มีเพื่อนถามผมว่า ทำไมประเทศไทยที่พร้อมไปเสียทุกด้านจึงยังคงล้าหลังอยู่อย่างนี้
|
 |
ผมไม่รู้จะตอบเขายังไง ก็เลยตอบไปอย่างดุ่ยๆว่า คงเป็นเพราะประเทศไทยมีคนไทยมั่ง คนไทยที่พร้อมจะดูถูกคนไทยด้วยกันเอง คนไทยที่มีความเชื่อว่า มีแต่พวกมีการศึกษา พวกปัญญาชนเท่านั้นที่จะพัฒนาประเทศได้ และยังเป็นคนไทยที่มักจะขาดความมั่นใจ แล้วพาลเชื่ออย่างง่ายๆกับความคิดความอ่านของพวกปัญญาชนเหล่านี้ ทั้งๆที่หลายปีที่ผ่านมากับปัญญาชนหลายต่อหลายท่าน ที่พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า ปัญญาชนไม่ใช่แค่มีการศึกษาเท่านั้น แต่คนไทยก็ยังไม่นำพา
ยังเชื่อปัญญาชนอย่างคุณแก้วสรรที่เป็นคู่ปฏิปักษ์สอบสวนเอง สั่งฟ้องเอง แถมยังเป็นพยานให้กับจำเลยที่ตัวเองสั่งฟ้องก็ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่นักเลงหน้าข้าวหน้าเหล้าเขาไม่ทำกัน แต่คุณแก้วสรรก็ทำให้พวกเราดูมาแล้ว
ยังเชื่อปัญญาชนอย่างคุณตุลย์ แทนที่จะนำความรู้ความสามารถที่ร่ำเรียนมาไปช่วยคนกำเนิดชีวิตใหม่ กลับนำคนมายุยงส่งเสริมให้รัฐบาลเข่นฆ่าประชาชนซะงั้น แล้วยังพยายามจะสร้างความแตกแยกให้กับสังคมต่อไป
ยังเชื่อปัญญาชนคุณสุรยุทธที่ยังไม่รู้ว่า ที่ดินตรงไหนครอบครองได้ ตรงไหนเป็นที่ป่าสงวนที่บุกรุกไม่ได้ มาบริหารประเทศ แล้วประเทศจะเดินหน้าได้อย่างไรกัน
ยังเชื่อปัญญาชนอย่างคุณสนธิบัง ลุกขึ้นมาฉีกรัฐธรรมนูญ ตั้ง ปปช. กกต. แล้วก็กลับมาเป็น ส.ส. จากรัฐธรรมนูญที่ตัวเองเป็นคนร่างขึ้น แล้วอ้างว่า ตอนนั้นจำเป็นต้องทำรัฐประหาร แปลกไหมครับพี่น้อง
ยังเชื่อปัญญาชนอย่างคุณสนธิ ลิ้ม คนที่กู้เงินไม่จ่าย แต่จะมากู้ชาติ จนคนเสื้อเหลืองน้อยลง น้อยลง ก็ยังลุกขึ้นมาสั่งการให้กองทัพปฏิวัตีอีกแน่ะ เชื่อเขาเลย
ยังเชื่อปัญญาชนอย่างคุณจำลอง ที่ครั้งหนึ่งพาคนไปตายเพื่อขับไล่นายกฯจากเผด็จการ แต่ครั้งนี้กลับพาคนมาตายเพื่อขับไล่นายกฯจากการเลือกตั้ง
ยังเชื่อปัญญาชนอย่างคุณอภิชาต ให้มาดูแลการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิยุติธรรม ทั้งๆที่คุณอภิชาตยังไม่รู้เลยว่า นายทะเบียนพรรคการเมืองจะต้องแสดงความคิดเห็นในเรื่องการยุบพรรค
ยังเชื่อปัญญาชนอย่างคุณจรัล ที่ครูสอนทำอาหารเป็นลูกจ้าง ส่วนอาจารย์มหาวิทยาลัยเป็นผู้ให้ความรู้
ยังเชื่อปัญญาชนอย่างคุณสมคิด ที่เป็นถึงอธิการบดี แต่ยังเข้าใจว่ารัฐบุรุษอย่างคุณปรีดีเป็นกลุ่มเดียวกับพวกทำรัฐประหาร และยังเข้าใจว่า มหา’ลัยเป็นสถานที่ราชการที่ห้ามแสดงความคิดเห็น แม้จะตามหลักวิชาการก็ตาม
ยังเชื่อปัญญาชนอย่างคุณเปลว สีเงิน ที่ตลอดเวลาที่ใช้สื่อฯในการด่าตระกูลชินวัตรอย่างเดียว
ยังเชื่อปัญญาชนอย่างคุณวีระ ที่รู้ก็รู้ว่าเข้าไปแล้วเดี๋ยวก็โดนจับ แล้วก็โดนจริงๆ
ยังเชื่อปัญญาชนอย่างคุณสุเทพแอบหอบเอกสารมากมายไปพบฮุนเซ็น เพียงเพื่อกินแกงเลียง
ยังเชื่อปัญญาชนอย่างคุณอภิสิทธิ์ ที่ต้องการยึดเวลายุบสภาออกไปอีกไม่กี่เดือน โดยมี 91 ชีวิตและบาดเจ็บอีกเกือบสองพันเป็นข้อแลกเปลี่ยน
เชื่อปัญญาชนอย่างคุณครรชิต ที่ออกมาแสดงสปิริตขอถอนเอกสิทธิ์คุ้มครอง แต่ไม่ยอมแสดงความบริสุทธิ์ที่จะมอบปืนกับรถของกลางให้ตำรวจพิสูจน์
เชื่อปัญญาชนอย่างคุณธีรยุทธ ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ทุกครั้งที่มีรัฐบาลที่ชอบธรรม แต่กับรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม ตรูไม่รู้ ตรูป่วย
เพื่อนผมได้ฟังถึงตรงนี้รีบตัดบท “พอๆ ได้ยินแค่นี้ก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว สรุปง่ายๆ ที่เรายังล้าหลังอยู่เนี่ย เพราะเรามีปัญญาชนมากเกินไป ชิมิ”
ผมเลยต้องตอบเขาไปว่า “ปัญญาชนมากเกินไปก็จริง แต่ปัญญาอ่อนที่ยอมรับฟังพวกนี้มีมากกว่าต่างหากครับ เราจึงต้องเปลี่ยนจากที่กำลังจะเป็นเสือตัวที่ห้า กลายมาเป็นแมวอมโรคอยู่อย่างงี้ไงเล่า”
จากคุณ |
:
ทวดเอง
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ก.พ. 55 11:26:31
A:14.207.186.121 X:
|
|
|
|