วันที่ 23 ก.พ. นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวถึงกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีระบุพร้อมชี้แจงผู้ตรวจ
การแผ่นดิน หลังจากถูกยื่นคำร้องให้ตรวจสอบจริยธรรมกรณีภารกิจลับ
ว. 5 ชั้น 7 โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ว่า เป็นหน้าที่ที่นายกฯ ต้องไปชี้แจงตาม
รัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจผู้ตรวจการแผ่นดินเอาไว้อยู่แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือในฐานะที่
น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็น ส.ส.  เป็นนายกฯที่มาจากการเลือกตั้ง นอกจากมี
ความรับผิดชอบตามรัฐธรรมนูญแล้ว ยังต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชน
คนไทยด้วย ดังนั้นก่อนที่จะเข้าชี้แจงต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน สิ่งที่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องทำเป็นอันดับแรก คือ การชี้แจงต่อประชาชนให้ชัดเจนว่า
ในภารกิจ ว.5 นั้น ได้พบกับนักธุรกิจรายใดบ้าง มีการหารือในเรื่องอะไร
เกี่ยวพันกับการกำหนดนโยบายด้านที่ดินที่จะนำไปสู่ปัญหาผลประโยชน์
ทับซ้อนหรือไม่ การเลื่อนประกาศราคาประเมินที่ดินใหม่และผังเมืองใหม่
ออกไป เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หรือไม่

 "น.ส.ยิ่งลักษณ์อ้างว่าไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน รวมถึงโครงการฟลัด
เวย์ใดๆ ทั้งสิ้น บอกว่าไม่ทำอยู่แล้วเพราะปัญหาของประชาชนก็ทุกข์ยาก
และอ้างว่ารายละเอียดได้ชี้แจงไปหมดแล้ว แล้วไหนคือรายละเอียดที่ว่า
อย่าโกหกเพื่อเอาตัวรอด เมันจะเป็นการทำลายเกียรติยศศักดิ์ศรีของ
คนไทยด้วย ที่มีผู้นำประเทศกลับกลอกโกหกประชาชนรายวัน ถ้า
น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยากจะกอบกู้ชื่อเสียงของตัวเองคืนมา ต้องพูดความจริง
และนำหลักฐานการพบกับนักธุรกิจที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นชั้น 7 มาเปิดเผย
เพื่อให้สังคมสิ้นสงสัย แต่ถ้าไม่กล้านำเทปจากกล้องวงจรปิดมาเปิดเผย
ก็เท่ากับยอมรับว่าไม่สามารถชี้แจงได้ทั้งในเรื่องความหมิ่นเหม่ต่อการ
ทำผิดศีลธรรม และเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน การที่นายกฯไม่คิดฟ้อง
ร้องในเรื่องนี้เพราะเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อยและต้องการสร้างบรรยากาศ
ปรองดองนั้น เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สะท้อนถึงความไม่จริงใจของคนเป็นผู้นำ
ประเทศ เนื่องจากการฟ้องเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของตัวเองเป็นสิทธิอันชอบ
ธรรมตามกฎหมาย ที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยกับเรื่องความปรองดองใน
บ้านเมือง แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับนำเรื่องนี้มาอ้างเพื่อหลีกเลี่ยงการพิสูจน์
ความจริงผ่านกระบวนการยุติธรรม" นายชวนนท์ กล่าว

 นายชวนนท์ ยังกล่าวถึงกรณี นายวิฬุร เตชะไพบูลย์ รมช.คลังในฐาน
กำกับดูแลกรมธนารักษ์ ระบุว่า การเลื่อนประเมินราคาที่ดินใหม่ออกไป
6 เดือน เป็นไปตามมติของคณะกรรมกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ซึ่ง
เป็นองค์กรอิสระที่การเมืองแทรกแซงไม่ได้ ว่า เป็นการโกหกประชาชน
อีกครั้ง  เนื่องจากองค์ประกอบของคณะกรรมการชุดดังกล่าวตามประมวล
กฎหมายที่ดินมาตรา 105  ล้วนมาจากข้าราชการและบุคคลที่
รมว.มหาดไทยแต่งตั้งทั้งสิ้น จึงไม่ใช่องค์กรอิสระตามที่รมช.คลังกล่าว
อ้าง สิ่งที่ นายวิฬุร พยายามบิดเบือนประเด็นให้สังคมหลงเชื่อว่าการเมือง
ไม่มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นการให้ข้อมูลเท็จกับประชาชน  ยิ่งแสดง
ให้เห็นถึงพิรุธเกี่ยวกับนโยบายประเมินราคาที่ดินและผังเมืองว่า กำลัง
มีการใช้อำนาจการเมืองเข้าไปแสวงหาประโยชน์จากการกำหนด
นโยบายที่ดินและผังเมืองจริง  และอยู่ในระหว่างการศึกษาข้อกฎหมายว่า
คณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจเลื่อนการประเมินราคาที่ดินใหม่ออกไปหรือไม่
เพราะตามกฎหมายกำหนดชัดเจนให้ประกาศราคาที่ดินใหม่ทุก 4 ปี แต่
ไม่มีข้อใดให้อำนาจกรรมการดังกล่าวเลื่อนการประกาศ 

 วันเดียวกัน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำ
สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทำหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์
ว่า น่าจะเป็นฝ่ายแค้น มากกว่าฝ่ายค้าน เห็นชัดจากการยื่นให้ศาล
รัฐธรรมนูญวินิจฉัย พ.ร.ก. ทั้ง 2 ฉบับ ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ และ
ยังท้าทายว่าถ้าขัดรัฐธรรมนูญรัฐบาลต้องรับผิดชอบ ลาออกและ
ต้องยุบสภา พฤติการณ์ดังกล่าวทำให้ประเทศชาติและประชาชน
เสียเวลาไป 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ได้สมแค้น
ถามว่าลงทุนสูงเกินไปหรือไม่ จึงขอเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์
ทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศ ให้หยุดความแค้น
ใน 5เรื่อง คือ1.เรื่องพ.ร.ก. กู้เงิน 2 ฉบับ เพื่อให้รัฐบาลเสียคะแนน
ทางการเมือง 2. อย่าขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยใช้วาทกรรม
เก่าๆว่า แก้เพื่อคนๆเดียว เพราะการแก้ไขครั้งนี้ประชาชนทุกภาคส่วน
และมีกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย 3.เรื่องโฟร์ซีซั่น 4. การโจมตี
นโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลว่าจัดฉาก และ 5. แค้นที่
พล.เอกเปรม สนับสนุนนโยบายปรองดอง เห็นได้ชัดจากการเดินทาง
ร่วมกิจกรรมรักเมืองไทยเดินหน้าประเทศไทย อย่างไรก็ตามผลสำรวจ
เอแบคโพลล์เปิดเผยความนิยมของประชาชนที่มีต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์
ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร้อยละ 41.8 ส่วนนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรี อยู่ที่ร้อยละ 15.1 จึงถึงเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์จะ
ต้องปฏิรูปตัวเอง หยุดความแค้นแล้วค้านสร้างอย่างสร้างสรรค์ ไม่
อย่างนั้นก็หมดเวลาสำหรับพรรคประชาธิปัตย์

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNeU9UazRNelV5TXc9PQ==&subcatid= 

 เมื่อไม่เลิกหรือยอมพักรบกันบ้าง  สงครามน้ำลาย ก็คงไม่มีทางยุติ
ลงได้  ....ฟังโฆษกพรรคให้ข่าวมาหลายหน  แข่งกับโฆษกหัวหน้า
พรรค "เทพไท"  แล้ว เรียกว่า  กินกันไม่ลง  แข่งกันฉุดพรรคลงไป
เรื่อย  ๆ  น่าแปลกที่  ผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค แม้แต่ตัวหัวหน้าพรรค
ก็ไม่สนใจ  ถามแฟนคลับในนี้ดีกั่ว  ...  ชอบโฆษกแบบนี้ไหม ?

หรือว่า จะเป็นประเภท  ปชป. ซะอย่างทำอะไรก็ดูดีไปหมด
โฆษกแบบนี้  ก็มันดี  พูดจนเป็นประเด็น ทอล์กออฟเดอะทาวน์ ได้

ไม่ธรรมดา จริง ๆ  ทุ่นงบหาเสียงไปเยอะเลย