
ถ้าจะพูดอีกแง่ ก็คือ "ยาฉีด" เขาดีครับ เน่าแค่ไหนก็ไม่เฟะ เหม็นแค่ไหนก็ไม่เป็นไรเพราะเอาน้ำหอมพรมหน่อยก็หอมเอง
ผมไม่รู้ว่าคนในประชาธิปัตย์เขาภูมิอกภูิมใจอะไรกันนักหนา โฆษณาว่าพรรคตัวเองคือ "สถาบันทางการเมือง" อย่างเต็มปากเต็มคำ ทั้ง ๆ ที่ผมว่าประชาธิปัตย์นี่ เข้าใจความหมายของคำว่า การเมือง ไม่ถูกด้วยซ้ำไป
ถ้าเข้าใจสักนิด มันต้องทำงานเป็นบ้างสิครับ ไม่ใช่ดีแต่พูด
สมัยผมยังอยู่เมืองอุบลฯ ผมก็เคย ๆ สัมผัสกับคนของ ปชป. สัมผัสกับคนระดับหัวคะแนนจนถึงระดับ รมต. กินข้าวกินเหล้าวงเดียวกันก็เคย แต่ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันหรอกครับ แค่รู้จักกันผิวเผินและวันนี้ก็จำกันไมได้แล้วล่ะครับ
ผมจึงเห็นไส้ เห็นปอด เห็นตับ เห็นม้าม ปชป. ชนิดหลับตาก็เห็นถุงน้ำดีเธอ
ผมจึงแปลกใจทุกที เวลาคนพรรคนี้พูดเรื่องไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสีย พูดเรื่องไม่โกง พูดเรื่องคุณธรรมจริยธรรม พูดเรื่องความถูกต้องดีงาม ชนิดไม่อายปาก
ก็ไม่ใช่พรรคอื่นจะไม่เป็นหรอกครับ มันก็พอ ๆ กันนั่นแหละ แต่มันไม่มีพรรคไหนเขา "ตีบท" ได้แตกเท่าคน ปชป. ครับ อย่างที่เห็น ระดับเลขาฯพรรค ขนาดบีบน้ำตาที่ CTW ก่อนการเลือกตั้งไม่กี่วันเขายังทำได้สบาย ๆ ส่วนหัวหน้าพรรคก็เสียใจมาก ร้องไห้จนเมียปลอบ แต่วันนี้พอเขาจะเยียวยาด้วยเงินที่คิดแล้วตกวันละหกร้อยกว่าบาทในระยะเวลาสามสิบกว่าปี กลับออกมาค้านเสียงหลงซะนี่
เขาถึงว่า คนโกหกปลิ้นปล้อนน่ะ ทำอะไรมันขัดกันเองไปหมดล่ะครับ
ปชป. เป็นพรรคเพื่อ "เจ้านาย" ครับ ชนชั้นที่คิดว่าตัวเองมีระดับ เช่น ชนชั้นกลางในเมือง ชนชั้นบาทาแดงที่คิดว่าตัวเองสูง และชนชั้นกระแดะที่อยากกลางอยากสูงกับเขามั่ง เลยต้องชื่นชอบ ปชป. เน่าแค่ไหนก็ไม่เห็น เพราะไม่งั้นตัวเองจะสูญเสียสถานะความกระแดะกลางและสูงไปได้ เพื่อรักษาสภานะกระแดะ มันก็เลยต้องเชียร์กันไปยังงี้แหละครับ น้ำมันปาล์มจะหาย เรื่อเหาะจะแฟ่บ รถถังจะไม่วิ่ง ภาษีบุหรี่เกือบแสนล้านก็ไม่เป็นไร ไทยเข้มแข็งกี่แสนล้านก็เอาไปเลย อนุมัติงบประมาณนับแสนล้านในวันเดียวก็ตามสบาย
แล้วพวกเขาชี้นิ้วมายังคนที่เขาคิดว่าระดับล่างกว่าเขา ว่าโง่ ไม่มีความรู้ ไร้ปัญญา โดนหลอก โดนครอบ โดนซื้อ ฯลฯ
ง่ายซะไม่มี
คิดถึงละครย้อนยุคนะครับ ที่ทาสในบ้าน หากทาสคนใดเป็นที่โปรดปรานของเจ้านายล่ะก็ ทำอะไรก็ไม่ผิด มันก็เลยได้ใจ มีอะไรก็คอยแต่รังแกเพื่อนทาสด้วยกัน เพื่อนทาสด้วยกันอยากสลัดความเป็นทาส มันก็โร่ไปฟ้องเจ้านาย คืออยากเป็นทาสตลอดไปเพราะตัวเองได้ประโยชน์เท่านั้นเอง แล้วมันจะคิดจะทำอะไรให้ใครไหนอื่นได้ล่ะครับ
พอ ร.5 ทรงเลิกทาส เจ้านายกับทาสคนสนิท ก็ยังสนิทชิดเชื้อกันอยู่ ใช้อำนาจ ใช้อิทธิพลค้ำจุ้นอุ้มชูกันอยู่ เจ้านายช่วยลูกน้อง ลูกน้องตอบสนองนาย
ธรรมเนียมบ้านฟรี รถฟรี คนฟรี มันจึงไม่หายไปจากสังคมไทยสักที และพอลูกน้องมีเรื่อง มันก็ออกมาในรูปนี้ทุกทีครับ คือ
"ไทยปาหินใส่บ้านเจ็ก ไม่โดนเด็กไม่โดนใคร ให้แล้วกันไป, เจ๊กปาหินใส่บ้านไทย ไม่โดนเด็กไม่โดนใคร แต่ผีเรื่อนตกใจ ให้ปรับห้าตำลึง"
มันถึงกระดูกแข็งไงล่ะครับ
ไม่ใช่กระดูกตัวมันเองหรอกครับ แต่คือกระดูกเจ้านายมัน ตัวมันเองน่ะ แค่ให้คนเลือกนี่ ก็จะไม่รอดแล้ว คิดดูสิครับ หมดเปรมสิ้นชวนนี่ ห้าสิบกว่าเสียงในภาคใต้จะรวนแรขนาดไหน อีกไม่นานหรอกครับ ได้รู้ แค่ณัฐวุฒิได้เป็น รมต.นี่ ก็หนาวแล้วครับ ถึงต้องรีบโค่นกันให้ได้โดยเร็วที่สุด
พรรคการเมือง เกิดแล้วล้มไปหลายพรรค
พรรคใดที่มีผลงานก็ยืนอยู่ได้นานหน่อย พรรคไหนไม่มีผลงานก็ล้มหายตายจากไป เป็นปกติของพรรคการเมือง
แต่ที่ไม่ปกติ ก็คือพรรคที่ไม่มีผลงาน มีแต่ผลโง่ ผลงาบ ทำไมมันอยู่ได้มาตั้งเกือบ 70 ปี เปรียบเทียบแบบตื้น ๆ ดูสุพรรคบุรีกับภาคใต้สิครับ ทำไมมันต่างกันจัง
ผมว่าเพราะเชื้อ "ศักดินา" ในสังคมไทยมันยังแรงอยู่เท่านั้นเองครับ ไม่งั้นโดนยุบไปแล้ว แต่การดำรงอยู่แล้วมีคนหยามเหยียดว่าอยู่ได้เพราะ "ตัวช่วย" นี่
มันภูมิใจตรงไหนว่ะ !!!
เป็นนายกฯ เป็นรัฐบาลได้เพราะมีตัวช่วย ยังไม่น่าอายเท่า อยู่ได้เพราะมีคนอุ้มนะครับ
มันไร้ศักดิ์ศรีสิ้นดี
