Law after Coup ‘etat..is not acceptable ..ผมเห็นด้วยกับ พ.อ อภิวันท์ วิริยะชัย..เป็นอย่างยิ่ง

เป็นคำพูดตอนหนึ่ง ที่ท่านได้อภิปรายในสภาฯ ว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จบไปเมื่อสักครู่..

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ เพราะกฎหมายแม่ที่ออกมาหลังการทำรัฐประหาร ย่อมตอบสนองความต้องการของพวกพ้องตัวเอง จึงไม่สามารถเป็นที่ยอมรับได้ตามหลักสากลฯ

ผมว่าท่านอภิปรายได้ตรงจุด หนักแน่น และมีเหตุผล..เช่น

-   หลักสากลฯ รัฐธรรมนูญมีแต่เขียนไว้ มีแต่เรื่องสร้างสรรค์ ไม่ใช่ห้ามทำโน้น ห้ามทำนี่..

-  ทำไมองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ จึงมีสิทธิ์ออกกฎหมายลูกว่าด้วยพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญ..

-   องค์กรอิสระ บางองค์กร เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ ทำไมถึงมีวาระดำรงแหน่งได้ถึง 9 ปี ในขณะที่องค์กรอื่นๆมีวาระ 6 ปี นี่คือการสร้างฐานอำนาจหรือไม่..?

-   การถอดถอนองค์กรอิสระ โดยวุฒิสภาฯ..เป็นเรื่องแปลกเพราะใครจะถอดถอนคนที่แต่งตั้งตนเองเป็นวุฒิสมาชิก..

-   ที่มาของ สสร.ที่มาจากการเลือกตั้ง ควรคิดจำนวนประชากร และผุ้เชี่ยวชาญจากสาขาต่างๆควรให้คัดเลือกกันเอง..เช่น สสร.มาจากการเลือกตั้ง 111 คน และจากการคัดเลือกสรรหาจากทุกสาขาอาชีพ 39 คน รวมเป็น 150 คน

-   กม.รัฐธรรมนูญไม่ควรมีมากมาตรา ไม่น่าเกิน 120 มาตรา เพื่อให้ประชาชนจำง่าย อย่างที่ฝรั่งเศส มีเพียง 5 มาตรา..

-   ถ้าบางคน บางพวกเห็นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นการตีเช็คเปล่า แล้วล่ะก็ ก็ควรให้ร่างที่ สสร.ยกไว้ให้ผ่านการพิจารณาของสภาฯ เพื่อตั้งกรรมาธิการร่วม และให้ผ่านการรับรองพื่อตรวจสอบ แสดงความคิดเห็น จากนั้นจึงทำการปรับปรุงอีกครั้งก่อนไปทำประชาพิจารณ์ และให้ทำประชามติ..เมื่อผ่านแล้วจึงค่อยนำทูลเกล้าต่อไป..

ฟังท่านอภิปรายแล้ว แม้ไม่เห็นด้วยบางประเด็น  แต่โดยภาพรวมแล้วผมว่าเป็นการอภิปรายที่มีเหตุผลมากที่สุดของวันนี้..

ขอชื่นชมครับ..

และฝากไปถึง พวกพันธมาร และพวกประท้วงที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญว่า ถึงพวกคุณจ้างโน่น อ้างนี่ และพยายามโจมตี  สร้างกระแสป่วนบ้าน ป่วนเมืองอยู่ในขณะนี้ ว่าเลิกเถอะครับ..

เรามีสภาฯที่มาจากทั้งการเลือกตั้ง และแต่งตั้งที่มีผลพวงมาจากรัฐธรรมนูญของรัฐประหาร..ให้เขาทำหน้าที่ของเขาเถิด..

แต่ถ้าท่านไม่เห็นด้วย ก็เตรียมตัว แต่งตัวให้ดูดี..เพื่อลงมาเลือกตั้งเป็น สสร..ดีกว่าน่ะครับ..

สุดท้าย..ผมขอคัดหัวบทความบรรทัดแรก ของกิเลน ประลองเชิง ที่ลงหน้า 3 ของไทยรัฐ..มาให้อ่านแก้เลี่ยนครับ..

“ ตอนลงประชามติรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2550 ผมเป็นคนหนึ่งที่รีบไปกาบัตรผ่าน เพราะดูจะมีคำขู่จากคณะปฏิวัติทำนองว่า ถ้าไม่ผ่าน คุณ ท.ทหาร เขาจะใช้กฎหมายทหาร  กฎหมายของเขาเอง..

รัฐธรรมนูญ ปี 2550 จึงเหมือนที่โบราณว่า สิบเบี้ยใกล้มือ ขืนไม่รีบหยิบฉวยไว้ อาจจะไม่ได้อะไรเลย

และอีกเหตุผลที่ยอมให้รัฐธรรมนูญผ่าน ผู้รู้ทางกฎหมายเขาก็บอกว่า ไม่พอใจข้อไหน ถึงเวลาก็ยังแก้ได้อยู่ดี..”

ขึ้นต้นด้วย อดีต ประธานสภาฯ แต่มาจบลงที่คอลัมนิสต์ ..ได้ไงก็ไม่รู้ครับ..แต่เป็นเรื่องเดียวกัน

จากคุณ	: แมวน้ำสีคราม
เขียนเมื่อ	: 23 ก.พ. 55 18:28:01 A:180.180.209.102 X: