การที่มีการ สร้างกระแสเสียหายให้กับ รบ.ยิ่งลักษณ์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับตัวนายก รวมทั้ง ครม. ที่เห็นอยู่อย่างรุนแรงในขณะนี้ เราอาจมองได้ว่าเป็นการแย่งชิงอำนาจทางการเมือง อันก็น่าเป็นไปได้เช่นกันเป็นเพียงการต่อลองโดยกระแสกดดัน เพื่อมิให้ตกอยู่ในฐานะผู้รับผิดชอบในการกระทำของตัวเองที่ผ่านมา เพราะข้อปัญหาที่นำมาทำให้เกิดกระแสต่อต้าน มิใช่อยู่ที่ การปฎิบัติ (ผลงาน) แต่จะอยู่ที่ด้าน จรรยาธรรม (บุคคลิคสมควร) นั่นเอง ครับ
รบ. ที่ผ่านๆ ก็น่าจะเป็นตัวอย่าง อย่างเช่น นายก ที่มีบุคคลิกสุจริต ถึงกับต้องเช่าบ้านอยู่ หรือนายก ที่รูปหล่อพูดเก่ง จนมีคนหลงใหลมากมาย อันเรียกว่า มีจรรยาธรรม สมควรกับการเป็นนายก และถ้ามามองทางภาคปฎิบัติ จะเห็นว่า ให้โทษมากกว่าให้ประโยชน์ อย่างมากมาย ในขณะนี้ ปทท. มีนายกหญิง เป็นคนแรก รูปทรงเป็นสตรีงาม แถมยังขยันก้มหน้าทำงานปฎิบัติหน้าที่ อย่างทิ้งห่างอย่างไม่มีร่องรอยเมื่อเทียบกับ นายกชายรูปหล่อ พูดเก่ง
เมื่อเป็นเช่นนี้ เป็นเหตุให้ สส. พรรคฝ่ายค้าน เอาแต่ระเบียบการประชุมอภิปราย แทนการหาเหตุผลข้อพิสูจน์ มาใช้ตรวจสอบหรือต่อต้าน ฝ่าย รบ. เสมือน มือไม่พายแต่เอาเท้าราน้ำ จนถึงทุกวันนี้ ในขณะที่ พรรคฝ่ายค้านเป็น รบ. มาก่อนหน้าเอาแค่ นโยบายใข่ชั่งกิโล กับงบประมาณว่าจ้างและผลเสียหายที่มาจากความไม่สมควร แสดงออกให้เห็นได้อย่างชัดเจนถึง ระดับความสามารถที่ไม่สามารถเข้าเทียบกับ รบ.ปัจจุบันได้ อันก็ไม่แปลกที่ ฝ่ายค้าน จะมิสามารถตรวจสอบหรือชี้ข้อผิดพลาดในด้าน การปฏิบัติ (ผลงาน) ได้ง่ายๆ ถึงเป็นไปไม่ได้ ครับ
ทางเดียวที่เหลือ ก็คือด้าน จรรยธรรม (บุคคลิคสมควร) อันถ้าจะสอดส่องขุดคุ้ยกันอย่างจริงจังแล้ว ไม่มีใครไม่มีความบกพร่อง อย่างเช่น นายกสองสัญชาติ นายกไม่ให้ยุติการปฎิบัติหน้าที่ๆ บังเกิดความเสียหายกับชีวิตกับผู้บริสุทธิ์ นายกชำระเงินช่วยเหลืออุทกภัยนานกว่า หนึ่งปีให้หลัง นายกบอกให้เรียนฟรีแต่ผู้ปกครองควักกระเป๋ามากกว่าเดิม นายกที่ไม่เคยพูดคำว่า ขอโทษ หรือรับผิดชอบ
สิ่งเหล่านี้ไม่อยู่ในขอบข่าย ความเป็นไปได้ ของนายกหญิง อันก็เป็นเหตุให้ต้องค้นหากับเรื่องส่วนตัว เอาตั้งแต่ รูปมึนเมากอดคอ ภาพเทียมหญิงฟิลปินส์ รองเท้ากันน้ำที่แพง น้ำตาร่วง มีลูกนอกสมรส งานสมควรของหญิงเหนือ ยืนเหยียบธงชาติ นามบัตร์ ฯลฯ จนสุดท้าย ชู้สาว และก็ยังคำนวนกันไม่ได้ว่า จะมีอะไรเพิ่มมาอีก อันสิ่งเหล่านี้เป็นเสมือน มีดสองคม ที่เป็นการประณามโดยขาดความเป็นจริง ทำให้การขาดจรรยธรรมตกอยู่ที่ผู้นำมาใช้ แทนที่จะส่งผลภึงผู้ถูกประณาม แต่อย่างไรก็ตาม การถูกวิจารณ์หรือสร้างกระแสในสังคม ไม่ว่าจะเป็นจริงเท็จ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นสิ่งที่สามารถมองได้หลายแง่มุม ก็จะเกิดลักษณะ ภาพพจน์คลาดเคลื่อนในทางลบ กับสังคม ครับ
ในกรณี นายกหญิง ที่เป็นผู้รับผิดชอบ ในฐานะผู้นำบริหารประเทศ ให้เป็นประโยชน์ ต่อ ปชช. ทั้งประเทศ การปฎิบัติการจำเป็นต้องมีความโปร่งสัยเพื่อแสดงถึงความสุจริตต่อหน้าที่ และในขณะเดียวกัน ก็จำเป็นต้องมีการรักษาความลับในการปฎิบัติการ เพื่อรักษาความปลอดภัยและความมั่นคง เช่นเดียวกับ ผู้นำทุกท่านในโลกสากล ครับ สิ่งเหล่านี้ เป็นความจริง ที่พรรคฝ่ายค้าน หรือนักการเมืองทุกคน ทราบซึ้งดีอย่างค้านไม่ได้ การปลุกกระแส เพื่อให้ นายกหญิง ให้คำตอบ โดยเอากรณีสองแง่สองมุมด้านชู้สาว มาคัดแงะ ก็เพียงเพื่อให้ หลงพรางผิดพลาดโดยเอาความลับทางราชการมาแพร่ลบข้อครหา หรือต้องยอมรับเป็นนัยว่า ขาดจรรยาธรรมในตัว ตามข้อครหา ทุกคนสามารถถามตัวเองได้ว่า ถ้าตัวเอง ตกอยู่ในสภาวะเช่นนี้ จะให้คำตอบอย่างไร และกลุ่มผู้ที่พยายามขัดแงะเขามีจรรยธรรม เอาแค่ความเป็นมนุษย์ด้วยกันในระดับใด นั่นเองครับ
ในสำนวนไทยที่ว่า กำแพงมีหูประตูมีตา นี่เองเป็นสาเหตุ ให้มีการนัดพบติดต่อสื่อสารทางราชการ หรือกรณีสำคัญๆ ในพื้นที่ที่ไม่กำหนดเจาะจงล่วงหน้า และก็ไม่เป็นสถานที่ราชการ หลายคนคงเคยเห็น เวลานายกประเทศหนึ่งไปพบปะเยี่ยมเยียนกับนายกอีกประเทศหนึ่ง รองตั้งคำถามดูซิว่า ทำใมเขาถึงมีกรณีเดินชมสวนเฉพาะตัว โดยไม่มีแม้แต่ผู้ติดตาม มีกี่ครั้งที่นักการเมืองไทยพบ หรือโทรศัพท์ถึงกันที่โรงแรม หรือใช้โรงแรมเป็นจุดเชื่อมโยง มีนายทหารกี่คนที่ชอบเล่นกอ๊ฟ ทั้งๆ ที่ยังจับไม้ก๊อฟไม่ถูกเลย มีหน่วยกรองข่าวกี่คนทั่วโลก ที่บังเอิญเห็นหน้ากันในคาสิโน หรือมีนักการเมืองกี่คนที่ชอบไปนั่งดูวิวเป็นส่วนตัว ตามสวนสาธารณะ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้คือ ลักษณะการสื่อสารที่พร้อมปกป้องภัย ที่เกิดจากการถูกลอบชิงความลับ ครับ
ถ้ามองลักษณะและสภาพการณ์ ที่บังเกิดขึ้นเช่นนี้ประจำวันในทั่วโลก ก็อาจสรุปได้ว่า การกระทำของ นายกหญิง ที่มองผิวเผินเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ถ้าจะมองให้ลึกลงไปก็คือ การปฎิบัติงานในหน้าที่ อันที่น่าจะเป็นเหตุผลสมควรที่ไม่สามารถเข้าประชุมสภาได้ การมองต่ำ ของฝ่ายโจมตี เป็นการสร้างกระแสด้วยความจงใจ ทำลายร้างมากกว่าสร้างสรรค์ ก่อนที่ผู้รู้เท่าไม่ถึงการ จะเอามาวิพากวิจารย์ สมควรหรือไม่สมควร อย่างไร ในเมื่อโอกาสถูกหลอกให้เป็นเครื่องมือในการสร้างกระแส เหล่านี้ ครับ ในเมื่อเขาตั้งเป็นกระทู้ถามในสภา หรือในสาธารณะชน คำตอบที่สมควรที่สุดในกรณี นายกหญิง ก็คือ ไม่ตอบ และก็ไม่ให้ข้อมูล แต่ผู้รับทราบควรเข้าใจว่า มิได้หมายถึงเป็นการยอมรับ ในข้อครหาสร้างกระแส เท่านี้เราก็ให้ความเป็นธรรมและแสดงการมี จรรยธรรม ในตัวเองอย่างชัดแจ้งแล้ว ครับ
แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 55 12:05:25