+++++ ตอบแมวน้ำสีคราม จากกระทู้ P11765192 และเพิ่มเติมถึงโบกกรัก +++++
|
 |
คุณแมวน้ำสีคราม มันไม่ลำบากหรอกที่จะตอบคำถามของคุณ หากผมมีเวลาหรือเห็นกระทู้ของสมาชิกผมตอบหเสมอ กรณีของคุณ ผมตอบรวมๆไปให้สองกระทู้ก่อนเพราะคิดว่าคุณน่าจะมีปัญญาเข้าใจเองได้ และเมื่อเช้าผมติดตอบกระทู้อื่นอยู่ ไม่มีเวลามาลงรายละเอียดกับกระทู้คุณ ตอนบ่ายนี้มีเวลา ก็ยินดีเคลียร์ให้ ผมจะไล่คำถามคุณไปทีละคำถาม เอามาจากกระทู้ล่าสุดของคุณ P11765192
1 ) คตส.มีอำนาจสั่งฟ้องเองได้หรือไม่..? ( ดูคดีหมายเลขดำ อม.4/2551 )
ตอบ มีอำนาจฟ้องเองได้ตามเงื่อนไขตามประกาศคปค ฉบับที่ 30 ดังที่ผมลงไว้ให้ตั้งแต่กระทู้ P11761214 แล้ว คุณไม่ได้อ่านดอกหรือ ประกาศนี้ รธน2549 และ รธน 2550 รับรองว่าเป็นกฎหมายใช้ได้ คตส สามารถฟ้องคดีได้เองหากส่งเรื่องให้อัยการแล้วอัยการไม่ยอมสั่งฟ้อง แต่คตส เห็นว่าควรสั่งฟ้อง ประเด็นนี้ คุณจะถามมาทำไม เพราะผมบอกมาแต่กระทู้แรกๆแล้วว่า คตส สามารถสั่งฟ้องเองได้ตามเงื่อนไขดังว่า แต่ในความเป็นจริง ในคดีทักษิณ 3 คดี คตส ส่งเรื่องให้อัยการ และอัยการเป็นผู้ฟ้อง
คดีหมายเลขดำ อม.4/2551 ที่คุณอ้างมาก็เป็นไปตามที่ผมสรุปมาตั้งแต่กระทู้แรก คดีนี้ คตส ส่งเรื่องให้อัยการและอัยการเป็นผู้ฟ้องคดี ไม่ใช่คตส เป็นผู้ฟ้องคดี คุณอย่างไปสับสน อ่านดูให้ดีๆว่าอัยการเป็นคนฟ้อง คำพิพากษาคดีระบุชัดเจนว่าเป็นคดีของอัยการสูงสุดฟ้อง หรือดังคำพิพากษาที่ระบุตอนท้ายว่า “ว่า คดีนี้อัยการสูงสุดเห็นครั้งแรกว่ามีข้อไม่สมบูรณ์แต่เมื่อประชุมกับ ปปช.ซึ่งทำหน้าที่แทน คตส.แล้วมีมติให้ยื่นคำร้อง เท่ากับความเห็นครั้งแรกยุติลงไปแล้ว และคดีนี้ไม่ใช่คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาจึงไม่จำต้องไต่สวนต่อหน้าผู้ถูกกล่าวหา จึงมีมติด้วยคะแนนเอกฉันท์ว่าอัยการสูงสุดผู้ร้อง มีอำนาจร้องคดีนี้” ดังที่ผมบอกคณทองรำไรมาแต่แรกแล้วว่าคดีนี้ และคดีทักษิณอีก 2 คดี ล้วนเป็นอัยการร้องต่อศาล ไม่ใช่คตส.
แล้วตกลงคุณยังมีปัญหากับผมเรื่องอะไรหรือคุณ ?
2 ) กรณีจะใช้ ม.157 กับ 175 กับ คตส ได้หรือไม่..? ( ดูคดีหมายเลขดำที่ อ.1770/2550 ) ตอบ – ใช้ได้สิ หากสงสัยว่าคตส. มีกระทำผิดตามมาตรา 157 หรือ 175 ก็สามารถจะฟ้องได้ เพราะอยู่ภายใต้บัญญัติรัฐธรรมนูญ ที่บัญญัติไว้ว่าทุกคนที่ทำผิดกฎหมายอาญา จะต้องรับผิดทางอาญา ประเด็นมันอยู่ที่คตส ได้ไปกระทำผิดมาตรา 157 หรือ 175 หรือเปล่า กระทำผิดกฏหมายอาญาใดๆระหว่างปฏิบัติหน้าที่หรือเปล่า
คดีที่คุณยกมา ที่ อ.1770/2550 ก็ยืนยันความจริงข้อนี้ “....ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษากันแล้วเห็นว่า ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข (คปค.) ฉบับที่ 30 ให้อำนาจ คตส. ตรวจสอบและดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ซึ่งหากมีการกล่าวหา คตส. ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช. ต้องให้ ส.ส. ส.ว. หรือสมาชิกร่วมทั้ง 2 สภา เข้าชื่อเสนอประธานวุฒิสภาตรวจสอบและดำเนินคดียื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดี อาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามมาตรา 11 พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช. คดีจึงอยู่ในอำนาจศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง ศาลอาญาชั้นต้นไม่มีอำนาจพิจารณาคดีพิพากษาคดี ตามมาตรา 4 พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2542”
คุณไม่เห็นหรือศาลวินิจฉัยไว้ชัดเจนว่า “คดีจึงอยู่ในศาลอำนาจศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง” นั้นเป็นการยืนยันว่า ฟ้องอาญากับคตส.ได้ แต่ให้ไปฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และฟ้องนี้ จะฟ้องข้อหาอาญาใดก็ได้ หากเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ เช่น กรณี วัฒนา เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถูกศาลนี้พิพากษาความผิดอาญา มาตรา 148 เป็นต้น
ผมถามคุณกลับ คุณเคยอ้างในกระทู้ P11764220 ว่าจะใช้ ม.175 หรือ 157 ในกรณีคตส..มิได้ เพราะ คตส. ทำหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งตามประกาศคณะปฏิรูป ฉบับที่ 30 ที่ให้อำนาจ คตส. ตรวจสอบและดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ปปช 2542 มีตรงไหนครับคุณ ที่เขาอนุญาตให้ คตส ทำผิดกฎหมาย มาตรา 175 หรือ 157 ?
คตส เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยสุริต หากปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เกิดควาเสียหาย ย่อมผิดตามมาตรา 157 และถูกฟ้องร้อง หรือหากใช้อำนาจในการฟ้องคดี ทำการฟ้องคดีอาญาแก่ศาลโดยมิได้มีการกระทำผิดจริง ก็ต้องผิดมาตรา 175 แล้ว มีกฎหมายอะไรมายกเว้นให้คตส ไม่ผิด
อธิบายมาให้ฟังหน่อยสิ
3 ) คดีกล้ายางจบไปแล้ว แต่คุณบอกว่ายังไม่จบ ตอบ – ผมไม่ได้ตามลงไปละเอียดหรอกคุณว่ามันจบหรือไม่จบ หากคดีมันจบแล้วก็ดีสิคุณ แล้วคุณสรุปได้หรือยังว่า ตกลงคดีนี้ที่คตส กินเองชงเอง อย่างคุณทองรำๆไรว่าหรือไม่ และ ศาลได้พิพากษาไปแล้ว ทำให้ผู้ถูกกล่าวหามีความผิดเพราะการกินเองชงเอง อย่างที่เสื้อแดงวิจารณ์หรือไม่
เพราะประเด็นที่เถียงกันมาแต่แรกนะ มันอยู่ตรงนี้ ต่างหากว่า การกินเองชงเอง ของคตส นะมีผลร้ายผลเสียอย่างไร แล้วตกลงสรุปคดีนี้ คตส กินเองชงเอง แล้วคดีมีผลเสียต่อผู้ถูกกล่าวหาหรือไม่ อย่างไร
ตอบได้ไหม

ฝากถึงโบกกรักอีกที
เกรงว่าคุณอาจมีสมาธิสั้น ไม่สามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ผมลงไว้ให้ได้ ผมยินดีสรุปไว้เป็นข้อ อีก ที หากคุณมีฎีกา หรือ ข้อกฎหมายที่แย้งข้อสรุปต่อไปนี้ ก็ว่ามาเลย อย่ายกอะไรขึ้นมาลอยๆ
1. ฎีกาศาล 1131/2536 มีแนววินิจฉัยไว้ว่า เมือรัฐธรรมนูญรับรองประกาศคณะปฏิวัติ การรับรองนั้น เป็นเพียงการรับรองให้เป็นกฎหมายเท่านั้น มิได้รับรองจนสามารถขัดแย้งกับตัวรัฐธรรมนูญเองได้
2. ในทางปฏิบัติ ประกาศคณะรัฐประหารทั้งหลายทุกฉบับ (ยกเว้นที่ประกาศยกเลิกการใช้รัฐธรรมนูญ) จะมีศักดิ์สูงสุดได้เพียง พระราชบัญญัติ ไม่เคยปรากฏว่าประกาศเหล่านี้ มีศักดิ์กฎหมายสูงกว่าพระราชบัญญัติ (ยกเว้นที่ประกาศยกเลิกการใช้รัฐธรรมนูญ) ประกาศ คปค เองก็มีศักดิ์เพียงพระราชบัญญัติ ดังจะเห็นได้จากการแก้ไข พระราชบัญญํติก็สามารถแก้ไขความในประกาศได้ ไม่ต้องออกเป็นกฎหมายรัฐธรรมนูญมาแก้ประกาศคณะรัฐประหาร (ไปดูรายละเอียดเพิ่มในกระทู้ P11764926)
3. กฎหมายใด ที่มีศักดิ์เท่ากับพระราชบัญญัติหรือน้อยกว่า ล้วนถือเป็นกฎหมายทั่วไป มิอาจจะขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่ในเวลานั้นๆได้ ดังนั้น ประกาศคปค ทุกฉบับ จึงตกอยู่ใสภาพที่ไม่อาจจะขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญได้
4. มาตรา 309 ของจริง (ไม่ใช่อันที่คุณไปต่อเติม) บัญญํติไว้เพียงรับรองว่า ประกาศ และการกระทำต่อเนื่องของ คปค ได้รับการรับรองเป็นกฎหมาย “โดยให้ถือว่าการนั้นและการกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้” นั้นคือรับรองว่าเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่มิได้หมายความว่ารับรองว่า ให้การกระทำนั้น สามารถไปขัดต่อบทบัญญํติแห่งรัฐธรรมนูญในมาตราอื่นๆได้ กรณี คตส
5. การปฏิบัติงานของคตส หากกระทำโดยไม่ไปผิดกฎหมายอื่นๆเข้า ย่อมได้รับการคุ้มครองตามมาตรา 309 ว่าเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่หากคตส ไปกระทำผิดกฎหมาย เช่น ใส่ความผู้อื่นต่อศาล ปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้ผู้ใดเสียหาย หรือไปขโมยข้าวของคนอื่นระหว่างปฏิบัติหน้าที่ หรือไปทำร้ายหรือฆ่าผู้อื่นระหว่างปฏิบัติงาน เช่นนี้ ย่อมถือว่าทำผิดกฎหมาย และรัฐธรรมนูญมาตรา 39 บัญญัติไว้ให้รับผิด โดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
สรุป การคุ้มครองของมาตรา 309 จึงมีเพียงคุ้มครองให้การกระทำนั้นเป็นการกระทำที่ถูกกฎหมาย ตามนัยฎีกาที่เคยยกมา เพราะในเวลานั้น หรือเวลาต่อมา กฎหมายโดยตรงที่คุ้มครองการทำงานของคตส และผลเกี่ยวเนื่อง ให้เป็นสิ่งถูกกฎหมายอาจหมดสภาพไปแล้ว ต่างจากการทำงานของปปช ที่มีกฎหมายรับรองไว้ มาตรา 309 นี้จึงคุ้มครองให้คตส หรือคณะที่ทำงานต่อ หรือผลการสืบสวนมีสภาพกฎหมาย สามารถสอบสวนสืบสวน ผลการสอบสวนสืบสวน สามารถนำไปใช้ฟ้องร้องตามกฎหมายต่อศาลได้ แต่ไมไ่ด้คุ้มครองให้ไปขัดรัฐธรรมนูญที่บัญญัติไว้ว่าหากมีการกระทำที่ไปละเมิดกฎหมายอื่น อันจะต้องรับผิดตามบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 39
ดังนั้น ที่คุณเข้าใจไปว่า มาตรา 309 นี้ คุ้มครองไม่ให้คตส มีความผิดในข้อหาอาญาได้ จึงไม่เป็นความจริง เพราะบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 39 บังคับไว้อยู่
หรือคุณจะยกกฏหมายข้อใดมาหักล้างรัฐธรรมนูญมาตรา 39 ก็ยกมาให้ดู
จากคุณ |
:
thyrocyte
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ก.พ. 55 16:19:15
A:58.137.0.146 X:
|
|
|
|