ค.birdeyeview คุณต้องถาม ค.ปู่อภิวัฒน์ ค.ลุงอัสดร ค.ทวดเอง ค.คนอุบล และขอบคุณค.ดีไม่ห่างเหินได้เห็น ค.thyrocyเปลือยกาย

ยาวนิดนึง แต่ คุณเข้าใจแน่ครับ

เรื่องพวกนี้ คุณ birdeyeview ตอน ปรส. นั้นยังคงไม่ประสีประสาเรื่องการเมือง อ่านแต่ข่าวฆ่ากันตาย ดารามั่วยา มั้วเซ็กซ์ คุณต้องถามท่าน "พหูสูตร" ที่ผมได้เอ่ยนามที่หัวกระทู้ข้างต้นนะครับ พวกท่านรู้ดี เพราะ พวกท่านนั้นอ่านข่าวการเมืองสมัยคุณยังคงเป็นนักเรียนมัธยมอยู่มั้งครับ

เรื่องปัญหาการลดค่าเงินบาท คุณต้องไล่ตั้งแต่ นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ ถ้าอยากรู้ว่าเขาเป็นใคร ทำงานสมัยไหน ให้คลิกชื่อเขาครับ ท่านนี้ เป็นคนประกาศให้ประเทศไทยใช้ระบบ BIBF เพราะ ด้วยความที่มองว่า ถ้า ฮ่องกง (ในเวลานั้น) หมดสัญญาเช่าจากอังกฤษ ฮ่องกง จะไม่ได้เป็นศูนย์กลางทางการเงินอีกต่อไป และคิดใหญ่ ว่า ไทยจะเป็นศูนย์กลางทางการเงินแทนฮ่องกง โดยไม่ได้มองศักยภาพของประเทศ

คุณมีพันล้าน คุณสามารถปั่นหุ้นประเทศไทยได้ แต่ คุณมีหมื่นล้าน คุณไม่สามารถปั่นหุ้นที่นิวยอร์คได้ครับเพราะ ขนาด Market Capitalize นั้น มันฟ้ากะเหว

เพราะ BIBF รัฐบาลคุณชวน ออกกฏว่า Non-Resident สามารถเปิดบัญชีเงินฝากที่เป็น USD ได้ ทั้ง ๆ ที่ ตัวธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ได้ลอยค่าเงินบาท โดยกำหนดให้อยู่ 25 บาท นี่คือความผิดมหาศาล เพราะ ถ้าให้มี Non-Resident Account ต้องปล่อยให้เงินบาทเป็นอิสระครับ..... ธ. แห่งประเทศไทยจะไปค้ำจุนค่าเงินบาทไม่ได้

เหล่า ธนาคาร และ ไฟแนนซ์ เมือเห็นนโยบาย BIBF ก็กู้เงิน USD โดยใช้อัตราดอกเบี้ย USD มาปล่อยกู้บริษัทไทย บริษัทไทยเห็นอัตราดอกเบี้ยถูก กู้เป็น USD ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนตอนถึงเวลาชำระคืน กู้กันมหาศาล ที่เห็น ดัง ๆ ก็ กลุ่มทีพีไอ กลุ่มไทยเมลอนโพลีเยสเตอร์ ไทยคอปเปอร์ พี่น้อง กาญจนพาสน์ (ธนายง และ เมืองทอง)

กอปรกับ ยุค อสังหาริมทรัพย์เฟื่องฟู ธ.แห่งประเทศไทย ขาดประสิทธิภาพในการตรวจสอบ บ. เงินทุนหลักทรัพย์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ใช้มูลหนี้ค้ำประกันน้อยกว่า 50% ของเงินกู้ แต่การตรวจสอบว่าผิดไม่เคยปรากฏ

สมัย 2538-2539 ผมซึ่งเป็นสมาชิกของพวก Financial Controller ในกลุ่มบริษัทต่าง ๆ ของนิคมอุตสาหกรรมบางปู เรายังพูดเรื่องเงินบาทว่า มันแพงเกินไป มันน่าจะอยู่ที่ 40 บาท แต่ รัฐบาล (สมัยนายชวน หรือ บรรหาร ถ้าจำไม่ผิด) ยังปล่อยให้ ธ. แห่งประเทศไทยสู้กะเงินดอลล่าร์อยู่ทำไม สรุปในวงข้าว เราก็บอกกันว่า รัฐบาลกลัวหลุดจากอำนาจ เพราะ ปล่อยเงินบาทลอยตัวเมื่อไหร่ รัฐบาลล้มแน่

จนมาถึงรัฐบาล พล.อ. ชวลิต ธ.แห่งประเทศไทยหมดหน้าตัก สู้ค่าเงินบาทไม่ได้ นั่นแหละ พล.อ. ชวลิต ถึงต้องประกาศลอยค่าเงินแบบไม่มีทางสู้ หรือแปลว่า ปล่อยให้ระบบการเงินพังครืน เพราะการดื้อรั้น ยันค่าเงินบาทของ ธ.แห่งประเทศไทย ปัญหา เกิดแต่ ธ. แห่งประเทศไทย กับ นายกฯ 2-3 สมัย.... แล้วจะให้ ธ. แห่งประเทศไทยรับผิดชอบไม่ได้หรือครับ

วันประกาศค่าเงินลอยตัว ใครกู้เป็น USD ตายหมด เพราะ กู้มา USD ละ 25 บาท แต่ตอนใช้หนี้ใช้ที่ USD ละ 40+ บาท (ถ้าจำไม่ผิด เขาให้ Grace Period 2 ปี) บริษัทผมเป็นของฝรั่งเศส ใช้ Bank Guarantee จากเมืองนอกมาค้ำประกันเงินกู้ที่เป็นเงินบาท กู้เป็นบาท เสียดอกเบี้ยเป็นบาท ถึงไม่เดือดร้อน แต่เหล่าบริษัทที่โลภมาก อยากจะได้ดอกเบี้ยถูก โดนหมด บางคนล้มละลาย อย่าง ไทยเมล่อนฯ บางคนต้องเอากิจการไปให้เจ้าหนี้ เหมือนกลุ่ม ทีพีไอ

สิ่งทีกระทบคนในประเทศคือ ราคาน้ำมันครับ เพราะ ซื้อน้ำมันเมื่อก่อน จ่าย 25 วันนี้ ราคาน้ำมันเท่าเดิม แต่จ่าย 40+ นี่คือสิ่งที่ พล.อ. ชวลิต ต้องลาออก

ที่คุยกันว่า ทักษิณ รู้คืนวันที่ 1 ก่อนประกาศวันที่ 2 นั้น ถ้าคุณเป็นนักการเงิน คุณจะรู้ว่า มันโกหกทั้งเพครับ เพราะ การซื้อ Forwarding Rate นั้น ต้องรอการยืนยันจากนิวยอร์คก่อน (คุณรู้ไหม แค่คุณโอนเงินจากเมืองไทย ไป เขมร ยังต้องผ่านนิวยอร์ดเลยครับ) ถ้า เช้าวันที่ 2 ทักษิณ สั่งซื้อ Forwarding Rate ธนาคาร ไม่สามารถให้ Rate ได้ เพราะ มันคือ 2-3 ทุ่มที่นิวยอร์คครับ นิวยอร์คจะตอบกลับ ยืนยันการซื้อ Rate คือ บ่ายของวันที่ 3 และ รัฐบาลก็ประกาศค่าเงินเป็น Floating Rate ไปแล้ว คิดหน่อยจะรู้มันคือการเต้าข่าว

การแก้ไฟแนนซ์ล้ม โดยการตั้ง ปรส. ของ คุณชวน ผมว่า สติไม่ค่อยดี หรือ เชื่อ ธ. แห่งประเทศไทย เชื่อ รมต. คลังเกินไป ไฟแนนซ์ล้ม ควรปล่อยให้มันล้ม แล้วรัฐบาลมาคอยค้ำจุนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ แต่ คุณชวน กลับ เลือกช่วยคนรวย ช่วยผู้ถือหุ้นไฟแนนซ์ ช่วยนายทุน (เหมือนปัจจุบัน) ซึ่งอย่างที่คุณแมวน้ำสีคราม รณรงค์อยู่ เนื่องจาก คดี ปรส. นี้จะหมดอายุปีหน้า แต่ ปปช. ยังไม่ชี้มูลว่า ผิด หรือ ไม่ผิด คงรอเหมือนคดีป๋าเหนาะ ที่หมดอายุคาเขียงไปซะงั้น

แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 55 05:29:25

จากคุณ	: โบกกรัก
เขียนเมื่อ	: 3 มี.ค. 55 04:36:58 A:41.220.164.88 X: