่ยนรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊กเป็นสีดำ ประท้วงคำสั่งห้าม นิติราษฎร์ ใช้พื้นที่เคลื่อนไหวมาตรา 112 จี้ให้ทบทวนมติ พร้อมเรียกร้องอธิการบดีชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร อ้างกระทบสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ด้านกลุ่ม วารสารฯต้านนิติราษฎร์ นัดแสดงพลัง 2 ก.พ.นี้
เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 31 ม.ค. องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เปลี่ยนรูปภาพแสดงตัวตน (โปรไฟล์) ที่หน้าเฟซบุ๊กเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 31 ม.ค. จากสัญญลักษณ์สีแดงบนพื้นสีเหลือง (ภาพประกอบ 1) เป็นสัญญลักษณ์สีขาวบนพื้นสีดำ มีข้อความกำกับว่า เสรีภาพทางความคิด ไม่สามารถใช้งานได้ขณะนี้ ขออภัยในความไม่สะดวก (ภาพประกอบ 2)
หลังจากนั้นในเวลา 01.21 น. องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เผยแพร่ แถลงการณ์ ผ่านเฟซบุ๊ก "องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์" มีข้อความดังนี้
แถลงการณ์ องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ลิงค์แถลงการณ์)
...กรณี มติคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยไม่อนุญาตใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยเพื่อเคลื่อนไหว มาตรา ๑๑๒...
ตามที่ได้มีข้อเท็จจริงปรากฏว่า ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้เขียนข้อความผ่านทาง Facebook ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยได้มีมติเป็นเอกฉันท์ ซึ่งมีข้อความว่า ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่มหาลัยเพื่อเคลื่อนไหวกรณีมาตรา ๑๑๒ อีกต่อไป เพราะมหาลัยเป็นสถานที่ราชการ การอนุญาตต่อไปอาจทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นการดำเนินการของมหาลัยหรือมหาลัยเห็นด้วยกับการดำเนินการดังกล่าวข้างต้น อีกทั้งอาจนำมาซึ่งความขัดแย้งอย่างรุนแรงภายในบริเวณมหาวิทยาลัย จนมหาวิทยาลัยไม่อาจดูแลความปลอดภัยของบุคคลและทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยได้ นั้น องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ในฐานะผู้แทนของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เห็นว่ามติที่มีผลผูกพันดังกล่าวมีเนื้อหาที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) จึงขอแสดงจุดยืนที่มีต่อมติดังกล่าว ดังนี้
1) อมธ. ร้องขอให้ทบทวนมติของคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย ตามที่ท่านอธิการบดีได้ระบุไว้ข้างต้น เพราะมติดังกล่าวมีเนื้อหาที่กระทบต่อสาระสำคัญแห่งสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
2) มหาวิทยาลัยเปรียบได้กับห้องทดลองในทางสังคมศาสตร์ เป็นสถานที่หลักในการขับเคลื่อนพัฒนาการในทางวิชาการ เปรียบได้กับพัฒนาการในทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องอาศัยห้องทดลองเป็นสำคัญ การไม่อนุญาตให้บุคลากรในมหาวิทยาลัยแสดงความคิดเห็นย่อมไม่ต่างอะไรกับการทำลายเสาค้ำยันในความเป็นมหาวิทยาลัยที่มีเสรีภาพในทางความคิดทิ้งไป
3) เพื่อความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว จึงขอเรียกร้องให้ท่านอธิการบดี ชี้แจงถึงมติดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นการทั่วไป ทั้งนี้เพื่อความเข้าใจโดยทั่วกัน
สุดท้ายนี้ อมธ.ยังคงยืนยันในจุดยืนแห่งการมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเรายังคงเคารพในความเห็นที่แตกต่างไม่ว่าจะมาจากกลุ่มใดก็ตาม ตราบเท่าที่ความคิดเห็นเหล่านั้นยังคงอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย
ทั้งนี้ อมธ.ในฐานะผู้แทนของนักศึกษาซึ่งมีความหลากหลายทางความคิด ขอรับรองว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไม่ใช่กลุ่มทางการเมืองใด และไม่มีกลุ่มทางการเมืองใดเป็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หากแต่ความสวยงามในความคิดเห็นที่แตกต่างคือภาพสะท้อนแห่งความเป็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่แท้จริง
ด้วยจิตคารวะ
คณะกรรมการบริหารองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9550000014261
ขอคารวะองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
