ในฐานะที่เคยสัมผัส กับ คตส. คดีที่เกี่ยวกับนายกทักษิณ อย่างน้อย 2 คดี ผมเห็นชัดๆเลยครับว่า คตส.ไม่เป็นกลาง มุ่งเน้นเอาผิดอย่างเดียว ตามหลัการของกระบวนการยุติธรรม ต้องฟังความทั้งสองฝ่ายก่อนแล้วจึง ตัดสินไปตามเนื้อความ ว่าฝ่ายไดผิด ฝ่ายใดถูก แต่ คตส.จะตั้งเธงใว้ก่อนว่าผิด แล้วจึงไปเปิดข้อกฎหมายว่าผิดมาตราใด และ หาหลักฐานมาสนับสนุนความผิดนั้น ข้อหาบางอย่างจึงผิดหลักกฎหมาย ผิดหลักเกณท์การปฎิบัติของหน่วยงาน
เมื่อตั้งข้อกล่าวหาแล้ว บางครั้งถุกติงจากเจ้าหน้าที่ที่ รู้จริงว่าไม่ถูกต้อง หรือไม่เห็นด้วย คตส.ก็ลงทุนทั้งล็อบบี้ ทั้งสั่งการ แทรกแซง กระบวนการทำงานระดับเจ้าหน้าที่ เมื่อเจอ จนท.ที่ยึดมั่นในหลักการไม่ยอมทำตาม ก็ขอไปที่หน่วยงาน ให้เปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่ท่านนั้นเสีย เอาคนของตัวเองมาทำหน้าที่แทน
แล้วถามว่าหน่วยงานทำไมต้องทำตาม ก็เพราะระดับหัวหน้าหน่วยเมื่อปฎิวัติเสร็จก็ทำการโยกย้ายคนของตัวเองมาทำหน้าที่แทน จึงเป็นการง่ายที่จะสั่งการ หากคนใดที่เห็นว่าเป็นพวกทักษิณ ก็หาทางกำจัด เช่นนายศิโรฒน์ สวัสดิ์พานิชย์ อธิบดีกรมสรรพากร ถูก ปปช.สอบและให้ใล่ออกจากราชการ เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินตรงกันว่า นายศิโรฒน์ ไม่ผิด