 |
สบายใจจัง เงิน10 ล้าน เพื่อสมานฉันท์และเดินหน้าประเทศไทย ดีกว่าผลาญเงิน70 ล้าน เพื่อชั่งกิโลไข่ ขายเยอะแยะนะ
|
 |
คุ้มจริงๆ เงินภาษีของเรา เพื่อสมานฉันท์ ปรองดอง ไม่เหมือนพวกขวัญใจแมงสาป เอาเงินไปผลาญเจ็บสิบล้าน ลืมไปแล้วน่ะสิ เรื่องแบบนี้ทำเป็นลืมง่ายจังนะ พวกสมองปลาทอง อิอิ ไม่เป็นไร ถ้าลืมไปแล้วก็อ่านได้ข้างล่างนี้ แปะให้แล้ว จ้างพวกสติไม่ดี มาวิจัยบ้าๆบอๆ เสนอชั่งกิโลไข่ขาย อายแทนเลยจริงๆ เอาเงินภาษีประชาชนมาผลาญ และหลอกเด็กออกฟอร์ดให้หลงเชื่อได้ จริงมั้ย หนูๆแมงสาปทั้งหลาย? คืนนี้อย่าลืมไหว้พระสวดมนต์ ทำใจให้สงบนะเธอ เพื่อดับไฟแห่งความแค้น และต่อมริษยาที่กำลังโชนอยู่ และก็ทานยาตามหมอสั่งด้วยนะ ถ้าหมอตุลสั่งอย่ากินนะ เดี๋ยวอาการจะหนักกว่าเก่า
ไปนอนแล้วนะ คิกๆๆ
อย่าลืมทำตามที่บอกนะเธอว์
------------------------------------------------
ประชาวิวัฒน์ฉาวอีก70ล้านจ้างคิดชั่งไข่
ส.ว. แฉรัฐมนตรีคลังใช้งบประมาณ 70 ล้านบาทจ้างบริษัทที่ปรึกษาเอกชนคิดโครงการเอาไข่ชั่งกิโลขาย ระบุเป็นคนเลือกบริษัทด้วยตัวเอง พร้อมเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติเป็นโครงการเร่งด่วนแต่ไม่ได้ลงนามเอง โยนให้ข้าราชการระดับผู้อำนวยการกองเซ็นสัญญาว่าจ้าง ชี้เข้าข่ายผิดระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง ขอให้รัฐบาลตรวจสอบเพื่อความถูกต้อง ด้าน อภิสิทธิ์ คุยโครงการประชาวิวัฒน์ก้าวหน้า อีก 2 สัปดาห์ประกาศจุดผ่อนปรนค้าขายทางเท้าเพิ่ม 201 จุด ส่วนการปรับภูมิทัศน์เพื่อลดอาชญากรรมทำไปแล้ว 300 จุด
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา อภิปรายระหว่างการประชุมวุฒิสภาเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา ในช่วงที่ประธานวุฒิสภาเปิดให้สมาชิกหารือก่อนเข้าสู่วาระการประชุมปรกติว่า กรณีรัฐบาลมีนโยบายนำไข่ไปชั่งกิโลขายมีแม่ค้าจากตลาดสะพาน:-)ฝากด่ามา ที่สำคัญทราบมาว่านโยบายนี้รัฐบาลว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเอกชนคิดขึ้น โดยใช้เงินว่าจ้างสูงถึง 70 ล้านบาท สำหรับบริษัทที่ได้รับงาน นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้คัดเลือก แต่ให้ผู้บริหารกระทรวงเป็นคนลงนามว่าจ้างและประกาศแต่งตั้ง
บริษัทนี้ใช้เวลาทำงาน 14 สัปดาห์ เบิกจ่ายเงิน 4 งวด งวดที่ 1 และ 2 เบิกจ่ายงวดละ 14 ล้านบาท ส่วนงวดที่ 3 และ 4 เบิกจ่ายงวดละ 21 ล้านบาท นายเรืองไกรกล่าวและว่า ตามเอกสารที่แจ้งมายังคณะกรรมาธิการติดตามการใช้งบประมาณ วุฒิสภา ระบุว่ายังไม่ได้จ่ายเงินว่าจ้าง ตามปรกติเมื่อยังไม่ได้จ่ายเงินก็ยังไม่สามารถทำงานได้ แต่กลับตรวจสอบพบว่าโครงการนี้ขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเป็นโครงการเร่งด่วน จึงมีคำถามว่าเมื่อคณะรัฐมนตรีทราบเรื่องทำไมไม่มีใครสงสัยหรือทักท้วงว่าการว่าจ้างขัดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีหรือไม่ทั้งเรื่องวงเงินและคนลงนามในสัญญา เพราะเป็นแค่ระดับผู้อำนวยการเท่านั้น จึงอยากให้รัฐบาลตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย
มาเสริมหน่อย พอดี เห็นมีพวกแมงสาปกำลังเจ็บปวดทุรนทุรายจากกระทู้นี้ ถามหาหลักฐาน เอาง่ายๆ แล้วกันนะ จากปากคำของ นายกรณ์ จาติกวณิช หรือ กรณ์ วันเวย์ อดีตคนเคยเออออห่อหมกกับไอเดียพิลึกพิลั่นชั่งไข่ขาย ออกมาบอกเองเลยว่า
กรณ์ แจงใช้ 69 ล้านจ้างที่ปรึกษาวางยุทธศาสตร์ประชาวิวัฒน์
กรณ์ ออกโรงโต้ฝ่ายค้าน แจงใช้เงิน 69 ล้าน จ้างบริษัทที่ปรึกษาวางยุทธศาสตร์ประชาวิวัฒน์ เป็นมืออาชีพในเวทีโลก ยันคุ้มค่า เพราะประชาชนจะได้ประโยชน์ 2 หมื่นล้าน นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่ากระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากกรณีที่ฝ่ายค้าน ระบุว่า รัฐบาลใช้เงิน 69 ล้านบาท จ้างเอกชนร่วมทำงานในโครงการประชาวิวัฒน์ มีความไม่โปร่งใสนั้น การว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาบริษัท แมคเคนซี่ แอนด์ โค มาร่วมกำหนดยุทธศาสตร์ในการทำโครงการประชาวิวัฒน์ ดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบ สำนักงานเศรษฐกิจและการคลัง (สศค.) โดยกระทรวงการคลังได้ว่าจ้างมาเป็นเวลาการหลายเดือน และยืนยันว่า งบประมาณที่ใช้ว่าจ้างคุ้มค่าเพื่อใช้เงิน 69 ล้านบาท และประชาชนได้ประโยชน์จากโครงการมากกว่า 20,000 ล้านบาท นายกรณ์ กล่าวว่า บริษัทที่ว่าจ้างมามีความสามารถในด้านการวางยุทธศาสตร์ เป็นที่ยอมรับในเวทีโลก และราคาว่าจ้างไม่สูงมากไปกว่าการว่าจ้างโดยประเทศอื่น โดยสามารถเปรียบเทียบได้จากเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งได้รับจ้างดำเนินการในประเทศเพื่อนบ้าน จึงสามารถสอบถามข้อมูลเป็นการว่างจ้างได้ ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้ชี้แจงเรื่องนี้มาโดยตลอด โดยเฉพาะในเวทีกรรมาธิการวุฒิสภา และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้ชี้แจงเรื่องนี้อยู่แล้ว และกระทรวงการคลังก็พร้อมชี้แจงเพิ่มเติมหากมีข้อสงสัย
http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9540000007927
แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 55 00:12:24
แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 55 00:08:44
แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 55 22:31:28
จากคุณ |
:
Jitara
|
เขียนเมื่อ |
:
10 ก.พ. 55 22:24:01
A:41.135.166.103 X:
|
|
|
|  |