 |
รัฐบาลใส่เกียร์เดินหน้า..โครงการ ก่อสร้างเส้นทางเชื่อมโยง ๓ ฝ่าย อินเดีย เมียนมาร์ ไทย ใกล้เป็นจริง
|
 |
ในการประชุม Delhi Dialogue ครั้งที่ ๔ ณ กรุงนิวเดลี นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าพบปะหารือกับนาย S. M. Krishna รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย ณ เรือนรับรอง Hyderabad House โดยสรุปสาระสำคัญของการหารือได้ ดังนี้ นาย Krishna ได้กล่าวแสดงความยินดีต่อการที่รัฐมนตรีว่าการฯ เดินทางมาเข้าร่วมการประชุม Delhi Dialogue ครั้งที่ ๔ รวมถึงกล่าวชื่นชมการเดินทางมาเยือนอินเดียของนายกรัฐมนตรีไทยที่ได้เข้าร่วมใน งานวันชาติอินเดียในฐานะแขกเกียรติยศ ซึ่งแสดงถึงความความสัมพันธ์ที่แนบแน่นของทั้งสองฝ่าย และแสดงความยินดีที่ปี ๒๕๕๕ เป็นปีครบรอบ ๒๐ ปีของความสัมพันธ์อาเซียน-อินเดีย โดยจะมีการประชุมสุดยอดระหว่างอาเซียน - อินเดีย ในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ ที่กรุงพนมเปญ และในเดือนธันวาคม ศกนี้ ที่กรุงนิวเดลี นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ ๓ ในรอบ ๗ สัปดาห์ ซึ่งแสดงถึงความตั้งใจของฝ่ายไทยที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกัน และการประชุมสุดยอดอาเซียน - อินเดีย ในปีนี้ จะเป็นโอกาสที่ดีที่จะยกระดับความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียน-อินเดียด้วย สำหรับความคืบหน้าของฝ่ายไทยในการให้ความช่วยเหลือเมียนมาร์ก่อสร้าง ถนนเชื่อมโยงระหว่างเมืองเมียวดี ตรงข้าม อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ไปยังเมืองกอกะเร็กในเมียนมาร์ โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณจำนวน ๑,๑๔๐ ล้านบาท (ประมาณ ๓๘ ล้านเหรียญสหรัฐ)
ประกอบด้วย การซ่อมแซมปรับปรุงถนนตั้งแต่ช่วงเมืองเมียวดี ถึงเทือกเขาตะนาวศรี ระยะทาง ๑๘ กม. และการสร้างถนนสายใหม่จากเทือกเขาตะนาวศรีถึงเมืองกอกะเร็ก ระยะทาง ๒๘ กม. และได้สอบถามความคืบหน้าของฝ่ายอินเดียในการก่อสร้างเส้นทางเชื่อมโยงจากอินเดียผ่านเมียนมาร์ เพื่อเชื่อมโยงกับถนนที่ฝ่ายไทยกำลังสร้างเพื่อเป็นการเชื่อมโยงเส้นทาง East-West Economic Corridor (EWEC) นาย Sanjay Singh ปลัดกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย แจ้งตอบถึงความคืบหน้าของฝ่ายอินเดีย ซึ่งได้มีการก่อสร้างเส้นทางเชื่อมโยงจากเมือง Tamu ของอินเดียไปยังเมียนมาร์จนถึงเมือง Kalewa โดยได้ช่วยเหลือก่อสร้างสะพานกว่า ๕๐ แห่งในฝั่งเมียนมาร์ และในขณะนี้ ฝ่ายเมียนมาร์เอง ก็ได้มีการก่อสร้างถนนจากเมือง Kalewa ไปยังเมือง Mektila และ Mandaley เชื่อมโยงไปยังกรุงเนปิดอร์และย่างกุ้ง ซึ่งเชื่อว่า ในอนาคตอันใกล้น่าจะสามารถเดินทางตามเส้นทาง EWEC ได้ ความคืบหน้าของการติดตามผลการเดินทางมาเยือนอินเดียของนายกรัฐมนตรี โดยได้เสนอให้เร่งจัดตั้งคณะทำงานร่วมด้านความเชื่อมโยงและโครงสร้างพื้นฐาน (Joint Working Group on Connectivity and Infrastructure) เพื่อหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างเส้นทางเชื่อมโยง ๓ ฝ่าย อินเดีย เมียนมาร์ - ไทย นอกจากนี้ ได้ขอให้มีการเร่งรัดหาข้อสรุปการเจรจา ความตกลงเขตการค้าเสรีไทย - อินเดีย ซึ่งคณะทำงานของทั้ง ๒ ฝ่ายได้เสร็จสิ้นการหารือในสัปดาห์ที่ผ่านมา ..
***********************
ดีใจแทนคนแม่สอดด้วยครับ..อยู่กับ ประชาธิปัตย์มานานด่านการค้านี้มีแต่ลักปิด ลักเปิด..
มารัฐบาลชุดนี้ นอกจากจะเสริมสร้างการค้าระหว่างชายแดน ไทย พม่า ให้คึกคักขึ้นแล้ว อีกไม่นาน ท่านก็จะได้ค้าขายทะลุไปถึงอินตระเดีย ประเทศที่ขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ ที่ 5 ของโลก..
ชายแดนค้านตะวันตก และเหนือ ทั้งเมืองกาญจน์ และ ตาก กำลังคึกคัก..มีอนาคตสดใส ไม่แพ้ตะวันออก และอีสานตอนบน..คงเหลือฝั่งภาคใต้เท่านั้น..ที่รัฐบาลจะจัดประชุมครม.สัญจร ครั้งหน้าที่ภูเก็ต..คงต้องลุ้นว่านักธุรกิจ และประชาชนที่นั่นเขาจะว่าอย่างไร..
รัฐบาลนี้กำลังเดินหน้า ค้าขายกับเพื่อนบ้าน สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ แต่มีบางคนบางพวกไม่เคยตื่นจากฝันร้าย..เพราะเป็นโรคกลัวทักษิณจนขี้ขึ้นสมอง..
แค่แก้รัฐธรรมนูญ ก็หาว่าจะไปฉีกรัฐธรรมนูญ และต้องใช้เวลากว่าจะเป็นรูปเป็นร่าง ก็ปีกว่าๆ..พวกลูกอีช่างค้านก็กลัวจนไข้ขึ้นซะแล้ว..
น่าสมเพชแท้ๆ..ยิ่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่นานเท่าไหร่ พวกนี้เห็นทีต้องช่วยกันหามเข้าโรงพยาบาล ( ประสาท ) เป็นแน่แท้..55555++
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1329990915&grpid=&catid=05&subcatid=0500
จากคุณ |
:
แมวน้ำสีคราม
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ก.พ. 55 20:33:57
A:180.180.209.102 X:
|
|
|
|  |