คุณทองรำไร ลองตั้งสติพิจารณาข้อทักท้วงสักนิดดีไหมครับ
คุณทองรำไรครับ คุณยกเรื่องคตส.มีอำนาจในการสั่งฟ้องด้วยตัวเอง ผมก็ได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า เป็นไปได้ตรงนี้ผมไม่ได้ว่าอะไรสักนิด แต่ที่ผมชี้มาตลอดตั้งแต่กระทู้แรกๆ และคุณทองรำไร ยังไม่ได้ฉุกคิดเลยก็คือ แล้วในความเป็นจริงคดีไหนบ้างละครับที่คตส กินเองชงเอง อย่างคุณว่าจนศาลได้พิพากษาไปแล้วให้ผู้ถูกกล่าวหามีความผิด คดีไหนครับ ? ? ? คุณทองรำไรตอบผมได้ไหม
ผมได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า อำนาจที่ว่าของคตส นั้นมีอยู่จริง ผมไม่ได้เห็นแตกต่างจากคุณในประเด็นนี้นะครับ แต่ผมเห็นแตกต่างไปตรงความจริงที่ว่า ในความเป็นจริงที่เกิดขึ้น คดีที่ได้มีการตัดสินแล้วของคุณทักษิณ คตส ไม่ได้ใช้อำนาจหรือพฤติการณ์เช่นที่คุณว่ามาเลย คตส ล้วนส่งเรื่องให้อัยการพิจารณาหลักฐานให้ดีก่อน และสุดท้ายอัยการก็เห็นด้วยกับหลักฐานของคตส และเข้าไปต่อสู้คดีกันในศาล สุดท้ายอัยการสูงสุดชนะ
ดังนั้น ในคดีที่เกิดขึ้นจริงและมีผลให้คุณทักษิณถูกตัดสินลงโทษหรือยึดทรัพย์ไปนั้น ไม่ได้เป็นผลจากการ กินเองชงเอง อย่างที่อาจจะเข้าใจผิดกัน ไอ้การกินเองชงเองจะมีผลอย่างไรคุณต้องไปรอดูคดีที่ยังไม่ได้พิจารณากันต่อไป เช่นคดีกล้ายาง คดีซีทีเอกซ์นั้นครับ ซึ่งศาลอาจจะให้ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาชนะหรือคุณทักษิณชนะก็เป็นได้ แต่กรณีที่คุณว่า กินเองชงเอง จะมีผลออกมาเป็นอย่างไร ผู้ถูกกล่าวหาจะได้รับความเป็นธรรมไหม ต้องรอผลการพิจารณษคดีที่จะมีขึ้น ดังนั้น กรณีกินเองชงเอง จะมีผลอย่างไรต่อผู้ถูกกล่าวหา จึงยังสรุปไม่ได้เพราะคดียังไม่สิ้นสุด จะเอามาอ้างกับคดีที่เกิดไปแล้วไม่ได้ มันจะกล่ายเป็นเอาเรื่องแพะไปปนกับเรื่องแกะไป
ดังนั้น ผมจึงไม่อยากให้คุณเอาเรื่องที่มันยังไม่ได้ข้อสรุปในคดีอื่น มาปะปนกับคดีที่จบไปแล้วของคุณทักษิณ 3 คดี ที่ในคดีเหล่านั้น คตส ไม่ได้สั่งฟ้องเอง ไม่ได้กินเอง ชงเอง หากคุณไม่เอาไปปนกันก้ดีไปครับ แต่การโพสต์เรื่องกินเองชงเองแบบนี้ หากไม่ชี้ให้ชัดๆ เชื่อได้เลยว่า ต้องมีสมาชิกจำนวนไม่น้อยหลงเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องคดีคุณทักษิณทั้ง 3 คดี ที่ คตส ไม่ได้สั่งฟ้องเองนะครับ แต่เป็นอัยการสูงสุดฟ้อง
แก้ความเข้าใจผิดเรื่องมาตรา 309 ของคุณ mitsushita
คุณ mitsushita จากกระทู้ P11763449 เข้าใจไปว่า มาตรา 309 ของรธน จะคุ้มครอง คตส ให้ไม่ต้องรับผิด แม้กระทำการใส่ความคดีอาญาแก่ผู้อื่น อันเป็นความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 175 และ 157 จึงขอชี้แจงว่าไม่ใช่อย่างที่คุณเข้าใจหรอก
ขอให้ดูฎีกาที่ 1131/2536 .ที่ตัดสิน กรณีความคุ้มครองของรัฐธรรมนูญต่อประกาศคณะปฏิวิติ คือ รสช ในเวลานั้น ครับ เคยมีแนววินิจฉัยไว้ดังนี้ว่า...
....อนึ่งที่ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ. 2534 มาตรา 32บัญญัติว่า "บรรดาการกระทำ ประกาศหรือคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติที่ได้กระทำประกาศหรือสั่งก่อนวันใช้ธรรมนูญการปกครองนี้ทั้งนี้ ที่เกี่ยวเนื่องกับการยึดและควบคุมอำนาจปกครองแผ่นดินเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 ไม่ว่าจะกระทำด้วยประการใดหรือเป็นในรูปใด และไม่ว่าจะกระทำ ประกาศหรือสั่งให้มีผลใช้บังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ ให้ถือว่าการกระทำ ประกาศหรือคำสั่ง รวมทั้งการกระทำของผู้ปฏิบัติตามประกาศ หรือคำสั่งนั้นตลอดจนการกระทำของบุคคลใด ๆซึ่งได้กระทำเนื่องในการยึดหรือควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดินดังกล่าว เป็นการกระทำ ประกาศหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย" นั้น เป็นเพียงการรับรองโดยทั่วไปว่า ประกาศหรือคำสั่งของ รสช. ดังกล่าวมีผลให้ใช้บังคับได้เช่นกฎหมายเท่านั้น มิได้บัญญัติรับรองไปถึงว่า ให้ใช้บังคับได้แม้เนื้อหาตามประกาศหรือคำสั่งของ รสช. ดังกล่าวขัดหรือแย้งต่อธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ. 2534 แต่อย่างใด ... |