 |
เงื่อนงำของการที่ สนธิฯ รับสารภาพ...เรื่องนี้ "ไม่ขำ" ครับ...ถ้าไม่รับสารภาพ กระบวนการสืบสวนจะยิ่งขุด ยิ่งลึก ยิ่งเจอ
|
 |
เงื่อนงำของการที่ สนธิฯ รับสารภาพ...เรื่องนี้ "ไม่ขำ" ครับ...ถ้าไม่รับสารภาพ กระบวนการสืบสวนจะยิ่งขุด ยิ่งลึก ยิ่งเจอ
ย้อนรอยคดีไออีซี-ขุดพฤติการณ์จำเลยร่วมก่อนถึงวันศาล จำคุก "สนธิลิ้ม" 85 ปี
การรับสารภาพของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ในฐานะกรรมการบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จำเลยในคดียื่นเอกสารเท็จ ค้ำประกันเงินกู้ให้กับบริษัทเดอะ เอ็มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กับธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) รวม 6ครั้ง จำนวน 1,078 ล้านบาท ต่อศาลอาญา รัชดาฯ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สร้างความ ประหลาดใจให้กับบรรดาคอการเมืองและนักกฎหมายไม่น้อยทีเดียว
หาก ต้องการยื้อคดีออกไปได้อีก นายสนธิสามารถสู้คดีด้วยการปฏิเสธ ข้อกล่าวหา เพราะคดีนี้ยืดเยื้อมานานตั้งแต่ปี 2539 อีกทั้งฐานความผิด ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 307 311 312(2) ประกอบ 313 มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 20 ปี
น่าแปลกตรงที่นายสนธิกลับรับสารภาพอย่างหมดเปลือกและขอ เมตตาธรรมจากศาล
"ผมเพียงแต่ขำเท่านั้นเองว่าผมผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ ผมโดนไป 80 ปี ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ใช่คนที่ค้ายาเสพติด หรือไม่ได้ไป เผาบ้านเผาเมืองใคร แต่ไม่เป็นไร ในฐานะที่ผมรับสารภาพ ก่อนการสืบคดีสิ้นสุด ศาลสถิตยุติธรรมมีมติจะพิพากษาผมอย่างไร ผมยอมรับในมตินั้น ไม่ตัดพ้อต่อว่า เพราะผมต้องการทำให้ผม เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าเมื่อผิดต้องยอมรับผิด"
นั่นเป็นถ้อยคำให้สัมภาษณ์ของนายสนธิ ปัจจุบันเป็นแกนนำพันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หลังศาลให้ประกันตัว
ความจริงแล้วคดี แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป ยื่นเอกสารเท็จค้ำประกัน เงินกู้แบงก์กรุงไทยดังกล่าว ค้างอยู่ในศาลอาญานานถึง 16 ปีเต็ม ๆ ถือได้ว่าเป็นคดีที่ค่อนข้างมีเงื่อนงำซับซ้อน
ถ้าย้อนอดีตจะพบมีคดีที่เกี่ยวโยงกับ "เดอะ เอ็มกรุ๊ป" พฤติกรรมในคดี คล้ายคลึงกันอย่างยิ่ง
กล่าวคือทำเอกสารเท็จ และมีเป้าหมายเพื่อกู้เงินแบงก์กรุงไทย อีกทั้งผู้กระทำผิดคือ "นายสุรเดช มุขยางกูร" ก็เป็นจำเลยร่วม กับนายสนธิ
คดีดังกล่าวนั้น เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2542 คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย (ก.ล.ต.) กล่าวโทษ นายสุรเดช มุขยางกูร กรณีลงข้อความเท็จในรายงานการประชุมคณะกรรมการบริษัทที่ มีข้อความว่าที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทอินเตอร์แนชั่นแนล เอ็นยิเนียริ่ง จำกัด(มหาชน)หรือไออีซีอนุมัติให้ไออีอีซี เข้าทำสัญญาเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ของบริษัทเดอะ เอ็ม.กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ต่อธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในนามของไออีซี อันเป็นกิจการที่เกินขอบเขตที่คณะกรรมการของไออีซีกำหนดไว้ และต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการของ ไออีซี ก่อน
พฤติการณ์ของนายสุรเดช ทำให้ ไออีซี มีภาระหนี้ค้ำประกันจำนวน 1,178 ล้านบาท อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 307 311 312(2) ประกอบ 313 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
ต่อมาในวันที่ 28 มิถุนายน 2554 ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษา ว่านายสุรเดช มุขยางกูร มีความผิดตามมาตรา 307 311 312(2) และ 313 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ การกระทำความผิดของ จำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษตาม มาตรา 91 แห่งประมวลกฎหมายอาญา โดยลงโทษดังนี้
(1) ฐานเป็นกรรมการลงข้อความเท็จในรายงานการประชุม เพื่อลวงให้นิติบุคคลหรือผู้ ถือหุ้นขาดประโยชน์อันควรได้ตาม มาตรา312(2)แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯให้ จำคุก5ปีและปรับ 500,000 บาท
(2) ฐานเป็นกรรมการกระทำผิดหน้าที่ของตนโดยทุจริตจนเป็นเหตุ ให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของนิติบุคคล
(3)ฐานเป็นกรรมการกระทำการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควร ได้โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อตนเองหรือผู้อื่นตามมาตรา 307 311 ประกอบ313 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท จึงลงโทษ ตามมาตรา 313 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นกฎหมาย บทที่มีโทษหนักที่สุด ตามมาตรา 90 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ให้จำคุก 5 ปี และปรับ 2,356,000,000 บาท
แต่เนื่องจากจำเลยรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุ บรรเทาโทษ จึงลดโทษกระทงละกึ่งหนึ่ง เหลือกระทงละ 2 ปี 6 เดือน ปรับกระทงละ 250,000 บาท และ 1,178,000,000 บาท ตามลำดับ รวมลงโทษจำคุก 4 ปี 12 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และปรับ 1,178,250,000 บาท
พฤติการณ์ความผิดของนายสุรเดช ในคดีไออีซี กับพฤติการณ์ของ นายสุรเดช ในคดีแมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป ที่ตกเป็นจำเลยร่วมกับ นายสนธินั้น จึงน่าจะไม่ใช่ "เรื่องขำ ๆ" เหมือนเช่นนายสนธิ ให้สัมภาษณ์ที่บันไดของศาลอาญารัชดาแต่อย่างใด
...
จากคุณ |
:
นายผอมจอมซ่า
|
เขียนเมื่อ |
:
2 มี.ค. 55 05:29:35
A:180.183.120.130 X:
|
|
|
|  |