ถ้าเลือกเกิดได้ก็ขอเลือกเกิดมาเป็นลูกสาวแท็กซี่คนจนอย่างนี้อีก แต่จะไม่ยอมเกิดเป็นผู้ชาย ที่เหยียบย่ำศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง
|
 |
“หมวดเจี๊ยบกรี๊ด " ฟ้อง"ศิริโชค"หมิ่นประมาท
“หมวดเจี๊ยบ " กรี๊ด “ ศิริโชค “ย่ำยีศักดิ์ลูกผู้หญิงด้วยความเท็จ เล็งส่งทนายฟ้องหมิ่นประมาท
วันนี้ ( 18 ก.พ.) ที่พรรคเพื่อไทย ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัตร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า จากกรณีนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ จัดรายการผ่านทางช่องบลูสกาย์ ชาแนล มีเนื้อหาในทำนองที่ทำให้เสียศักดิ์ศรี โดยระบุว่าเมื่อครั้งที่ตนต้องลาออกจากการทำงานที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 เพราะว่าขาดงาน ไม่ใช่ข้อเท็จจริง เพราะการลาออกครั้งนั้น เพื่อไปศึกษาต่อ และนายศิริโชคยังได้พูดถึงครอบครัวของตนในทำนองเสียหายด้วย ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาท ขณะนี้ให้ทีมกฎหมายรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อฟ้องร้องนายศิริโชค ในข้อหาหมิ่นประมาท เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง เนื่องจากนายศิริโชค พูดจาพาดพิงถึงตนในทางเสียหาย และทำให้คนอื่นเข้าใจว่าตนเองเป็นผู้หญิงที่ไม่ดี
“ ดิฉันยอมรับว่า ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ที่ผ่านมาก็พบเจอทั้งเรื่องสมหวังและผิดหวัง จะเอาอะไรมากกับชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่เกิดมาเป็นเพียงลูกสาวคนขับแท็กซี่แถมยังกำพร้าพ่อตั้งแต่เด็ก แต่ก็พอใจในตัวเองและยอมรับความจริง ถ้าเลือกเกิดได้ก็ ก็ขอเลือกเกิดมาเป็นลูกสาวแท็กซี่คนจนอย่างนี้อีก แต่จะไม่ยอมเกิดเป็นผู้ชาย ที่เหยียบย่ำศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงด้วยความเท็จ เป็นอันขาด และถึงแม้ตัวเองจะมาจากครอบครัวที่ยากจน แต่ก็ได้รับการสั่งสอน ไม่ให้เหยียบย่ำซ้ำเติมความโชคร้ายของคนอื่น เพราะในโลกนี้ ไม่มีใครที่มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ “ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว
รวบแม่"ศิริโชค โสภา"ข้อหาฉ้อโกงคาสนามบินผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.40 น.เมื่อวานนี้(6 พ.ค. 2554) พ.ต.ท.นุสรณ์ อินน้อย สวป.สน.ดอนเมือง พร้อมชุดจู่โจมเข้าจับกุม น.ส.เสาวรส โสภา อายุ 73 ปี แม่ของนายศิริโชค โสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่อยู่บ้านเลขที่ 185/1 ซอยทรงสะอาด แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้เลขที่ จพ267/2554 ลงวันที่ 3 พ.ค. 2554 ในข้อหาฉ้อโกง โดยจับกุมได้ที่หน้าประตูทางออกผู้โดยสารขาออก สนามบินดอนเมือง แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง หลังจากได้รับเบาะแสจากนายมนตรี สิหนาทกถากุล ผู้เสียหาย ต่อมาเมื่อเวลา 01.00 น. ทางน.ส.เสาวรสได้ยื่นหลักทรัพย์จำนวน 5 แสนบาทเพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวออกไป และเดินทางไปศาลในช่วงเช้าวันนี้ นายมนตรี สิหนาทกถากุล เจ้าของโรงแรมแลนด์มาร์ค เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับทาง น.ส.เสาวรสเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว ก็มีการให้ยืมเงินทองกันเป็นประจำ แต่เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ทาง น.ส.เสาวรสได้ขอยืมเงินตน ทั้งหมด 15 ล้านบาท พอเดือนต่อมาก็ได้เซ็นเช็คทยอยจ่ายคืนจำนวน 10 ใบ ใบละ 1.5 ล้านบาท จนกระทั่งวันที่ 15 ต.ค. ตนได้นำเช็คที่เซ็นมาได้ 3 ใบไปขึ้นเงิน พบว่าเช็คเด้ง เมื่อตรวจสอบพบว่า น.ส.เสาวรสเป็นบุคคลล้มละลายและต้องพิทักษ์ทรัพย์ไม่สามารถเขียนเช็คได้
ตนพยายามติดต่อทาง น.ส.เสาวรส แต่อีกฝ่ายบ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืนเงิน อ้างว่าเกิดปัญหาธุรกิจส่งออกกุ้งและปลาหมึกไปประเทศญี่ปุ่นมีปัญหา ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินคืนได้ ในที่สุดตนจึงมอบอำนาจให้ทางทนายความไปฟ้องศาล ทางศาลได้นัดฝ่ายตนและฝ่าย น.ส.เสาวรสมาไกล่เกลี่ย ซึ่งทางศาลได้มีหมายเรียก 3 ครั้ง คือเดือนพฤศจิกายน ครั้งที่สองเดือนธันวาคม จนเมื่อเดือนมกราคม ครั้งที่สาม ทางน.ส.เสวรสได้หลบหนีไม่ได้มาตามหมายศาล ทางศาลจึงมีหมายจับออกไป
“จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ตนทราบว่า น.ส.เสาวรสจะเดินทางกลับจากการพบหัวคะแนนพรรคประชาธิปัตย์ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มาลงที่สนามบินดอนเมือง จึงประสานเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม เมื่อจับมาได้ ทางน.ส.เสาวรส โอ้อวดว่าเป็นแม่ของนายศิริโชค โสภา พยายามพูดจาข่มเหงตน โวยวายลั่นสน. ก่อนจะได้รับการประกันตัวออกไป” นายมนตรีกล่าว
จากคุณ |
:
โบกกรัก
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ก.พ. 55 17:36:41
A:41.220.174.108 X:
|
|
|
|