2 มี.ค. 55  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย กล่าวในระหว่างการเยือนกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ในวันนี้ว่า เขาคาดหวังว่าเศรษฐกิจของไทยจะดีดตัวกลับขึ้นมาในไตรมาสแรกของปีนี้ ในขณะที่บรรดาบริษัทต่าง ๆ พากันเร่งเพิ่มผลผลิต หลังเกิดมหาอุทกภัยเมื่อปีที่แล้ว

          ในบรรดาเจ้าของธุรกิจที่ได้รับความเสียหายร้ายแรง ตอนที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมในหลายส่วนประเทศ คือ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อย่างฮอนด้า ที่ต้องระงับการผลิตของโรงงานหนึ่งแห่งที่จังหวัดอยุธยา เมื่อเดือนตุลาคม และต้องสูญเสียรถยนต์ไปมากกว่า 1 พันคัน ที่จำต้องปล่อยให้จมน้ำโคลน และกระแสน้ำยังไหลทะลักเข้าท่วมกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความเสียหายจากน้ำท่วมในภาคอุตสาหกรรมไปแล้ว

          นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า บรรดาบริษัทส่วนใหญ่สามารถกลับมาเดินสายการผลิตได้แล้ว และหลายบริษัทสามารถผลิตได้ในระดับเดียวกับก่อนที่จะเกิดวิกฤติ ซึ่งเขาได้พบปะกับผู้แทนจากบริษัทฮอนด้าเมื่อวานนี้ และได้รับการยืนยันว่า ภายในสิ้นเดือนนี้ พวกเขาจะกลับมาเปิดสายการผลิตอีกครั้ง โดยคาดว่า เศรษฐกิจจะกลับมาแข็งแกร่งอีกในไตรมาสแรกของปีนี้ 

          ฮอนด้า ระบุว่า มีแผนจะกลับมาเริ่มการผลิตที่โรงงานที่จังหวัดอยุธยา ภายในสิ้นเดือนมีนาคม และคาดว่าจะการผลิตจะกลับคืนสู่ระดับปกติในเดือนเมษายน 

          ประเทศไทยต้องเผชิญการหดตัวเป็นตัวเลขสองหลัก เมื่อช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2554 ที่นับว่าเลวร้ายที่สุด ด้วยเพราะมหาอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบครึ่งศตวรรษ ได้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับภาคอุตสาหกรรมของชาติ ระยะเวลาของน้ำที่ท่วมขังเป็นเวลาหลายเดือน ในพื้นที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นหัวใจสำคัญด้านอุตสาหกรรมทางตอนเหนือของไทย ได้ทำให้โรงงานหลายแห่งต้องปิดตัว 

          ผลสำรวจบริษัท 1,345 แห่ง จัดทำโดยหอการค้าญี่ปุ่นประจำกรุงเทพฯ หรือ JCCB พบว่า โรงงาน 1 ใน 10 ของญี่ปุ่นที่เปิดดำเนินการในประเทศไทย ต่างมีแผนจะย้ายฐานการผลิตหนีออกจากไทยแล้ว บริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็คทรอนิคส์ ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยกว่าครึ่งได้รับผลกระทบจากหายนะครั้งนี้โดยตรง ซึ่ง JCCB ได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยเร่งดำเนินแผนการควบคุมน้ำท่วมให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็ว