ผมว่า "พรรคผัวเมียธิปัตย์" นี่แหละครับ
ที่แสบ แซ่บ ดุ เด็ด เผ็ด มันส์ ยิ่งกว่าซะอีก
ชนิดที่ "ซ้อเจ็ด" ปากตะไกรแห่งค่ายท่าพระอาทิตย์ยังไม่กล้าเขียนถึง....

ก็..แหมมมม....มั่วซั่วสลับกันไปมาซะอย่างงั้น.....

กรณีของปูนั้น
มันค่อนข้างชัดเจนว่าการไม่จดทะเบียนสมรส
เป็นเงื่อนไขในทางธุรกิจ ที่คนทำธุรกิจก็ทำแบบนี้กันมากมาย

แต่กรณีของ "พรรคผัวเมียธิปัตย์"  นี่ซิ.....ที่มองยังไงก็ไม่เข้าใจครับ

ว่ากันตั้งแต่ "ผู้ชายใบมีดโกน"
ที่จะว่าไปแล้วในตอนหนุ่มๆถือว่าหน้าตาดี
ดูแลรูปร่าง ดูแลสุขภาพ อย่างมีพลานามัย
แถมยังไว้ผมทรงมดแดงชะเง้อ ที่โดนใจสาวแก่แม่หม้าย

แต่ผู้ชายใบมีดโกน
ผู้ซึ่งในชีวิตไม่เคยเลี้ยงกาแฟใคร
กลับใช้ชีวิตคู่กับผู้หญิงจากตระกูลใหญ่
โดยที่ไม่ได้จดทะเบียน และใช้นามสกุลคนละนามสกุลเช่นกัน

แหมมมม....เหมือนปูไม่มีผิดเลย...ไอ้พรรคนี้มันด่าใครแล้วเข้าตัวเองหมดเลยคุณโยม....

ผู้ชายใบมีดโกนโดนช่าวลือกระหน่ำว่า
เขาผู้นี้ "ยอมรับลูก แต่ไม่ยอมรับเมีย"
จนทำให้ครั้งนึงว่ากันกันว่าเสียงตอบรับอัตโนมัติที่เครื่องโทรศัพท์ของฝ่ายหญิงนั้น

ถึงขนาดอัดข้อความตอบรับแบบขมขื่นประมาณว่า

"สวัสดีค่ะ ขอความกรุณาฝากข้อความเอาไว้
เพราะเราสองแม่ลูกได้ตายจากไปแล้ว อย่างน้อยก็เป็นการตายจากไปในความเป็นมนุษย์"

เท็จจริงอย่างไรอย่าเชื่อผมนะครับ เพราะในยุคนั้น "ข่าวลือ" แบบนี้ก็แพร่หลายพอสมควร

นอกจากผู้ชายใบมีดโกนแล้ว
ยังมีคู่ของหนุ่มใหญ่กำนันดังเมื่อไข่เค็ม
ที่ "เซ้ง" เมียเพื่อนมาทำเมียตัวเองอย่างหน้าตาเฉย
แถมพี่ชายของเมียเพื่อนคนนี้ ยังมีตำแหน่งใหญ่โตในพรรค และเป็นเพื่อนกับตัวเองอีกด้วย

ส่วน "เพื่อนผู้โดนเซ้งเมีย" ก็ไม่ได้ยี่หระอะไรหรอกครับ
พี่แกก็ยังทำหน้าแป๊ะยิ้มหัวเราะในแบบหัวเหน่งๆได้อย่างสบายๆ
เพราะแป๊ะยิ้มหัวเหน่งผู้นี้ ก็ได้เมียใหม่เป็น "นางงามปลัดขิก" คนสวยมานอนกอด

นี่ยังไม่นับ "นักการเมืองหนวดงาม" ในพรรคอีกคน
ที่ท้ายที่สุดได้เมียผู้ซึ่งเป็นอดีตเมียของนักการเมืองพรรคการเมือง "พรรคสุพรรณบุรี"  (ในตอนนั้น)  มาเป็นเมียตน

ทั้งหลายทั้งปวงที่ว่ามา
เป็น "นิทานก่อนนอน" ที่ไม่มีอยู่จรินะครับ
ทั้งชื่อพรรคการเมือง ทั้งตัวละครต่างๆ ล้วนแต่อยู่ในจินตนาการของกระผมทั้งน้านนนนนนน...

แต่...แหมมมมมม.....
เรื่องของ "พรรคผัวเมียธิปัตย์" ที่ว่านี้
ทำเอาเรื่องของนายกฯปูกลายเป็นเด็กอนุบาลไปเลยวุ๊ยยย.......

เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้แหละ....คุณโยมมมมมมมม.....